ขิงขิง ชื่อสามัญ Ginger (จิน’เจอ)ขิง ชื่อวิทยาศาสตร์ Zingiber officinale Roscoe จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE)ขิง จัดเป็นสมุนไพรประเภทหนึ่งที่มีคุณประโยชน์ต่อสภาพร่างกายในหลายๆด้าน เพราะว่าอุดมไปด้วยวิตามินและธาตุที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อสภาพร่างกายของเรา อย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน ธาตุเหล็ก ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส แถมยังมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต แล้วก็เส้นใยหลายชิ้นอีกด้วย ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิงนั้น พวกเราสามารถนำมาใช้ได้หลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นราก เหง้า ต้น ใบ ดอก แก่น และก็ผลก็ได้ทั้งหมด
ประโยช์จากขิง-ขิงจัดว่าเป็นยาอายุวัฒนะชั้นยอดมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ช่วยชะลอความแก่และก็ชะลอการเกิดริ้วรอย
มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการป้องกัน ต่อต้านการเกิดโรคมะเร็ง ต้านทานการเติบโตของเซลล์ของมะเร็ง
ช่วยลดผลข้างเคียงจากสารเคมีที่ใช้สำหรับการรักษามะเร็ง ด้วยเหตุดังกล่าวควรรับประทานขิงควบคู่ไปกับการรักษามะเร็งจะเกิดผลดี
ขิง มีฤทธิ์อุ่น ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น แล้วก็ช่วยสำหรับการขับเหงื่อ
ช่วยแก้อาการร้อนใน ด้วยการใช้ลำต้นสดๆนำมาทุบให้แหลกราวๆ 1 กำมือ แล้วต้มกับน้ำดื่ม
ช่วยลดหุ่น ลดระดับไขมัน คอเลสเตอรอล ด้วยการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากลำไส้ แล้วปล่อยให้ร่างกายกำจัดออกทางอุจจาระ
ช่วยรักษาลักษณะของการปวดศีรษะและก็ไมเกรน ด้วยการรับประทานน้ำขิงเป็นประจำ
ช่วยลดความต้องการของผู้ติดยาเสพติดลงได้
แก้ตานขโมย ด้วยการใช้ขิง ใบกะเพรา พริกไทย ไพล มาบดผสมกันแล้วเอามารับประทาน
ช่วยรักษาโรคความดันเลือด ด้วยการนำขิงสดมาฝานต้มกับน้ำดื่ม
ช่วยบำรุงรักษาหัวใจของคุณให้แข็งแรง
ช่วยทุเลาอาการโรคประสาท ซึ่งทำให้จิตใจขุ่นมัว (ดอก)
ช่วยฟื้นฟูร่างการสำหรับมารดาหลังคลอดลูก ด้วยการกินไก่ผัดขิง
มีส่วนช่วยให้เจริญอาหาร (ราก, เหง้า) ด้วยการใช้เหง้าสดประมาณ 1 องคุลีนำมาต้มกับน้ำดื่ม ก็จะได้เป็นยาขมเจริญอาหาร
ใช้กินเพื่อบำรุงเป็นยาธาตุ บำรุงธาตุไฟ (เหง้า, ดอก)
ใช้บำรุงนมของคุณแม่ (ผล)
ช่วยให้นอนได้อย่างสบาย
