วิธีการดูแลผิวแพ้ง่ายจากการใช้ครีมหรือผิวติดสารสเตียรอยด์
ในยุคปัจจุบันนี้ครีมต่างๆที่ถูกผลิตขึ้น ผิวแพ้ครีม ซึ่งบางครั้งผลิตจากโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐานไม่มีคุณภาพในการผลิต ใส่วัตถุดิบหรือสารเคมีที่ไม่มีประสิทธิภาพ รวมถึงยังเป็นอันตรายต่อผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดอาการอักเสบและเกิดอาการแพ้ดังนั้นสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่จะใช้ครีมจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มาจากโรงงานที่ได้คุณภาพ และมีมาตรฐานในการผลิต มีการรับรองจากองค์การอาหารและยา แต่ถ้าหากว่าคุณเกิดการใช้ครีมที่มีสารสเตียรอยด์จะต้องมีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
.

.
1.ลดการใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์
หากว่าใบหน้าของคุณเกิดการแพ้สารสเตียรอยด์ หรือมีผิวบอบบางแพ้ง่าย แล้วเกิดการแพ้ครีมจะต้องหยุดการใช้ครีม ซึ่งจะต้องค่อย ๆ ลดการใช้ครีมลงก่อน อย่าหยุดใช้โดยทันที เพราะว่ามีผลทำให้สิวเห่อหนักและทำให้คุณเป็น สิวสเตียรอยด์และใบหน้าเกิดการแพ้อย่างรุนแรงได้ ดังนั้นวิธีการลดใช้ครีมจึงเป็นวิธีการที่ดีอย่างหนึ่ง เพื่อเตรียมผิวเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป
.

.
2.ควรเลือกใช้ครีม เพราะผิวช่วงนี้จะขาดน้ำ
หากว่าคุณเกิดการแพ้ครีมสเตียรอยด์ก็ตาม ผิวติดสาร คุณจะต้องหยุดใช้ครีมทุกประเภทโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอาการแพ้อย่างหนักหรือรุนแรง วิธีการล้างหน้าก็ควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า ซึ่งความเชื่อที่ว่าผิวหนังจะต้องบำรุงอย่างต่อเนื่องส่วนข้อห้ามในการทาครีมในขณะที่เป็นสิวอยู่นั้น เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าคุณเกิดอาการแพ้คุณจะต้องหยุดพักรักษาใบหน้าก่อน อีกอย่างผิวหนังของคนเรา จะสร้างความชุ่มชื้นได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นจะต้องใช้ครีมมาใช้เป็นส่วนช่วยหากคุณต้องการใช้ครีม ควรรอให้ใบหน้าหายจากอาการเป็นสิวสเตียรอยด์ หรืออาการแพ้อย่างรุนแรงก่อนในช่วงนี้คุณจะต้องพักรักษาหน้าก่อน แล้วควรงดครีมทุกประเภท เพื่อให้ใบหน้าฟื้นฟูและกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม และในช่วงนี้สาว ๆ จะต้องอดทนอย่าพึ่งตกใจและอย่าพึ่งเครียด เพราะสิวชนิดนี้จะต้องรอและใช้เวลาในการรักษา ดังนั้นจะต้องอดทน และต้องรักษาอย่างต่อเนื่องจนกว่าผิวหนังจะกลับมาแข็งแรงและหายจากอาการสิว แต่จริงๆ แล้ว อาจจะลองเลือกใช้ครีมที่ดีและเหมาะกับผิวเราจริงๆ เพราะผิวช่วงนี้จะขาดน้ำ
.

.
3.ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ
ช่วงที่ผิวแพ้ง่ายผิวติดสารสเตียรอยด์นั้น คุณจะต้องดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ เพื่อที่จะล้างสารเคมีที่อยู่ในร่างกายและการดื่มน้ำเปล่านั้นจะช่วยกำจัดสารเคมีที่ตกค้างในกระแสเลือดและขับออก นอกจากนี้น้ำเปล่ายังช่วยลดความมันบนใบหน้าอีกด้วย
.

.
