ผู้เขียนเคยมีความคิดว่ากีต้าร์โปร่งมีแค่ไม้ และก็สาย ไม่ว่าจะเป็นตัวไหนดีดรวมทั้งดังแบบเดียวกัน ไม่น่ามีอะไรแปลก
หลังจากได้ได้โอกาสสัมผัส กับกีต้าร์โปร่งหลายประเภท ประกอบกับอ่านใจความ รวมถึงได้สนทนากับผู้มีประสบการณ์
จึงทำให้ทราบว่า จริงๆแล้วกีต้าร์โปร่ง เป็นทั้งศิลปะ(Art) แล้วก็วิทยาศาสตร์ (Science) ในตัวของมันเอง
หากจะเปรียบเทียบก็ดังไวน์ (Wine) ก็แค่ทางวิทยาศาสตร์ของเหล้าองุ่นเป็นชีววิทยา (Biology) ไม่ใช่กายภาพ(Physic)
สิ่งที่จำเป็นที่สุด เป็นทั้ง 2 อย่างนี้ จำต้องอาศัยประสาทสัมผัสของผู้คนเป็นตัวพิจารณาประสิทธิภาพของมัน มีเรื่องมากมาย
เกี่ยวกับกีต้าร์โปร่งที่น่าสนใจ รวมทั้งน่านำมากล่าวถึง อาทิเช่น
1. ชนิดของไม้ที่ใช้ประกอบกีต้าร์โปร่ง (Tonewoods)
คุณจะต้องทราบให้ได้ก่อนว่า ไม้ที่ใช้ประกอบทำกีต้าร์โปร่งนั้น มีไม้ชนิดใดบ้าง
แล้วก็ที่สำคัญคือ ไม้จำพวกใด ให้โทนเสียงแบบใด เพราะเหตุว่าไม้แต่ละชนิดต่างให้เสียงที่แตกต่าง
ไม้บางประเภทให้เสียงคม/แหลม หรือย่านเสียงสูงโดดเด่น
ไม้บางประเทให้เสียงที่ทุ้ม เบสเยอะแยะ ฟังรู้สึกอุ่นๆ
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ถ้าเกิดคุณสามารถรู้เรื่องในส่วนนี่ได้ คุณอาจจะได้กีต้าร์โปร่ง ที่ตรงตามความชอบของตัวคุณเอง
2. รูปร่างของกีต้าร์โปร่ง (Shapes)
กีต้าร์โปร่งมีอยู่หลายขนาด ซึ่งแต่ละขนาด ต่างก็มีหลายรูปร่าง(Shapes)ที่แตกต่างออกไป
แล้วก็แน่นอนว่า กีต้าร์ที่ต่างรูปร่าง(shapes) กัน ย่อมให้เสียงที่ไม่เหมือนกันออกไป ยิ่งไปกว่านั้น
ยังหมายคือว่า กีต้าร์โปร่งแต่ละรูปร่าง ก็เหมาะกับการเล่นในสไตล์ที่แตกต่างออกไปอีกด้วย
อย่างเช่น กีต้าร์ทรง Dreadnought จะเหมาะสมกับการเล่นแบบ Strumming หรือตีคอร์ด
ส่วนกีต้าร์ทรง O หรือ Grand ก็จะเหมาะสมกับการเล่นแบบPicking มากยิ่งกว่า ฯลฯ
ด้วยเหตุนั้น คุณจะต้องรู้ดีว่า กีต้าร์ดโปร่ง shapes ใด ให้เสียงแบบไหน และก็เหมาะสม
3. เรื่องของ Bracing
ส่วนส่วนประกอบภายในของกีต้าร์โปร่ง บางทีอาจจะเป็นเรื่องลึกซึ้งสักนิด
แต่ว่าทราบไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะ Bracing เป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของการกำหนดเสียง
ว่าอยากให้กีต้าร์โปร่งตัวนั้นๆโด่ดเด่นเขตเสียงใด (ควบคู่ไปกับจำพวกของไม้)
อาจจะเรียกอีกอย่างว่า ส่วนนี้เป็นส่วนเสริมเอกลักษณ์ของเสียง ว่าจะให้กีต้าร์ตัวนั้น มีเอกลักษณ์ของเสียงเช่นใด