การรับประทานขิงจะช่วยทำให้เลือดแข็งตัวเป็นลิ่มเลือดได้ช้าลง
ใช้แก้ไข้ (ผล) ด้วยการนำขิงสดมาคั้นเป็นน้ำให้ได้ราวๆครึ่งถ้วย แล้วผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา เอามาต้มกับน้ำ 2 ถ้วย แล้วนำมาดื่มวันละ 3 ครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการได้
ช่วยแก้หวัด ทุเลาอาการไอ บรรเทาหวัดจับเสลด ด้วยการใช้ขิงสดฝนกับน้ำมะนาวใส่เกลือหน่อยเดียว
ไอน้ำหอมระเหยจากน้ำขิงช่วยทำลายไวรัสหวัดในทางเดินหายใจได้
แก้ลม (ราก)
ในผู้เจ็บป่วยที่มีอาการเมายาสลบข้างหลังผ่าตัด น้ำขิงช่วยแก้เมาได้
ช่วยแก้อาการเมารถ เมาเรือได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยการใช้ขิงสดนำมาตำให้แหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำ (ไม่ต้องกินน้ำตาม)
ช่วยแก้ปัญหาผมหล่น หัวล้าน ด้วยการนำเหง้าสดไปผิงไฟกระทั่งอุ่น แล้วเอามาตำให้แหลก นำมาพอกบริเวณที่มีผมร่วง วันละ 2 ครั้งกระทั่งอาการดีขึ้น หรืออีกแนวทางก็คือคั้นเอาเฉพาะน้ำขิงมาผสมกับน้ำมันมะกอกแล้วนำมาหมักผม นวดให้ทั่วหัวโดยประมาณ 30 นาทีก็ช่วยลดปัญหาผมตกได้เหมือนกัน แถมยังช่วยทำให้ผมสวย แข็งแรง มีความอ่อนนุ่มลื่น ไม่ขาดง่ายอีกด้วย
-ช่วยบำรุงรักษาสายตา รักษาโรคเกี่ยวกับตา และใช้แก้อาการตาฝ้า (ผล, ใบ)ช่วยรักษาอาการตาแฉะ (ดอก)
ช่วยแก้โรคกำเดา (ใบ)
ใช้แก้อาการคอแห้งผาก เจ็บคอ (ผล)
ใช้รักษาอาการปากคอเปื่อย ท้องผูก (เหง้า,ดอก)
ช่วยรักษาอาการปวดฟัน ด้วยการนำขิงแก่มาตีให้ละเอียดคั่วกับน้ำสารส้มกระทั่งไหม้เกรียม แล้วบดจนถึงเป็นผุยผง แล้วต่อจากนั้นเอามาพอกรอบๆฟันที่ปวดแก้เสลด เสลดขาวเหลวจำนวนมากมีฟอง (ผล, ราก)ช่วยรักษาสภาวะน้ำลายมากมาย อ้วกเป็นน้ำใสช่วยลดกลิ่นปาก แก้อาการปากเหม็น ด้วยการนำขิงมาคั้นผสมน้ำอุ่นและเกลือเล็กน้อย นำมาอมบ้วนปาก ช่วยฆ่าเชื้อโรคในปากได้อีกด้วยช่วยบำรุงรักษาฟันแล้วก็คุ้มครองการเกิดฟันผุ
ช่วยดับกลิ่นจั๊กกะแร้ ด้วยการใช้เหง้าขิงแก่นำมาทุบให้แหลก แล้วเอามาคั้นเอาน้ำมาทารักแร้เสมอๆ จะสามารถช่วยกำจัดกลิ่นได้
ช่วยแก้อาการสะอึก ด้วยการใช้ขิงสดตำจนถึงแหลก คั้นเอาเฉพาะน้ำผสมกับน้ำผึ้งเล็กน้อย คนจนเข้ากันแล้วเอามาดื่ม
ช่วยรักษาโรคบิด (ผล, ราก, ดอก) ด้วยการใช้ขิงสดราว 75 กรัม ผสมกับน้ำตาลทรายแดง นำมาตำจนถูกกัน แล้วกิน 3 มื้อต่อวัน
ช่วยแก้อาการคลื่นไส้ (เหง้า, ผล) ด้วยการนำขิงสดประมาณ 5 กรัมหรือขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ เอามาทุบให้แตกแล้วต้มกับน้ำดื่ม
