รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 128 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

aokpl02539

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
    • ดูรายละเอียด

Permalink: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง

ขิง
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ภายนอกเหง้าเป็นน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักเอามาทำอาหารเนื่องจากว่าส่งกลิ่นหอม นอกจากนี้ ขิงยังใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ รวมทั้งเครื่องแต่งตัวทั้งหลายแหล่ด้วยเหมือนกัน ด้านคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างช้านาน ดังเช่น โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบที่ทำหน้าที่ในการย่อยอาหารอย่างท้องเดิน มีก๊าซในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อ้วก เบื่ออาหาร
คุณลักษณะของขิงเชื่อว่ามีสารที่บางทีอาจช่วยลดอาการอาเจียนและลดการอักเสบ โดยนักวิจัยจำนวนมากคาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะอาหารรวมทั้งไส้ รวมทั้งสารนี้อาจส่งผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการคลื่นไส้ด้วย แม้กระนั้นการสันนิษฐานดังกล่าวมาแล้วข้างต้นยังไม่กระจ่างนัก และคุณลักษณะด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากขิงต่อร่างกายที่เราเชื่อกันนั้น ปัจจุบันนี้ทางวิทยาศาสตร์มีข้อมูลอธิบายไว้ดังนี้
การรักษาที่อาจสำเร็จ
อาการอาเจียนอ้วกที่เกิดจากการใช้ยาต่อต้านไวรัสเอชไอวีหรือโรคภูมิคุมกันบกพร่อง คุณประโยชน์บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนของขิงอาจมีคุณประโยชน์ต่อคนไข้โรคนี้ที่มักได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการเรียนรู้คนป่วยปริมาณ 102 คน แบ่งให้กลุ่มหนึ่งรับประทานขิง 500 กรัม อีกกลุ่มรับประทานยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในช่วง 30 นาทีก่อนที่จะได้รับยารักษาโรคเอดส์อย่างยาต้านทานรีโทรไวรัส ตรงเวลาทั้งหมดทั้งปวง 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการอาเจียนอ้วกที่เกิดขึ้นมาจากการดูแลและรักษาโรคติดเชื้อเอชไอวีได้
อาการอ้วกอ้วกภายหลังการผ่าตัด ขิงอาจช่วยทุเลาอาการคลื่นไส้รวมทั้งคลื่นไส้จากการผ่าตัดได้เหมือนกัน โดยการศึกษาเล่าเรียนด้านวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ชี้ว่าการรับประทานขิง 1-1.5 กรัม ในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการอ้วกคลื่นไส้ที่บางทีอาจเกิดขึ้นในระหว่าง 24 ชั่วโมงข้างหลังได้รับการผ่าตัด
งานศึกษาเรียนรู้หนึ่งทดสอบแบ่งผู้เจ็บป่วยปริมาณ 122 ผู้ที่รับการผ่าตัดต้อกระจกให้กินแคปซูลขิง 1 กรัม รวมทั้งอีกกลุ่มได้รับแคปซูลขิง 500 มก.แม้กระนั้นแบ่งให้ 2 ครั้งกระโน้นผ่าตัด ซึ่งผลสรุปพบว่าคนไข้ในกรุ๊ปข้างหลังมีลักษณะอาการอ้วกคลื่นไส้น้อยครั้งและก็มีความรุนแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานศึกษาเรียนรู้นี้พบว่าการใช้ขิงนั้นน่าจะให้สมรรถนะสูงสุดเมื่อกินบ่อยๆและบ่อยโดยแบ่งจำนวนการใช้
นอกเหนือจากนั้น การทดลองทาน้ำมันขิงรอบๆข้อมือของคนไข้ก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองปกป้องอาการอ้วกในผู้เจ็บป่วยโดยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งหมดทั้งปวง แต่ทว่าการใช้ขิงช่วยลดอาการอาเจียนคลื่นไส้ร่วมกับยาลดอาเจียนอ้วกนั้นอาจให้ผลได้ไม่ดีนัก และก็การใช้ขิงกับคนป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการอาเจียนคลื่นไส้น้อยอยู่รวมทั้งอาจไม่เป็นผลเช่นกัน
