ถิ่นกำเนิดของเกล็ดหอยกำเนิดของเทียนเกล็ดหอย มีถิ่นกำเนิดแถบริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและในทวีปอเมริกาเหนือ, และประเทศนิวซีแลนด์ ปัจจุบันแพร่กระจายพันธุ์ไปทั่วโลก
ลักษณะทั่วไปของเกล็ดหอย เทียนเกล็ดหอยเป็นพรรณไม้ล้มลุก
ลำต้นตั้งตรงมีแขนงมาก
ใบเทียนเกล็ดหอย ใบมี ชนิดแคบยาว เป็นรูปขอบขนาน ขอบใบเรียบหรือหยัก ผิวใบมีขนนุ่ม
ดอกเทียนเกล็ดหอย ออกดอกเป็นช่อรูปทรงกระบอก ก้านยาว ดอกเป็นสีเขียวอมน้ำตาล
ผลเทียนเกล็ดหอย ผลเป็นกระเปาะแตกได้ เมล็ดมี ลักษณะเป็นรูปรี รูปไข่หรือรูปไข่แกมขอบขนาน แบนคล้ายเรือ ประเภทด้านนอกนูนด้านในเว้า ผิวมันลื่นเรียบไม่มีขน เมล็ดเป็นสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลอมชมพู เเละมีขนาดกว้างประมาณ 1.1-1.7 มล. และยาวประมาณ 2.2-3.1 มิลลิตร เปลือกเมล็ดจะพองตัวเป็นเมือกเมื่อถูกความชื้น ผงจากเมล็ดจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือสีน้ำตาลอมชมพู มีรสร้อน ขม และหอม เมื่อถูกน้ำจะพองตัวเป็นเมือกเหมือนเมล็ดแมงลัก
ลักษณะเมื่อเป็นผง มีสีน้ำตาลปนชมพูอ่อน ๆ มีกลิ่นอ่อนๆ ไม่มีรสเป็นเมือกเมล็ดแป้งหายากมากรูปร่างค่อนข้างกลมมีทั้งเดี่ยวและหมู่เส้นผ่าศูนย์กลางเมล็ดเฉลี่ย 8 ไมครอน
การขยายพันธุ์ของเกล็ดหอย โดยการเพาะเมล็ด และหน่อเล็กๆ การ เพาะปลูกและการดูแล เทียนเกล็ดหอยเป็นไม้ล้มลุก เมื่อ เพาะแล้ว จะมีการแตกหน่อเป็นจำนวนมากจึงอยู่ได้นาน วิธีการ เพาะโดยการนำหน่อลง เพาะปลูกบนแปลงที่เตรียมไว้โดยการขุดดิน ย่อยดิน ใส่ปุ๋ยคอกผสมกับดินคลุกเคล้าให้เข้ากัน ยกร่อง ขุดหลุมลึกประมาณ 10 ซม.. นำหน่อลง เพาะ กลบดิน รดน้ำ ระยะ เพาะประมาณ 15x20 เซนติเมตร หรือปลูกลงกระถาง
องค์ประกอบทางเคมีของเกล็ดหอย สารเมือก(mucilage): 20-30% ประกอบด้วยน้ำตาลเชิงซ้อนที่มีน้ำตาลเชิงเดี่ยวหลาย ชนิด (galactose, glucose, xylose, arabinose, rhamnose, galacturonic acid, plantiobiose, sucrose, fructose) ส่วนใหญ่เป็น arabinoxylan กรดไขมันหลายชนิด: palmitic acid, stearic acid, linoleic acid, oleic acid
สารกลุ่มอื่นๆ: total fiber 85 %, soluble fiber 67-71%, ?-sitosterol, aucubin (irridoid), indicaine (alkaloid)
สรรพคุณ- เมล็ดมี คุณสมบัติเป็นยาบำรุงโลหิต แก้โลหิตจาง (เมล็ด)
- ใช้เป็นยาบำรุงกำลังและเส้นเอ็น (เมล็ด)
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน โดยส่วนที่เป็น psyllium fiber จะทำหน้าที่ในการดูดซับน้ำตาลจากทางเดินทางอาหารไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือด (เมล็ด)
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดไขมันในเลือด ลดการอุดตันของหลอดเลือด (เมล็ด)
- ใช้เป็นยาแก้ลมวิงเวียน หน้ามืดตาลาย แก้ลมขึ้นเบื้องสูง (เมล็ด)
- ช่วยแก้คลื่นเหียน (เมล็ด)
- ช่วยขับเสมหะ (เมล็ด)
- เมล็ดมีสรรพคุณเป็นยาแก้บิดเรื้อรัง (เมล็ด)
- เมล็ดนำมาแช่กับน้ำให้พองตัวแล้วใช้ดื่ม จะช่วยทำให้อุจจาระลื่นและเป็นยาระบาย จำพวกเพิ่มกากอาหาร (เมล็ด)