ช่วยลดการอ้วกคลื่นไส้จากการแพ้ท้อง (สำหรับหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานหลายครั้งจนเกินความจำเป็น)
แก้อาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง ขับลมในไส้ (ผล, ราก, ใบ) ด้วยการนำขิงแก่มาทุบพอแหลก เทน้ำเดือดลงไปครึ่งแก้ว แล้วปิดฝาตั้งทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วนำน้ำมาดื่มระหว่างมื้ออาหาร
ช่วยรักษาอาการปวดในตอนก่อนหลังประจำเดือน ด้วยการนำขิงแก่ที่แห้งแล้วประมาณ 30 กรัมมาต้มกับน้ำกินเป็นประจำ
ช่วยในการย่อยอาหารได้อย่างมีคุณภาพ (ดอก)
ช่วยคุ้มครองป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ลดอาการจุกเสียด (เหง้า)
ช่วยสำหรับในการขับถ่าย และก็ช่วยในเรื่องของระบบไส้ให้ดำเนินงานได้อย่างปกติ
ช่วยฆ่าพยาธิ พยาธิกลมจุกไส้ (ใบ) ใช้น้ำขิงผสมกับน้ำผึ้งแล้วเอามาดื่ม
ช่วยแก้อาการขัดเยี่ยว (ดอก, ใบ)
ช่วยรักษาเยี่ยวรดที่นอนในผู้เจ็บป่วยที่มีภาวะหยางพร่อง มีความเย็นภายในร่างกายเป็นเหตุ
ช่วยรักษาโรคนิ่ว (ใบ, ดอก)
ช่วยแก้อาการบวมช้ำ (ใบ)
ขิง ช่วยรักษาอาการปวดข้อตามร่างกายด้วยการรับประทานขิงสดเป็นประจำ
มีฤทธิ์ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย
ใช้เป็นยาแก้คัน ด้วยการนำแก่นของขิงฝนทำเป็นยา (แก่น)
ขจัดปัญหาหนังที่มือลอกเป็นสะเก็ด ด้วยการใช้เหง้าสดมาหั่นเป็นแผ่น แล้วนำมาแช่เหล้า 1 ถ้วยชา ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง แล้วนำแผ่นขิงมาเช็ดรอบๆดังที่กล่าวผ่านมาแล้ววันละ 2 ครั้ง
ช่วยรักษาแผลเริมรอบๆหลัง ด้วยการใช้เหง้า 1 หัว เอามาเผาเปลือกนอกจนกระทั่งเป็นถ่าน รอปาดถ่านที่เปลือกนอกออกไปเรื่อยๆแล้วนำผงที่ได้มาผสมกับน้ำดีหมูนำมาทาบริเวณที่เป็นแผลถ้าหากว่าถูกแมงมุมกัด ใช้ขิงสดฝานบางๆเอามาวางทับบริเวณที่ถูกกัดจะช่วยทุเลาอาการได้ช่วยรักษาอาการมือเท้าเย็น กลัวหนาว เย็นท้อง ฯลฯ ช่วยคุ้มครองป้องกันการแพ้อาหารทะเลจนกระทั่งเกิดผื่นคัน ผื่นคัน หรือของกินช็อกประโยชน์ของขิง
ช่วยรักษาแผลไฟลุกน้ำร้อนลวก ด้วยการนำขิงสดมาตำให้แหลก แล้วนำกากมาพอกบริเวณแผล เพื่อคุ้มครองปกป้องการอักเสบแล้วก็การเกิดหนองในขิงมีสารที่สามารถใช้กันบูดกันเหม็นหืนในน้ำมันได้
ในด้านการประกอบอาหารนั้น ขิงสามารถช่วยเพิ่มรสชาติของกินได้เป็นอย่างดี และก็สามารถช่วยดับกลิ่นคาวของของกินได้ดิบได้ดีอีกด้วย