4.พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอน
สำหรับคนเป็นสิวนั้นไม่ว่าจะเป็นสิวสเตียรอยด์ ผิวแพ้ง่ายคุณจะต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ห้ามอดนอนเพราะหากว่าคนอดนอนจะทำให้เป็นหรือเกิดอาการแพ้หนักกว่าเดิม
.

.
5.ไม่ควรรับประทานอาหารรสจัด
เนื่องจากว่าหากคุณเกิดอาการแพ้ หรือระคายเคืองต่อผิวหน้าควรจะลดอาหารรสจัดทุกชนิด ไม่ว่าจะเปรี้ยวหวานเผ็ด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารมัน เพราะจะทำให้ใบหน้ามันมากยิ่งขึ้น ดังนั้นควรจะรับประทานอาหารรสชาติปานกลาง หรือรสจืดจะดีกว่า รอให้สิวหายก่อนแล้วคุณค่อยรับประทานอาหารรสจัดนะคะ
.

.
6.ไม่ควรสครับผิวหน้า
คุณไม่ควรสครับผิวหน้า ในช่วงระหว่างที่มีอาการแพ้ หรือเป็นสิวสเตียรอยด์อยู่ ดังนั้นคุณควรที่จะงดการสครับผิวหน้า แล้วใช้วิธีการพอกหน้าแทนจะทำให้สิวสเตียรอยด์หายไวขึ้น ผิวหน้าเนียนนุ่มชุ่มชื่นมากยิ่งขึ้นด้วย
.

.
7.ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่
ซึ่งมีงานวิจัยได้ค้นพบว่าการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีผลเสียอย่างมาก ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติคนที่เป็นสิวหรือคนที่มีผิวแพ้ง่ายนั้น รวมถึงคนที่มี
สิวสเตียรอยด์ด้วย ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่เนื่องจากว่าสารเคมีในบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้เกิดอนุมูลอิสระไปทำลายเซลล์ผิวลดภูมิต้านทานของร่างกาย อีกทั้งอาจจะทำให้เกิดคันตามผิวหนังและเกิดการแพ้ที่รุนแรงได้ ดังนั้นจะต้องงดเครื่องดื่มเเอกอฮอล์และไม่ควรสูบบุหรี่เหล่านี้
.
8.ไม่ควรออกแดดจัด
ในช่วงที่มีผิวแพ้ง่ายหรือเป็นสิวสเตียรอยด์นั้น สิว อาจจากเกิดการแพ้หรือระคายเคืองที่รุนแรงกว่าเดิมได้เนื่องจากว่าผิวหน้าอาจจะมีอาการแพ้แดด มีอาการคันตุ่มผื่นขึ้น ซึ่งสาเหตุมาจากรังสียูวี ดังนั้นผู้ที่กำลังรักษาสิวและผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย จะต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และควรเลือกครีมกันแดดที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง มากกว่าเดิมไม่ก่อให้เกิดสิว รวมถึงยังต้องปกป้องรังสียูวีเอและยูวีบีด้วย
.
9.ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ
สำหรับคนที่มีอาการแพ้หรือระคายเคืองนั้น และยังเป็นสิวสเตียรอยด์ด้วย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ในการรักษาสิวที่มาจากธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึงเหมาะสำหรับ ผู้ที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย นอกจากนี้จะต้องไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ทำให้เกิดการแพ้ เช่น สี น้ำหอมและสารกันเสีย
.
ผิวแพ้ง่ายเกิดจากอะไรได้บ้าง
สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายนั้นสาเหตุมีอยู่สามส่วนใหญ่ ๆ คือ
1.ผิวแพ้ง่ายที่เกิดจากชั้นของผิวหนัง
สำหรับ
ผิวแพ้ง่ายที่เกิดจากผิวหนังนั้น มีการลดความต้านทานของสารระคายเคืองผิวลง ทำให้ผิวไวต่อสารนั้นได้มาก หากว่าใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีที่เกิดอาการแพ้ จะทำให้ผิวหนังมีการระคายเคืองและเกิดอาการแพ้ได้ส่วนการแพ้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลบางคนมีผื่นขึ้น บางคนเป็นสิว บางคนมีตุ่มแดง เป็นต้น
2.การสูญเสียน้ำในผิว
ผิวหนังจะประกอบไปด้วยน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก หากว่าผิวเกิดความเสียหายหรือมีกลไกที่ไม่ให้สารเคมีซึเข้าสู่ผิวง่ายเกินไป ดังนั้นหากว่าผิวมีการสูญเสียน้ำ จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองมีอาการคันและเป็นผื่นแดงได้
3.ไขมันในผิวทำงานผิดปกติ
นอกจากน้ำที่เป็นส่วนประกอบที่อยู่ในผิวหนังแล้ว ไขมันก็มีส่วนที่จะทำหน้าที่ในการปกป้องผิว เมื่อไขมันน้อยลง หรือไขมันทำงานผิดปกติ จะทำให้เกิดสารระคายเคือง ซึมผ่านเข้าไปผิวหนังได้มากขึ้นทำให้เกิดอาการระคายเคืองเกิดอาการแพ้จากสารเคมีนั่นเอง
.