อาการแพ้ท้อง การรับประทานขิงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง ดังเช่นว่า อ้วก อ้วก หรือเวียนศีรษะ ผลการศึกษาเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ช่วยรับรองคุณสมบัตินี้เป็นการทดสอบในหญิงที่แก่ท้องต่ำยิ่งกว่า 20 อาทิตย์ จำนวน 120 คน ซึ่งเผชิญอาการแพ้ท้องทุกวี่ทุกวันนานอย่างต่ำ 1 สัปดาห์ และไม่รู้สึกดีขึ้นแม้ว่าจะแปลงการกินอาหารและก็ตาม ภายหลังจากรับประทานสารสกัดจากขิง 125 มก. ซึ่งเทียบเท่ากับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน คำตอบได้ทำให้เห็นว่าขิงบางทีอาจสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในฐานะการดูแลรักษาทางเลือกต่ออาการแพ้ท้องได้
นับว่าสอดคล้องกับอีกงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการกินขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความร้ายแรงของอาการคลื่นไส้อ้วกในหญิงมีครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องได้ อย่างไรก็แล้วแต่การใช้ขิงสำหรับคุณประโยชน์ด้านนี้อาจเห็นการดูแลรักษาได้ช้ากว่าหรือให้ผลดีไม่พอๆกับการใช้ยาแก้คลื่นไส้อ้วก นอกเหนือจากนี้ การเรียนรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีข้อจำกัดแล้วก็พบผลลัพธ์ที่ไม่บ่อยนัก โดยมีบางการทดสอบที่ชี้ว่าขิงอาจมิได้มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการลดอาการแพ้ท้องเช่นกัน
อาการตาลายหัว อาการที่เกิดขึ้นกับการคลื่นไส้นี้อาจทุเลาให้ได้ด้วยการใช้คุณประโยชน์จากขิง จากงานค้นคว้าวิจัยที่ทดลองด้วยการให้ผู้ที่มีลักษณะบ้านหมุน และตากระเหม็นตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิรับประทานผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการตาลายศีรษะได้อย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก แต่ไม่ได้ช่วยลดระยะเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการศึกษาบางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีสรรพคุณลดลักษณะของการเจ็บที่เกิดจากโรคข้อเสื่อม จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยกินสารสกัดจากขิงชนิดหนึ่ง (Zintona EC) ในปริมาณ 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดลักษณะของการปวดข้อหัวเข่าหลังจากการดูแลและรักษาตรงเวลา 3 เดือน ส่วนอีกงานศึกษาเรียนรู้วิจัยที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์สำหรับในการช่วยลดลักษณะของการเจ็บขณะยืน อาการเจ็บข้างหลังเดิน แล้วก็อาการข้อติด
นอกเหนือจากนี้ มีการเรียนรู้เทียบความสามารถระหว่างขิงและยาแก้ปวด โดยให้คนเจ็บโรคข้ออักเสบในกระดูกบั้นท้ายและก็ข้อหัวเข่ารับประทานสารสกัดขิง 500 มิลลิกรัมแต่ละวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงได้ผลบรรเทาอาการปวดได้เทียบเท่ากับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง รวมทั้งยังมีงานศึกษาเรียนรู้ที่เสนอแนะว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงและก็ส้มบางทีอาจช่วยบรรเทาอาการปวดแล้วก็อ่อนล้าที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของคนเจ็บที่มีลักษณะอาการเจ็บหัวเข่าได้ด้วย
อาการปวดเมนส์ เว้นแต่ลักษณะของการปวดจากโรคข้อเสื่อม การศึกษาเล่าเรียนบางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดระดู ยกตัวอย่างเช่น การทดลองในนักศึกษามหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้รับประทานผงเหง้าขิงทีละ 500 มก. วันละ 3 ครั้งในช่วง 2 วันก่อนเริ่มมีระดูต่อเนื่องไปจนถึง 3 วันแรกของการมีประจำเดือน รวมเบ็ดเสร็จเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของอาการปวดรอบเดือนได้อย่างมีนัยสำคัญด้านการเรียนรู้เปรียบสมรรถนะของขิงและก็ยาลดอาการปวดประจำเดือนอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มิลลิกรัม ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มกินแคปซูลขิงหรือยาแต่ละจำพวกในจำนวน 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีรอบเดือน ผลลัพธ์ปรากฏไปในทิศทางเดียวกันกับงานศึกษาวิจัยแรก คือ ขิงมีคุณภาพทุเลาความร้ายแรงของอาการปวดประจำเดือนไม่ได้ต่างอะไรกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลและรักษาที่อาจไม่เป็นผล
