สมัยปัจจุบัน SME หลายกิจการต่างสรรหาวิธีที่จะสร้างประสิทธิภาพในธุรกิจและประหยัดค่าใช้จ่ายให้น้อยลงที่สุด เพื่อให้สามารถต่อสู้และรอดชีวิตในยุคที่เศรษฐกิจซบเซาเช่นในเวลานี้ การปรับเปลี่ยนมาใช้ ซอฟแวร์โปรแกรมบัญชีก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยลดค่าใช้จ่าย แม้กระนั้นซอฟแวร์มีจำนวนมากหลายเจ้า จะเลือกเจ้าไหนจึงจะคุ้มกับเงินที่จ่ายไป เราจึงอยากขอแนะนำข้อควรตรวจสอบเพื่อเป็นแนวให้ท่านซื้อโปรแกรมบัญชีที่ลงตัวกับกิจการของคุณ ดังนี้ครับ

1.ประเภทอุตสาหกรรม
บริษัทของคุณอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมไหน เป็นร้านขายปลีก กลุ่มผู้ผลิต หรือธุรกิจทางด้านงานบริการ ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรม ก็มีรูปแบบการทำบัญชีที่ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้โปรแกรมเมอร์ จะออกแบบโปรแกรมบัญชีให้ลงตัวกับแต่ละประเภทธุรกิจ ทั้งนี้ทั้งนั้น โปรแกรมบัญชีทั่วไปก็สามารถใช้งานกับกลุ่มธุรกิจหลายๆ ประเภทเช่นเดียวกัน แต่ถ้าท่านอยากได้โปรแกรมบัญชีที่มีฟังก์ชั่นเหมาะสมกับบริษัทท่าน หรือมีส่วนปลีกย่อยพิเศษสำหรับกลุ่มธุรกิจบางประเภท เช่น กิจการก่อสร้าง กิจการรับผลิต และศูนย์กระจายสินค้า ควรจ้างเขียนดีไซน์โปรแกรมบัญชีเฉพาะสำหรับกิจการคุณจะดีกว่า
2.ขนาด ธุรกิจ
รายละเอียดปลีกย่อยของการทำบัญชีจะมีมากหรือน้อยขึ้นตามขนาดของ ธุรกิจ คุณเลือกใช้โปรแกรมบัญชีทั่วไป ที่ทำงานได้อย่างดีกับ บริษัทที่มียอดจำหน่าย เฉลี่ย ล้านบาทต่อปี แต่ถ้าร้านค้ามีขนาดที่ใหญ่ขึ้น มีความซับซ้อนทางบัญชีเพิ่มขึ้น โปรแกรมบัญชี ทั่วๆ ไป อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ ดังนั้นควร ตัดสินใจเลือกให้เข้ากับขนาด และโปรแกรมสามารถอัพเกรดรองรับการเติบโตในอนาคตได้เช่นกัน
3.ความต้องการในการใช้งาน
ก่อนการ ซื้อซื้อ
โปรแกรมบัญชีออนไลน์ควรซักถามว่ามีส่วนใดหรือโมดูลอะไรที่บริษัทคุณจำเป็นต้องใช้งาน ควรเขียนความต้องการเหล่านี้ คุณลักษณะ หรือฟังก์ชั่นที่อยากได้เป็นเรื่องๆ เสียก่อน บางร้านค้าอาจจะอยากได้การเข้าถึงที่ไม่ยาก มีฟังก์ชันไม่ซับซ้อน ขณะที่กิจการอื่นอาจจะต้องรูปแบบตอบสนองรองรับในการจ่ายเงินออนไลน์ หรือการใช้เครดิตการ์ด หรือมีฟังก์ชั่นบริหารสินค้าคงเหลือ หรือสร้างดัดแปลงแก้ไขใบ invoice เองได้ ดั้งนั้นควร เลือกโปรแกรมบัญชีที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานเหล่านี้ได้ และลงตัวกับบริษัทคุณ อย่าเสียเงินให้กับส่วนเสริมที่ไม่จำเป็น
4.การบริการ
เวลาที่ท่านมีอุปสรรคใช้งานโปรแกรมบัญชี บริษัทตัวแทนสามารถให้บริการให้คำปรึกษา แก้ไขได้รวดเร็วเพียงใด ติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลาหรือไม่ น่าไว้วางใจหรือไม่ ตัวแทนดูแลอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงหรือไม่ และที่สำคัญตัวแทนเหล่านั้น มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอที บัญชี คอยให้ข้อเสนอแนะคุณหรือไม่ โดยรายละเอียดเหล่านี้สามารถ ค้นหา จาก internet หรือไต่ถามบริษัทที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน
5.งบในการซื้อ
งบในการซื้อจะเป็นประเด็นประเด็นหลักที่มีผลต่อการ ตัดสินใจเลือกโปรแกรมบัญชี โดยโปรแกรมบัญชีแบบเบสิคจะมีมูลค่าที่ไม่สูงมากนัก แต่ถ้าท่านอยากได้
โปรแกรมบัญชีเฉพาะที่ออกแบบ Function การใช้พิเศษ คุณคงต้องลงทุนสูงกว่าแน่นอน และก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อโปรแกรมบัญชีควรทำการวิเคราะห์ความคุ้มค่าขั้นต้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้จ่ายค่าโปรแกรมบัญชีแพงเกินความจำเป็น หรือไม่คุ้มค่ากับการใช้งาน
6.โปรแกรมบัญชีมีตัวทดลองใช้ฟรีหรือไม่
จะดีมากถ้าคุณสามารถทดลอง
โปรแกรมบัญชีใช้งานฟรีก่อนที่จะซื้อจริง เพราะจะสามารถเห็นข้อดีข้อเสียต่างๆ ทั้งเรื่องความสะดวกในรูปแบบต่างๆ ปัญหาที่พบ การใช้งานฟังก์ชันระบบต่างๆ เหมาะสมหรือไม่ ดังนั้น ก่อน ซื้อซื้อไถ่ถามกับบริษัทซอฟแวร์ว่ามีระยะเวลาทดลองฟรีหรือไม่ โดยปรกติจะจะเปิดให้ลูกค้าลองใช้ได้ 1-2 ปี ซึ่งจะเป็นการดีก่อนที่จะเสียเงินซื้อจริง
ท้ายสุดแล้วควรสืบถามบริษัทอื่นๆ ที่ท่านรู้จักเกี่ยวข้อง
โปรแกรมบัญชีที่อยู่ในความสนใจ อย่างน้อย 3 ที่ ควรซักถามเรื่องปัญหาการใช้งาน ปัญหาที่พบจากการใช้งาน อะไรที่ควรให้ตัวแทนปรับปรุง หรือการบริการซับพอร์ทของบริษัทซอฟแวร์ดีหรือไม่ ทั้งนี้สิ่งสำคัญควรซื้อโปรแกรมบัญชีที่ติดอันดับ มีบริษัทใช้จำนวนมาก ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นโปรแกรมที่ดี ไม่มีปัญหามาก
ขอบคุณบทความจาก :
http://thanatongjin.edublogs.org/2015/06/30/%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%ab/Tags : โปรแกรมบัญชีออนไลน์,โปรแกรมบัญชีใช้งานฟรี