เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสเตอรอยด์
สเตอรอยด์ แบ่งเป็น 2 ประเภทตามต้นตอที่สร้างสเตอรอยด์ขึ้นมาคือ
สเตอรอยด์ธรรมชาติ ที่ร่างกายสร้างได้เอง
เป็นกลุ่มฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นในปริมาณเพียงเล็กน้อยเพื่อทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายให้เป็นปกติอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น ต้านการอักเสบ ลดอาการปวดต่างๆ หรือปรับความเครียด ปรับความอ่อนเพลียไม่มีแรงให้เป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานเป็นปกติ และอื่นๆอีกมากมายอย่างครอบจักรวาล
สเตอรอยด์สังเคราะห์ ที่บริษัทยาสร้างขึ้น
เนื่องด้วยคุณสมบัติในการรักษาของสารสเตอรอยด์มีมากมายนั่นเอง จึงทำให้บริษัทผลิตยา ผลิตยาสเตอรอยด์ขึ้นมาจำหน่ายโดยเลียนแบบสเตอรอยด์ที่ร่างกายสร้างขึ้น เพื่อใช้ในการรักษาทางการแพทย์ เป็นยาเคมี ที่ให้ผลในเรื่องการรักษาโรคได้ดีและรวดเร็วคล้ายสเตอรอยด์ธรรมชาติ แต่แตกต่างกัน ตรงที่สเตอรอยด์เป็นยาเคมีสังเคราะห์ และมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายมากกว่า มีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกัน มีหลายชนิดแต่ชนิดที่เรามักจะได้ยินคุ้นหู คือ เดกซาเมธาโซน และเพรดนิโซโลน
ประโยชน์ของสเตอรอยด์
แม้ว่าทางการแพทย์จะใช้สเตอรอยด์ในการรักษาโรค แต่เนื่องจากสเตอรอยด์มีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ ดังนั้นทางการแพทย์จึงมักจะเลือกใช้สเตอรอยด์เป็นลำดับท้ายๆ ในกรณีที่ไม่มียาที่รักษาอาการของโรคนั้นแล้ว หรืออาจใช้เพื่อการรักษาช่วงต้นที่เร่งด่วน เพื่อลดอาการ เช่น ใช้ต้านการอักเสบในโรคปวดข้อรูมาตอยด์ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ และนอกจากนี้สเตอรอยด์ยังมีฤทธิ์กดภูมิคุ้มกัน จึงมีการนำมาใช้เพื่อลดภูมิคุ้มกันในโรคแพ้ภูมิตนเองเพื่อไม่ให้โรคลุกลาม เช่น โรคเอสแอลอี (โรคพุ่มพวง), โรคสะเก็ดเงิน โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (โอ๋ ภัคจีรา ก็เป็นโรคนี้) ฯลฯ
แต่ทั้งหมดนี้ไม่ควรใช้ต่อเนื่อง ยกเว้น โรคบางโรค เช่น โรคแพ้ภูมิตัวเอง (รูมาตอยด์ เอสเอลอี สะเก็ดเงิน) หรือโรคหอบหืดให้พ่นสเตอรอยด์เมื่อจำเป็น
โทษของสเตอรอยด์
สเตอรอยด์สังเคราะห์เป็นสารที่มีผลต่อระบบต่างๆในร่างกายทุกระบบ ดังนั้นการใช้ยาสเตอรอยด์อย่างไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่อันตราย เช่น
1. กดภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ทำให้ติดเชื้อง่าย เป็นแผลที่ผิวหนังตามร่างกาย แขน ขา นิ้วมือ ทำให้แผลหายช้า บางรายแผลลุกลามทั่วร่างกายจนเกิดการติดเชื้อเข้าในกระแสเลือด และบางทีสเตอรอยด์อาจปิดบังอาการแสดงของโรคติดเชื้อ กว่าจะตรวจพบ เชื้อโรคก็ลุกลามรุนแรงมากจนทำให้เสียชีวิต
2. ทำให้เยื่อบุในกระเพาะอาหารบางลงและยับยั้งการสร้างเนื้อเยื่อกระเพาะ อาหารใหม่ อาจทำให้กระเพาะอาหารทะลุ หรือเลือดออกในกระเพาะอาหารโดยไม่มีอาการปวดท้องมาก่อน