4. โครงรูปของไม้ (Solid, Laminated) และส่วนประกอบอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็น Tuners, Fret boards, Bridges, ฯลฯ ฯลฯ
สิ่งพวกนี้ จะช่วยทำให้คุณเข้าใจในเรื่องส่วนประกอบ ของกีต้าร์โปร่ง
ช่วยทำให้คุณรู้จักในการเลือกดู หรือวิเคราะห์ภาวะการประกอบของกีต้าร์ได้อย่างถ่องแท้เพิ่มมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบต่างๆย่อมเป็นสิ่งที่เสริมความรู้ในการเลือกกีต้าร์ให้กับคุณ อย่างแน่แท้
5. สายกีต้าร์ (String)
เว้นเสียแต่ไม้ หรือภาวะอื่นๆของกีต้าร์ จะมีอิทธิผลต่อเสียงของกีต้าร์
อีกสิ่งหนึ่งที่ละเลยไม่ได้เลยเป็นสายกีต้าร์ เดี๋ยวนี้...สายกีต้าร์ มีหลายชนิด
ต่างก็ให้เสียงที่ต่างกันออกไปบางชนิดเสริมเบสให้มากขึ้นบางชนิดเพิ่มเสียงแหลม เป็นต้น
ซึ่งเรื่องสายเกิดเรื่องที่สามารถทดลองผิดทดลองถูกได้ เพราะบางบุคคล ทดลองหลายมาแล้วหลายสิบแบรนด์ หรือหลายสิบรุ่น
กว่าจะเจอะสายที่ถูกใจ ดังนั้น ลองไปเรื่อยๆจะกว่าจะพบสาย...ที่คุณถูกอกถูกใจที่สุด ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
อีกสิ่งที่ไม่สามารถที่จะเป็น สภาพความพร้อมเพรียงของสายกีต้าร์ บางคนไม่เคยดูแล ปลดปล่อยให้ขึ้นสนิมอีกอย่างงี้...
ต่อให้กีต้าร์ดีแค่ไหน ก็ตกม้าตายด้วยเหตุว่าสายคุณไม่พร้อม เพราะฉะนั้น ควรเตรียมตัวนี้ไว้ด้วย
แนวทางไม่ยากเลย...ทุกๆครั้งที่เลิกเล่น ก็ควรถูด้วยผ้าสะอาด ก็คงจะดีนะครับ
6. ผู้ผลิตกีต้าร์ (Luthier)
บางคน เลือกซื้อกีต้าร์ เนื่องจากว่าชื่อชั้น เช่นเดียวกับคุณจะซื้อรถยนต์สักคัน
หลายคน ที่จะตัดสินใจซื้อ ก็มักจะพิจารณาถึงองค์ประกอบนี้ไปด้วย
อย่างน้อยๆถ้าหากซื้อมาแล้วรังเกียจ ก็ขายต่อได้ง่าย เพราะเป็นหนรู้จักของตลาด
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ศึกษาศึกษา ที่มาที่ไปของผู้ผลิต หรือเกียรติศักดิ์ของ(Brand) ไว้บ้างก็ดีแล้วครับ
7. สไตล์การเล่น (Style)
ก่อนที่จะซื้อกีต้าร์สักตัว จะทดลองตรึกตรองว่า ท่านชอบเล่นสไตล์อะไร? ก็น่าจะดี
เพราะเหตุว่ากีต้าร์บางตัว ก็เหมาะสมกับบางสไตล์การเล่น ซึ่งทั้งผองนี้ อาจจึงควรทดลองเล่นด้วยตัวคุณเอง
อาทิเช่น ถ้าคุณถูกใจเล่นสไตล์ตีคอร์ดมากกว่าเล่นสไตล์ Picking คุณก็จะต้องเล่าเรียนก่อนว่า
กีต้าร์ตัวนั้น...ที่คุณจะซื้อ มันเหมาะสมกับสไตล์ของคุณไหม?