อาการเมารถแล้วก็เมาเรือ นับเป็นสรรพคุณของขิงที่มีการเอ่ยถึงกันมาก แต่ถึงแม้ขิงบางทีก็อาจจะช่วยลดอาการวิงเวียนได้ แต่สำหรับในการตาลายอ้วกที่เกิดขึ้นจากการเดินทางนั้น งานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยส่วนใหญ่บอกว่าขิงอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง ตัวอย่างเช่น การแบ่งกรุ๊ปให้เด็กนักเรียนนายเรือ 80 ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางทะเลที่มีคลื่นแรง รับประทานเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ปรากฏว่ากรุ๊ปที่รับประทานขิงนั้นมีลักษณะอาการคลื่นไส้แล้วก็วิงเวียนน้อยลงจริงแต่อยู่ในระดับน้อยแค่นั้น หรือในอีกงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยที่ชี้ว่าการรับประทานผงขิงในจำนวน 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มิลลิกรัม ต่างไม่มีส่วนช่วยในการคุ้มครองป้องกันอาการเมารถหรือหลักการทำงานของกระเพาะที่เกี่ยวพันกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังแต่ประการใด
การรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอต่อการระบุสมรรถนะ
อาการอาเจียนอ้วกจากกระบวนการทำเคมีบำบัด อีกหนึ่งคุณประโยชน์เป็นลดอาการคลื่นไส้แล้วก็คลื่นไส้ ซึ่งมีการเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ แม้กระนั้นหลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในคนไข้ที่รับเคมีบำบัดรักษานั้นยังเป็นที่โต้วาทีกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้ใช่หรือไม่ การเรียนรู้หนึ่งที่ชี้ถึงประโยชน์ข้อนี้ของขิง โดยให้คนเจ็บรับประทานแคปซูลขิงที่มีขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบำบัดนานต่อเนื่องตรงเวลา 6 วัน พบว่า มีระดับความรุนแรงของอาการอ้วกที่เกิดขึ้นหลังจากการรักษาน้อยกว่ากลุ่มที่มิได้กินแคปซูลขิง แต่เห็นผลได้ชัดในกรุ๊ปที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมเพียงแค่นั้น ส่วนกรุ๊ปที่รับประทานแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับเห็นผลน้อยกว่า แปลว่าการกินขิงในจำนวนมากจึงอาจมิได้ทำให้อาการอาเจียนดีขึ้นอย่างที่น่าจะเป็น
แม้กระนั้น มีหลักฐานที่โต้แย้งข้อช่วยเหลือดังกล่าวซึ่งเป็นงานศึกษาเรียนรู้ที่เผยว่าการรับประทานขิงมิได้มีคุณภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้อาเจียน ทั้งนี้ ผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีสาเหตุมาจากจำนวนขิงที่ใช้ทดสอบนั้นไม่เหมือนกัน รวมถึงขณะที่เริ่มรักษาด้วย ขิงจะนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในด้านนี้แล้วเห็นผลหรือไม่อาจควรจะมีการยืนยันเพิ่มเติมถัดไป