ในด้านความสวยสดงดงามนั้นมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของขิงอีกด้วย
ช่วยให้ผิวพรรณเรียบเนียนเพิ่มขึ้น ด้วยการนำขิงสดมาขูดเป็นฝอยแล้วเอามานวดรอบๆต้นขา ตูด หรือรอบๆที่มีเซลลูไลต์จะช่วยลดความขรุขระของผิวได้อีกด้วย
สินค้าจากขิงนั้นเอามาแปรรูปได้หลายอย่าง ได้แก่ บัวลอยน้ำขิง ขิงแช่อิ่ม ขิงเชื่อม ขิงกระป๋อง ขิงแคปซูล น้ำขิงมะนาว ฯลฯ
กระบวนการทำน้ำขิงขั้นตอนการทำน้ำขิงวิธีทำน้ำขิงลำดับแรกให้จัดเตรียมส่วนประกอบดังนี้ ขิงแก่ 1 โล / น้ำตาล 1 ถ้วยตวง / น้ำสะอาด 3 ลิตร
นำขิงที่ได้ไปล้างให้สะอาด เอามาตีให้แตก แล้วเอามาใส่ไว้ในหม้อต้ม เติมน้ำสะอาดลงไป เอาขึ้นตั้งไฟ
เมื่อต้มจนถึงน้ำเดือดและก็หลังจากนั้นจึงค่อยค่อยไฟลง เคี่ยวประมาณ 20 นาทีจนถึงน้ำขิงละลายออกมาจนหมด (น้ำจะเป็นสีเหลืองอ่อนๆ) แล้วชูลงจากเตา
เสร็จแล้วให้ตักน้ำขิงใส่แก้ว เพิ่มเติมน้ำตาลทรายแดงลงไป 1-2 ช้อนชา (ตามความอยาก) แล้วคนจะกว่าจะเข้ากัน
เรียบร้อยและก็สามารถนำมากินได้ โดยนำมาดื่มแบบร้อนๆได้เลย
หรือจะดื่มแบบเย็นๆด้วยการใส่น้ำแข็งลงไปก็ได้เช่นเดียวกัน แต่ควรจะเพิ่มน้ำตาลมากยิ่งกว่า 2-3 เท่า (จะช่วยไม่ให้รสจืดมากเกินความจำเป็น เนื่องจากว่ามีน้ำแข็งผสมอยู่นั่นเอง)
น้ำ
ขิงที่คั้นมานั้นไม่สมควรใช้จำนวนที่เข้มข้นกระทั่งเหลือเกิน เนื่องจากจะเป็นอันตรายต่อสภาพทางด้านร่างกายได้ เพราะจะไปยับยั้งการบีบตัวของไส้ จนกระทั่งทำให้ไส้หยุดการบีบตัว โดยเหตุนั้นควรจะคั้นในปริมาณน้อยๆหรือดื่มจนชินก่อน
เราชอบรู้จักคุ้นเคยกับขิงว่าเป็นอาหารที่นิยมนำมาใช้ในการเข้าครัวและก็ทำเครื่องดื่ม ซึ่งจริงๆแล้วขิงจัดเป็นสมุนไพรไทยที่ช่วยการบำบัดโรคต่างๆได้สารพัด นับว่าเป็นตัวช่วยสำหรับในการรักษาโรคได้เลยทีเดียว แต่ว่าทั้งนี้เราก็ไม่สมควรจะหวังพึ่งคุณประโยชน์ของขิงเพียงอย่างเดียวสำหรับเพื่อการเยียวยารักษาโรค น่าจะทำอันอื่นหรือดูแลสุขภาพของเราร่วมด้วยจะได้ผลดีนักแล
เรามักนิยมใช้ขิงแก่ เนื่องจากยิ่งแก่จะยิ่งให้ความเผ็ดร้อน ก็เลยมีสรรพคุณทางยาที่มากกว่าขิงอ่อน และก็ยังมีใยอาหารมากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย แต่เพราะว่าขิงมีรสเผ็ด มีคุณสมบัติอุ่น จึงไม่เหมาะกับคนที่มีความร้อนภายในร่างกายอยู่แล้ว เป็นต้นว่าผู้ที่เหงื่อออกมาก เหงื่อออกกลางคืน ตาแดง หรือมีไฟในตัวมากยิ่งกว่าธรรมดา แต่ว่าถ้าจะกินควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
http://www.disthai.com/Tags : สมุนไพรขิง