8. การบำรุงรักษากีต้าร์
เมื่อซื้อกีต้าร์มาแล้ว ก็จึงควรศึกษาเพราะว่า คุณจะดูแลมันยังไง
ไม่ต่างกับการที่คุณจะมีรถยนต์สักคน ที่คุณจะต้องทำความเข้าใจถึงแนวทางการบำรุงรักษา หรือดูแล
เพื่อมันอยู่กับเราในภาวะที่สมบูรณ์ และก็นานที่สุด
ทุกหัวข้อดังที่ได้กล่าวมาแล้วมา ล้วนมีส่วนทำให้เกิดสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่นักเล่นกีต้าร์ทุกคนขวักไขว่ขว้า ซึ่งก็คือ "เสียง (Tone)"
เสียงที่นักเขียนพูดถึงนี้ มิได้เป็นประสิทธิภาพ หากแม้กระนั้นหมายความว่าคุณสมบัติแล้วก็ความแตกต่างของมัน
ดังเช่น กีต้าร์ 2 ตัว ทำจากไม้ประเภทเดียวกัน รูปทรง และส่วน ประกอบอื่นเหมือนกัน ทำโดยคนเดียวกัน
เล่นเพลงเดียวกันโดยคนเดียวกัน เสียงก็ต่างกันได้เพียงทำ Bracing แตกต่าง อย่างไรก็ตาม
นักเขียนเชื่อว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลสูงที่สุดต่อความแตกต่างของเสียงจากกีต้าร์แต่ละตัว คือ
"คนผลิตกีต้าร์" เพราะว่าผู้ผลิตชอบมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ก็เลยมานะทำให้กีต้าร์ที่ตนเองผลิตออกมานั้น
"มีเสียงส่วนตัว" โดยปรกติผู้เล่นกีต้าร์ทั่วๆไป บางทีอาจสามารถแบ่งประเภทประสิทธิภาพเสียงของกีต้าร์ 2 ตัว แม้กระนั้นจะให้ชี้แจง
คุณสมบัติของเสียงจากกีต้าร์ 2 ตัว อาจไม่ใช่ง่าย ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญแล้วก็คุ้นเคย หรือผู้สร้างบางทีอาจจะบอกได้
เปรียบได้กับนักชิมไวน์ ที่สามารถบอกประเภทแม้กระทั่งปีผลิตของไวน์ นั้นๆ
นักเขียนเองต้องขอออกตัวซะก่อนว่าไม่ใช่ผู้รอบรู้เกี่ยวกับกีต้าร์โปร่งทุกเรื่อง เรื่องไหนที่ชอบรวมทั้งสนใจเป็นพิเศษ
ก็จะค้นคว้ามาอ่านมากมายหน่อย คำแนะนำที่เขียนไปอะไรบางอย่างบางทีอาจมาจากความคิดเห็นโดยส่วนตัว
อะไรบางอย่างก็แปลมาจากบทความของผู้รู้ที่บันทึกไว้
เหตุเพราะอันนี้เป็นบทความฉบับแรก คนเขียนก็เลยต้องการจะเขียนอะไรกว้างๆไม่เจาะจงถึงสาเหตุ 8 หัวข้อที่กล่าวไว้ข้างต้น
เชื่อว่าผู้อ่านบทความนี้ คงมีตั้งแต่ผู้ที่ไม่คุ้นเคย ไม่เคยเล่นกีต้าร์ กำลังฝึกฝนเล่น เล่นเพียงพอเป็น... หรือเป็นแล้ว
ไปจนไปถึงผู้เชี่ยวชาญ สำหรับบุคคลประเภทแรกก็คงจะควรจะมีคำถามมากที่ต้องการคำตอบ
ส่วนบุคคลประเภทข้างหลังก็คงควรจะมีคำตอบดีๆซึ่งนักเขียนยินดีรับฟัง แล้วก็นำมาแก้ไข เพื่อจะได้เป็คุณประโยชน์
อย่างแท้จริงกับพี่น้องชาวAcousticthai
“จะเลือกซื้อกีต้าร์โปร่งตัวไหนถึงจะดี?”
มั่นใจว่าทุกคนอาจจะเคยถามตนเองหรือไม่ก็ได้ยินอยู่เป็นประจำก่อนที่จะนักเขียน จะให้คำแนะนำออกไป
ต้องการจะให้ผู้อ่านพินิจข้อตกลงเกี่ยวกับตัวเอง ดังต่อไปนี้ เสียก่อน....