[img]https://static.wixstatic.com/media/2b8988_d3d1142719dc43ddb084e82a4973db35~mv2_d_1200_1200_s_2.png/v1/fill/w_591,h_591,al_c,usm_0.66_1.00_0.01/2b8988_d3d1142719dc43ddb084e82a4973db35~mv2_d_1200_1200_s_2.png
.
ผิวแพ้ง่ายเกิดจากปัจจัยใดบ้าง
1.สภาพแวดล้อม
สำหรับผิวแพ้ง่ายนั้นอาจจะเกิดจากสิ่งสกปรกหรือมลพิษอที่มาทำร้ายผิวและทำให้ผิวหน้าบอบบางหรือเกิดการระคายเคืองเช่นควันรถฝุ่นต่างๆเป็นต้น
2.ส่วนผสมที่มีในครีมบำรุงผิว
ซึ่งส่วนผสมบางอย่างเป็นอันตรายต่อผิวหน้า เช่น สารสเตียรอยด์ทำให้เกิดผิวติดสาร หรือเกิดการแพ้สารสเตียรอยด์ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ยังมีสารเคมีอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์เป็นต้น
3.ฮอร์โมน
ข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผิวเกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง ทำให้เกิดเป็นสิวได้ซึ่งฮอร์โมนนั้น หากเกิดผิดปกติจะทำให้ใบหน้ามันจนสิวขึ้น
4.กรดไฮดรอกซี
สำหรับกรดชนิดนี้ อาจจะทำให้ผู้ใช้เกิดอาการแพ้ได้ จึงควรใช้อย่างระมัดระวังจะทำตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
ครีมบำรุงผิวที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
ควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่ผลิตขึ้นสำหรับผิวแพ้ง่าย ซึ่งจะไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่มีอันตรายก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง
• ครีมบำรุงผิวควรเลือกที่ไม่มีแอลกอฮอล์เป็นกลิ่นธรรมชาติไม่มีสารกันเสีย
ควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยน มีการฟื้นฟูผิวที่เกิดการแพ้ให้กลับมาแข็งแรงขึ้น และควรเลือกครีมที่มีการรับรองจากองค์การอาหารและยาเท่านั้น
.