เบาหวาน คุณลักษณะของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคนไข้เบาหวานในปัจจุบันยังส่งผลการค้นคว้าที่ไม่แน่นอน งานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่งพบว่าการกินขิง 2 กรัม นาน 12 อาทิตย์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด รวมทั้งสารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในคนไข้โรคเบาหวานชนิดที่ 2 แล้วก็บางทีอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางจำพวกจากเบาหวานได้ ในขณะเดียวกัน มีการค้นคว้าอื่นๆที่แนะนำว่าขิงนั้นส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง กลับไม่เป็นผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางการวิจัยกล่าวว่าขิงมีผลกับอินซูลิน แต่กลับไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดน้อยลง ซึ่งผลการศึกษาเรียนรู้และค้นคว้ารวมทั้งการวิจัยที่แตกต่างนั้นอาจมาจากปริมาณขิงหรือระยะเวลาที่ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคโรคเบาหวานในแต่ละการทดสอบนั้นแตกต่างกันนั่นเอง
ของกินไม่ย่อย มีการศึกษาค้นคว้าเล่าเรียนคุณภาพของขิงในคนเจ็บที่มีลักษณะอาหารไม่ย่อยจำนวน 11 คน โดยให้รับประทานแคปซูลที่มีขิง 1.2 กรัมหลังจากการเลิกอาหาร 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะมีการย่อยของกินและก็เกิดการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย ทว่าการกินขิงนั้นไม่เป็นผลต่ออาการที่เกี่ยวโยงกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในไส้ แต่ ผู้ร่วมการทดสอบนี้มีปริมาณน้อย ทำให้ไม่บางทีอาจกำหนดได้อย่างแจ่มแจ้งว่าขิงช่วยลดอาการของกินไม่ย่อยได้แน่ๆเพียงใด
อาการแฮงค์ เชื่อกันว่าการดื่มน้ำขิงจะสามารถช่วยบรรเทาอาการเมาค้างซึ่งเป็นผลข้างๆจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับผลดีข้อนี้มีงานค้นคว้าวิจัยเมื่อนานมาแล้วที่เสนอแนะว่าการผสมขิงกับเปลือกข้างในของส้มเขียวหวาน แล้วก็น้ำตาลก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการเมาค้างในตอนหลัง รวมถึงอาการอ้วก คลื่นไส้รวมทั้งท้องร่วง แต่ การเรียนรู้ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นยังจัดว่ากำกวมอยู่มากมายและไม่อาจรับรองได้ว่าเกิดขึ้นจากขิงจริงๆหรือส่วนผสมอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณลักษณะของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดสอบโดยให้ผู้เจ็บป่วยที่มีภาวการณ์ไขมันในเลือดสูงรับประทานแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 กรัม คำตอบกล่าวว่าเมื่อเทียบกับผู้เจ็บป่วยกลุ่มที่กินยาหลอก ขิงมีคุณภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะได้ผลดีจนสามารถประยุกต์ใช้รักษาผู้ป่วยสภาวะนี้ได้ไหมคงต้องรอคอยการเรียนรู้ในอนาคตที่ชัดแจ้งกันถัดไป
ลักษณะของการเจ็บกล้ามข้างหลังบริหารร่างกาย คุณลักษณะด้านการบรรเทาปวดแล้วก็ลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดอาการเจ็บจากการบริหารร่างกายได้ด้วยไหมนั้นยังคงคลุมเครือและก็เป็นที่โต้วาทีกันอยู่เช่นกัน จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมกินขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมอย่างต่อเนื่องนาน 124 ชั่วโมง พบว่าทั้งยังขิงสดรวมทั้งขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกายแบบหดยืดกล้ามเนื้อได้ในระดับปานกลางไปจนถึงระดับมากมาย
แต่อีกงานศึกษาเรียนรู้วิจัยหนึ่งกลับเจอคำตอบตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดสอบที่ทำกิจกรรมออกกำลังกายยืดหดกล้ามเนื้อเหมือนกัน รับประทานขิง 2 กรัมในช่วง 1 วันแล้วก็ 48 ชั่วโมงภายหลังการบริหารร่างกาย พบว่ามิได้ส่งผลให้อาการเจ็บกล้ามเนื้อ การอักเสบ หรือบาดเจ็บที่เกิดจากการบริหารร่างกายต่ำลง แต่ว่านักวิจัยพบว่าการกินขิงอาจช่วยทำให้ลักษณะของการเจ็บกล้ามเนื้อเบาๆในแต่ละวัน อาจไม่เห็นผลได้โดยทันที
ลักษณะของการปวดศีรษะไมเกรน มีการศึกษากับคนป่วย 100 คน ที่เคยมีอาการปวดหัวไมเกรนฉับพลันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/

Tags : สมุนไพรขิง



โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี