เมื่อชายหญิง
รับจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภริยากันโดยถูกกฎหมายแล้ว นอกจากเรื่องของการ จัดแจงสินสมรสด้วยกัน , เรื่องสิทธิแล้วก็หน้าที่ที่จะจะต้องปฏิบัติต่อกันโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ยังมีเรื่องมีราวของหนี้สินที่ หากผัวหรือภริยาไปส่งผลให้เกิดขึ้น อีกฝ่ายหนึ่งก็จำต้องด้วยกันยอมรับผิดต่อเจ้าหนี้ด้วย แต่ว่าการที่คู่ควงฝ่ายหนึ่งไป นำมาซึ่งหนี้สินขึ้นโดยพลการหรือเป็นการส่วนตัว กฎหมายจึงได้ตีกรอบและก็ระบุประเภทของหนี้เพื่อเป็นการป้องกันคู่ชีวิตอีกฝ่ายหนึ่งว่าหนี้สินจำพวกใดที่นับว่าเป็น "หนี้สินร่วมระหว่างผัวภริยา" ที่จะจะต้องรับผิดร่วมกัน แต่ว่าหากไม่ใช่ผัวภริยาโดยถูกกฎหมาย จะนำหลักเรื่องหนี้สินร่วมของสามีภริยามาใช้บังคับมิได้จำต้องใช้หลักของ กฎหมายแพ่งและการซื้อขายทั่วไป
ข้อบังคับกำหนดว่า หนี้ที่สามีภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกันนั้น ให้รวมถึงหนี้ที่สามีหรือภริยาก่อกำเนิดขึ้นใน ระหว่างแต่งงาน ดังนี้
- หนี้สินเกี่ยวแก่การจัดการบ้านที่พักรวมทั้งหาสิ่งสำคัญสำหรับครอบครัว การอุปถัมภ์ค้ำชูอุปถัมภ์ค้ำชูตลอดถึง การดูแลและรักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัว แล้วก็การศึกษาเล่าเรียนของบุตรตามควรแก่อัตภาพ ขอให้ดูครับผมว่าหนี้สินร่วมทั้งยัง ๕ ประการตามข้อนี้เน้นย้ำบุคคลที่อยู่ในครอบครัว เป็นหลัก รวมทั้งปริมาณหนี้จะต้องพอสมควรแก่ อัตภาพ ฉะนั้น ไม่ว่าสามีหรือภริยาเป็นผู้ไปก่อขึ้นแม้ว่าจะมิได้รับจดทะเบียนสมรสความยินยอมจากอีกข้างหนึ่งก็ถือได้ว่าหนี้ ร่วมระหว่างผัวภริยาที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
- หนี้ที่เกี่ยวเนื่องกับสินสมรส (สินสมรสเป็นทรัพย์สินที่สามีภรรยาได้มาระหว่างแต่งงาน หรือที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ได้มาระหว่างแต่งงานโดยพินัยกรรม หรือโดยการให้เป็นหนังสือซึ่งพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้บอกว่าเป็น สินสมรส หรือดอกผลของสินส่วนตัว) ได้แก่ หนี้ค่าแรงงานต่อเติมปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมบ้านที่เป็นสินสมรส หนี้เงินกู้ยืมมาเพื่อ ไถ่คืนบ้านหรือที่ดินที่เป็นสินสมรส อื่นๆอีกมากมาย
- หนี้ที่เกิดขึ้นเพราะว่าการงานซึ่งสามีภริยาทำด้วยกัน อย่างเช่น การเปิดร้านหรือธุรกิจร่วมกัน ซึ่งจะมี ค่าใช้สอยในธุรกิจการค้า เช่นค่าผลิตภัณฑ์ ค่าสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายในการเช่า ฯลฯ หนี้ตามข้อนี้อาจเกิดจากฝ่ายสามี หรือภริยาเพียงแค่ฝ่ายเดียวเป็นผู้ไปก่อขึ้นก็ได้
- หนี้ที่สามีหรือภริยาก่อขึ้นเพื่อผลดีตนฝ่ายเดียว แม้กระนั้นอีกฝ่ายหนึ่งได้ให้คำรับรอง ถ้าว่ากันตามหลัก พื้นฐานข้างใดไปก่อหนี้ขึ้นโดยลำพังเพื่อผลดีตนเพียงฝ่ายเดียว ก็น่าจะผูกพันเฉพาะข้างที่ไปทำให้เกิด หนี้สินขึ้น แต่ว่าหากอีกข้างหนึ่งได้ให้คำมั่นสัญญาเป็นเห็นด้วยว่าหนี้สินนั้นติดหนี้ติดสินของตนด้วยจึงนับว่าเป็นหนี้ร่วมระหว่างผัวภริยา ดังเช่น การลงชื่อเป็นพยานในข้อตกลงกู้ที่คู่ครองของตัวเองเป็นผู้กู้ หรือการให้ความยินยอมพร้อมใจด้วยวาจาหรือ เป็นหนังสือสำหรับเพื่อการที่คู่ครองเป็นผู้กู้ในสัญญากู้ ฯลฯ
เมื่อเป็นหนี้เป็นสินร่วมระหว่างสามีภริยา ข้อบังคับได้กำหนดว่า ถ้าหากผัวภริยาเป็นลูกหนี้ร่วมกัน ให้ใช้หนี้ใช้สิน นั้นจากสินสมรสแล้วก็สินส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย โน่นคือ สำหรับในการบังคับจ่ายและชำระหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิฟ้องสามีภริยา เพื่อบังคับกับสินสมรสและก็สินส่วนตัวของทั้งสองฝ่าย ถึงแม้สามีภรรยาอีกข้างจะไม่ได้ลงนามร่วมในฐานะคู่สัญญา ด้วยหรือไม่ก็ตาม แต่ว่าที่สำคัญ หากเจ้าหนี้ไม่ได้ฟ้องคู่ครองฝ่ายรับจดทะเบียนสมรสที่ไม่ได้เซ็นชื่อด้วย จะไปยึดสินส่วนตัวของคู่ครอง ข้างนั้นมาบังคับชำระหนี้ไม่ได้
ดังนั้น การดำเนินชีวิตครอบครัว ต้องระแวดระวังเรื่องการก่อหนี้สินให้ดี แม้อีกข้างไปก่อหนี้ขึ้นมา อาจจะมีผลพวงถึงคู่บ่าวสาวรวมทั้งความสงบสุขของครอบครัวได้
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
รับจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติTags : รับจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติ,รับทำว๊ซ่า