ผิวติดสารสเตียรอยด์ควรทำอย่างไรดี
ปัญหาปวดจิตปวดใจของคนที่เป็นสิว โดยเฉพาะสิวสเตียรอยด์หรือใบหน้าติดสาร เนื่องจากว่าสาว ๆ บางคนไปใช้เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์เป็นเวลานานจนเรียกภาวะว่า ผิวติดสารสเตียรอยด์ ซึ่งพบได้สำหรับคนที่ใช้ครีมที่มีอันตราย ในช่วงแรกจะมีผลทำให้ใบหน้าขาวกระจ่างใส อย่างรวดเร็ว แต่หลังจากหยุดใช้แล้วจะเกิดอาการคัน ผิวลอก ผิวแห้งตึง มีสิวขึ้น บางคนรุนแรงมาก ถึงขั้นมีน้ำเหลืองไหล ซึ่งเป็นภาวะการที่ผิวหนังเกิดการอักเสบและทำให้ผิวหน้าของสาว ๆ เกิดความเกิดการแพ้ระคายเคือง และใบหน้าไม่เรียบเนียนจนต้องทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
เมื่อผิวติดสารจะทำอย่างไร
หากว่าผิวหนังของคุณเกิดการติดสารสเตียรอยด์ จะทำให้เกิดการแพ้ง่ายมาก ความร้อน ฝุ่นละอองเชื้อโรคต่างๆที่อยู่ภายในอากาศ อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้า มีอาการแสบคัน มีจุดด่างดำ รวมถึงยังมีน้ำเหลืองไหลออกมาจากสิ่งที่อักเสบ ดังนั้นหากผิวติดสาร แล้วจะต้องทำการรักษาอย่างเร่งด่วน และจะต้องรักษาอย่างถูกต้องจึงจะสามารถกลับมาหายเป็นปกติ แต่บางคนก็อาจจะต้องทำการรักษานานขึ้นอยู่กับความรุนแรงของผิวที่ติดสาร
ผิวหน้าติดสารสเตียรอยด์มีอาการอย่างไร
สำหรับผิวหน้าที่ติดสารสเตียรอยด์นั้น จะมีตุ่มแดงแดงขึ้นมาคล้ายสิวผดไม่มีหัวสิว หลังจากนั้นผิวหน้าจะเกิดอาการแบบอักเสบ เกิดการแดงอย่างผิดปกติ มีอาการแพ้ง่ายมากตามมา หากว่าใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นจะทำให้เกิดการแพ้อย่างรุนแรงได้ แต่หากว่ากลับไปใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ใบหน้าจะกลับมาใส แต่หลังจากหยุดใช้แล้วอาการผิดปกติต่างๆจะกลับมารุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งมีสิว มีจุดด่างดำ และทำให้เกิดการแพ้อย่างหนักและทำให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังได้
สาเหตุที่ทำให้ผิวติดสารสเตียรอยด์
สาเหตุหลักและเป็นสาเหตุใหญ่ที่สุด คือไปใช้ครีมที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ที่อยู่ในเครื่องสำอางหรือครีมบำรุงผิว เนื่องจากว่าอาจจะเชื่อคำโฆษณาที่คิดว่าทำให้หน้าขาวใสได้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าดูสวยขึ้น ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วสารรสเตียรอยด์เป็นสารเคมีลงที่ไม่ได้รับการรองรับจากอย. และเกิดผลเสียกับผิวหนังมีผลข้างเคียงมากผิวหน้าจะเกิดการแพ้ง่ายบางมีสิวผดผื่นแดงสิวหนองและสิวอักเสบเกิดขึ้น
การรักษาสิวสเตียรอยด์จะต้องทำอย่างไร
สำหรับขั้นตอนการรักสาสิวสเตียรอยด์นั้นมีอยู่ได้หลาย ขั้นตอนโดยเฉพาะการใช้ยารักษาสิว สำหรับการใช้ยารักษาสิวนั้นแบ่งออกเป็นสามประเภทคือ
1.ยาฉีดสิว จะฉีดสิวที่ติดสารสเตียรอยด์ ซึ่งช่วยให้สิวยุบได้เร็วเร็ว แต่ว่าข้อเสียคือเมื่อฉีดสิวบ่อย ๆ จะทำให้เกิดอาการผิวติดสารสเตียรอยด์ตามมาได้อีก
.
.
[img]https://static.wixstatic.com/media/2b8988_ff7499761f7742bd8273ffee33a7ffc4~mv2_d_1200_1200_s_2.png/v1/fill/w_591,h_591,al_c,usm_0.66_1.00_0.01/2b8988_ff7499761f7742bd8273ffee33a7ffc4~mv2_d_1200_1200_s_2.png
.
2.ครีมรักษาสิวแบบทา
ยารักษาสิวชนิดนี้จะใช้สำหรับคนที่มีปัญหาสิวมาก ซึ่งจะต้องใช้ยารักษาสิวประเภทนี้อย่างระมัดระวังใช้ในตามปริมาณที่เภสัชกรหรือแพทย์แนะนำเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองตามาอีกจึงจะต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อช่วยในการรักษาสิวสเตียรอยด์อย่างเห็นผลได้ชัด
.
3.ยารักษาสิวชนิดอื่นๆ
ยารักษาสิวมีอีกหลายชนิด ซึ่งมีทั้งยารักษาสิวที่รับประทาน แต่จะต้องรับประทานยารักษาสิวภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยได้ช่วยในการรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับขั้นตอนการรักษาสิวสเตียรอยด์นั้นควรทำดังนี้
1.หากว่าเกิดสิวสเตียรอยด์ขึ้นมาในช่วงแรกควรจะต้องหยุดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดนั้น อีกทั้งวิธีการรักษาจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่ายและควรล้างหน้าทำความสะอาดอย่างน้อยวันละสองครั้งเพื่อไม่ให้สิวเกิดขึ้นมาอีก
2.ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ในการบำรุงผิวที่ช่วยลดอาการระคายเคืองทำให้ผิวอ่อนแอกลับมาแข็งแรงและทนต่อสภาพแวดล้อมได้
.
3.ไม่ตากแดดจัด เพราะในช่วงนี้ผิวหนังยังอ่อนแอหากว่าไปเจอแสงแดดจัด จะทำให้ภูมิคุ้มกันของผิวลดลงนอกจากนี้ผิวที่โดนแสงแดดจะมีการฟื้นตัวได้ช้ามาก ดังนั้นจึงไม่ควรตากแดดและหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดในระยะนี้ก่อน
4.งดการแต่งหน้า ในช่วงที่ผิวติดสารสเตียรอยด์นั้นจะต้องงดการแต่งหน้าก่อน เพื่อไม่ให้ผิวหนังเกิดการแพ้หรือระคายเคืองไปมากกว่า เดิมนอกจากนี้การแต่งหน้ายังไปทำให้รูขุมขนอุดตัน และทำให้เป็นสิวมากขึ้น ดังนั้นการรักษาที่ดีจะต้องงดการแต่งหน้าก่อน หรือสาว ๆ ที่จำเป็นจะต้องแต่งหน้าก็ควรที่จะแต่งหน้าให้น้อยที่สุดบางที่สุดเพื่อไม่ให้เครื่องสำอางไปอุดตันรูขุมขนจนทำให้เกิดสิวขึ้นมาได้
.
[img]https://static.wixstatic.com/media/2b8988_cde13ee702e549049332f5113de47de1~mv2_d_1200_1200_s_2.png/v1/fill/w_591,h_591,al_c,usm_0.66_1.00_0.01/2b8988_cde13ee702e549049332f5113de47de1~mv2_d_1200_1200_s_2.png
.
5.ต้องใช้ความอดทนในการรักษา ผิวแพ้ง่าย ผิวติดสารสเตียรอยด์เป็นการอักเสบของผิวหนังที่จะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาดังนั้นผิวที่เกิดการติดสามสี่รอยจะต้องอดทนและพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่เสี่ยงต่อการทำให้สิวเพิ่มมากขึ้นลดอาหารที่มีความมันส์และเลือกรับประทานผักและผลไม้เพื่อไปซ่อมแซมผิวหนังที่อักเสบและทำให้ผิวช่วยฟื้นฟูได้ดีขึ้น
สำหรับสาว ๆ ที่กำลังเป็นสิว ผิวติดสารสเตียรอยด์หรือมีผิวแพ้ง่ายนั้นจะต้องดูแลและใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ในการรักษาสิวหรือบำรุงเป็นพิเศษ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนและบอบบางเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าของคุณกลับมาฟื้นฟูและกลับมาแข็งแรงได้เหมือนเดิมอีกครั้ง และขอแนะนำว่าการที่จะเลือกใช้ครีมจะต้องดูส่วนผสมและเลือกยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือมีการรับรองจากอย. ผลิตจากโรงงานที่ได้คุณภาพเพื่อป้องกันไม่ให้คุณเสี่ยงกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ จนทำให้ผิวหน้าเกิดการแพ้หรือระคายเคืองเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิว เพื่อช่วยให้ผิวพรรณของคุณขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติและไม่เป็นอันตรายค่ะ
.
สนใจสินค้าเกี่ยวกับสิว ติดต่อได้ที่นี่
Fanpage สิว
https://www.facebook.com/repleoskincare/ig repleo_skincare
Website สิว
http://www.repleoskincare.comTags : ผิวแพ้ง่าย,ผิวติดสเตียรอย