3. ทำให้ ผู้ป่วยเบาหวานไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในช่วงปกติได้ จะมีระดับน้ำตาลสูง
4. ทำให้ผู้ป่วยความดันโลหิตไม่สามารถควบคุมระดับความดันโลหิต ให้อยู่ในช่วงปกติได้ จะมีระดับความดันโลหิตสูง แต่ไม่มีอาการเตือน เป็นภัยเงียบที่อาจทำให้เกิดเส้นเลือดในสมองแตก เสี่ยงเป็นอัมพฤต-อัมพาตได้
5. ทำให้กระดูกพรุน แตกหักง่าย ดังนั้น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคไขกระดูก ผู้อยู่ในวัยทอง ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรตรวจภาวะกระดูกพรุนหรือปรึกษาหมอก่อนใช้ยา
6. ทำให้อ่อนเพลีย กล้ามเนื้อบริเวณแขน และขาไม่มีแรง จึงปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้นผิดจังหวะหรืออาจหยุดเต้นได้
7. ยาหยอดตาที่ผสมสเตอรอยด์ ใช้ต่อเนื่องนานๆอาจทำให้เป็น ต้อหิน หรือทำให้เลนส์กระจกตาขุ่นเกิดเป็นต้อกระจก หรือทำให้เกิดติดเชื้อที่ตาได้ง่าย อาจถึงขั้นตาบอด ไม่ควรซื้อยามาหยอดเอง ควรไปให้หมอตรวจและสั่งยาให้ และต้องไปตรวจซ้ำตามหมอนัดทุกครั้ง เพื่อวัดความดันภายในลูกตาซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต้อหิน
8. สเตอรอยด์ชนิดยาทาภายนอก หากใช้นานๆติดต่อกัน จะทำให้ผิวหนังบาง เส้นเลือดที่ผิวหนังแตกง่าย จะเห็นรอยแตกสีม่วงแดงตามผิวหนังที่หน้าท้องและต้นขา ผิวหนังมีลักษณะเป็นมัน อักเสบมีผื่นแดง บางรายอาจเป็นสิวเห่อขึ้นทั้งตัว
9. ทำให้ อารมณ์แปรปรวนง่าย การใช้สเตอรอยด์ในขนาดสูง จะทำให้เกิดอารมณ์เป็นสุข จึงทำให้ผู้ใช้ชอบใช้จนติดยา แต่ใช้ไปนานๆอาจพบอาการที่เป็นผลข้างเคียงจากยาตามมาได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร กระสับกระส่าย ปวดศีรษะ หงุดหงิด เป็นต้น
10. การใช้สเตอรอยด์มากเกินขนาด จะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า “คุชชิ่ง ซินโดรม (Cushing Syndrome)” ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของการใช้สเตอรอยด์ในปริมาณที่มาก มีลักษณะที่สังเกตุได้ คือ
10.1 ใบหน้ากลมคล้ายพระจันทร์
10.2 มีไขมันพอกที่ต้นคอ ด้านหลังเป็นหนอก
10.3 ผิวหนังบาง มีรอยแตกสีม่วงแดงตามผิวหนังที่หน้าท้องและต้นขา
10.4 มีข้อมูลทางวิชาการยืนยัน ว่าผู้ที่มีอาการถึงขั้น คุชชิง ซินโดรม จะมีความเสี่ยงถึงขั้นเสียชีวิตจากโรคไตสูงถึง 12 เท่า เสี่ยงต่อกระดูกหักจากกระดูกผุ 23 เท่า
11. เมื่อร่างกายได้รับสารสเตอรอยด์เป็นเวลานานร่างกายจะหยุดสร้างสเตอรอยด์ตามธรรมชาติ ที่เคย สร้างเอง ดังนั้นเมื่อผู้ใช้หยุดใช้ยานี้อย่างกะทันหันจะทำให้ร่างกายขาดสเตอรอยด์อย่างฉับพลัน อาจเกิดภาวะช็อก หมดสติและเสียชีวิตได้หากนำส่งโรงพยาบาลไม่ทัน ดังนั้นหากสงสัยว่ากินสเตอรอยด์จากการซื้อมาเอง ไม่ใช่การรักษาโดยหมอ อย่าหยุดยาเอง ขอให้รีบไปปรึกษาหมอให้เร็วเพื่อหาทางลดยา
เว็บ web https://youtu.be/n0cSjByHBRI