1. ใจรักเยอะแค่ไหน
2. ระดับความสามารถของการเล่น
3. สไตล์การเล่น
4. เวลา และความอดทน
5. สหายที่ให้คำปรึกษาหรือป็นที่พึ่ง
6. เงินในกระเป๋า
อย่าพึ่งสิ้นหวังครับผม มันฟังมองยาก แต่เรื่องจริงแล้ว ขอก็แค่เรารู้ดีว่าพวกเราอยากได้อะไร คนโดยมากชอบไม่รู้ว่า
ตนเองชอบอะไร? นักเขียนก็เลยต้อง ตั้งเงื่อนไขทั้ง 6ให้เป็นแนวทางเพื่อการซื้อกีต้าร์จะได้ง่ายขึ้น
ได้ของใกล้เคียง กับสิ่งที่เราคาดไว้ มากกว่าที่จะซื้อส่งๆ, ซื้อตามเพื่อนฝูง ดีราคาแพง หรือซื้อเพราะว่ามันงามดี
เวลาหาซื้อกีต้าร์ต้องเป็นขณะที่เป็นสุขที่สุด มากกว่าเวลาที่ได้มาแล้วด้วย เสมือนแสวงหา
ของรักของชอบยังไงยังงั้น
สำหรับผู้ที่ฝึกหัดเล่น ผู้เขียนไม่แนะนำให้ลงทุนซื้อ "กีต้าร์ราคาสูง" (ถึงจะมีอำนาจกำลังซื้อก็ตาม)
โดยที่ไม่รู้ดีว่าตนเองมีใจรัก เวลาและก็ความทรหดอดทนแค่ไหน เพราะสิ่งพวกนี้มีความสำคัญมากที่จะก่อให้เกิดการบรรลุเป้าหมาย
ถ้าเป็นไปได้ อยากเสนอแนะแนวทางขอยืมสหายมาทดลองเล่นดูก่อน (แต่ว่าจำเป็นต้องถนอมเสมือนเป็นของตนเองนะครับ)
หรือไม่ก็ซื้อมือสองที่ไม่ต้องลงทุนมากเท่าไรนัก เมื่อเล่นพอเพียงเป็นแล้ว รู้สไตล์การเล่นของตัวเองแล้ว
การเลือกซื้อกีต้าร์ที่สมควรจะดูง่ายขึ้น ควรไปดูกีต้าร์หลายๆร้าน เอาเพื่อนสนิทไปด้วย ไม่สมควรด่วนตัดสินใจ
เพราะว่ามันมองงาม หรือผู้ขายพูดว่าดีได้รับความนิยม คุณควรจะลองเล่นทุกตัวที่คุณพึงพอใจ... ด้วยสไตล์การเล่นของคุณเอง
โดยใช้เพลงเดียวกัน และให้สหายช่วยฟัง เอาใจใส่ต่อความรู้สึกของตัวเองต่อกีต้าร์ที่เล่นอยู่ ตัวที่คุณเลือกควรจะ
เป็นตัวที่กระชับมือ เล่นง่าย เหมาะสมกับสไตล์ที่คุณเล่นที่สุด แล้วถึงคิดถึงเงินในกระเป๋า
สิ่งที่นักเขียนต้องการจะฝากไว้เสียแม้กระนั้นเวลานี้เป็น "ไม่มีกีต้าร์ตัวไหนตัวเดียวในโลกที่จะสามารถทำทั้งหมดทุกอย่าง" หรือ
"ในทุกเหตุการณ์" ให้เราได้หมด ไม่เสมือนถุงเท้า,ถุงน่อง ที่มีชนิด One SizeFits All จังหวะที่คุณจะซื้อกีต้าร์
ตัวที่ 2, 3, 4 ที่ดีมากกว่า ในอนาคตมีแน่ๆ ถ้าคุณยังมีใจรัก
ถึงในขณะนั้น เชื่อว่าคุณก็คงจะมีความเข้าใจเรื่องประเภทของหน้าไม้ รูปร่าง แล้วก็องค์ประกอบอื่นๆของกีต้าร์โปร่ง
เพื่อใช้ในการพินิจกีต้าร์ตัวถัดไป ที่เหมาะสมกับคุณเพิ่มขึ้น
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
กีต้าร์ onlineเครดิตบทความจาก :
http://xn--12c4bma2cn8ca6b2a5o3b0bg.blogspot.com/Tags : online กีต้าร์,กีต้าร์ online