ตำรายาไทย: ใช้แก้ลมวิงเวียน แก้หน้ามืดตาลาย แก้โลหิตจาง บำรุงโลหิต แก้เลือดเดินไม่สะดวกที่ทำให้ปลายมือปลายเท้าเย็น แก้ลมขึ้นเบื้องสูง แก้บิดเรื้อรัง บำรุงกำลังและเส้นเอ็น แก้คลื่นเหียน ขับเสมหะ บำรุงเลือด เป็นยาระบาย จำพวกเพิ่มกากอาหาร
บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) ปรากฏการใช้เมล็ดเทียนเกล็ดหอย ในยา เยียวยากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏตำรับ”ยาหอมเทพจิตร” และตำรับ ”ยาหอมนวโกฐ” มีส่วนประกอบของเทียนเกล็ดหอย อยู่ในพิกัดเทียนทั้ง 9 ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มี สรรพคุณในการแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน แก้ลมจุกแน่นในท้อง
เทียนเกล็ดหอย เป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้ในตำรับยาแผนโบราณของไทยหลายตำรับ มีแหล่งกำเนิด แถบทวีปอเมริกาเหนือ ประเทศนิวซีแลนด์ ปัจจุบันแพร่หลายไปทั่วโลก และได้มีการนำมาใช้ในเครื่องยาไทย ที่เรียกว่า “พิกัดเทียน”
เครื่องยาพิกัดเทียน เทียนเกล็ดหอย จัดอยู่ใน “พิกัดเทียน” ที่ประกอบด้วย“พิกัดเทียนทั้ง 5” ได้แก่ เทียนดำ เทียนแดง เทียนขาว เทียนข้าวเปลือก และเทียนตาตั๊กแตน “พิกัดเทียนทั้ง 7” (มีเทียนเยาวพาณี และเทียนสัตตบุษย์ เพิ่มเข้ามา) “พิกัดเทียนทั้ง 9” (มีเทียนตากบ และเทียนเกล็ดหอย เพิ่มเข้ามา) สรรพคุณโดยรวม ของยาที่ใช้ในพิกัดเทียน คือ ช่วยขับลม แก้อาเจียน บำรุงโลหิต และใช้ในตำรับยาหอม
สปาสูตรหน้าใสด้วยเทียนเกล็ดหอย – ให้ใช้น้ำเทียนเกล็ดหอย 2 ส่วน (ให้เอาผงเทียนเกล็ดหอยมาแช่ด้วยน้ำร้อนคนไปเรื่อย ๆ จนพอง แล้วค่อยนำมาใช้), น้ำแตงกวา 5 ส่วน (ปอกเปลือกออกคั้นเอาแต่น้ำ), นมสด 2 ส่วน, น้ำมะเขือเทศ 1 ส่วน, และน้ำมะนาว 5 หยด ขั้นตอนแรกให้เอานมสดและน้ำมะนาวมาผสมให้เข้ากันก่อน แล้วจึงค่อยเอาส่วนผสมอื่น ๆ เติมลงไป คนให้เข้ากันจนเหนียว แล้วนำมาใช้พอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ก่อนล้างออกก็ให้ขัดเบา ๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น และใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นปิดรูขุมขนตามเป็นอันเสร็จ
จากการรวบรวมรายงานการวิจัยตลอดจน เอกสารที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นงาน ลอง หรือ เอกสารวิชาการ ที่เกี่ยวข้องกับ Plantago ovate มีส่วนข่อยในการขับถ่าย มีฤทธิ์ลดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงหลังมื้ออาหาร(post-prandial glycemia) ลดระดับคอเลสเตอรอลและลดอาการอักเสบ ใยอาหารจะมีผลยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็ก จากอาหารในระบบทางเดินอาหารด้วยกลไกการเกิดสารประกอบเชิงซ้อน (chelating mechanism) นอกจากนี้ใยอาหารยังมีผลลดการดูดซึมยาบาง ชนิดเช่น ยาลดระดับคอเลสเตอรอล lovastatin เปลือกเมล็ด Psyllium (Psyllium seed husk) ไม่ได้ให้สารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายเหมือนพืชอื่นๆ แต่จะให้ใยอาหารมาก
Tags : สมุนไพรเกล็ดหอย