รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง  (อ่าน 214 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

01adxz45

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 2
    • ดูรายละเอียด

Permalink: ขิง เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณอันน่าทึ่ง

ขิง
ขิง เป็นพืชที่มีเหง้าใต้ดิน ด้านนอกเหง้าเป็นน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน มักเอามาทำอาหารเพราะส่งกลิ่นหอม นอกเหนือจากนั้น ขิงยังคงใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่ม สบู่ และก็เครื่องแต่งหน้าทั้งหลายด้วยเหมือนกัน ด้านผลดีต่อร่างกาย มีความเชื่อเกี่ยวกับการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างช้านาน ยกตัวอย่างเช่น โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบที่ทำหน้าที่สำหรับการย่อยอาหารอย่างท้องร่วง มีแก๊สในกระเพาะ ของกินไม่ย่อย อาการเมารถเมาเรือ อาเจียน ไม่อยากกินอาหาร
คุณลักษณะของขิงมั่นใจว่าประกอบด้วยสารที่อาจช่วยลดอาการคลื่นไส้แล้วก็ลดการอักเสบ โดยนักค้นคว้าโดยมากคาดว่าเป็นสารที่ออกฤทธิ์ในกระเพาะแล้วก็ลำไส้ รวมทั้งสารนี้บางทีอาจส่งผลต่อสมองหรือระบบประสาทส่วนที่ควบคุมอาการอาเจียนด้วย แม้กระนั้นข้อสันนิษฐานดังกล่าวมาแล้วข้างต้นยังไม่กระจ่างนัก และก็คุณสมบัติด้านอื่นๆมีข้อมูลน้อยกว่า ซึ่งประโยชน์ของขิงต่อร่างกายที่พวกเราเชื่อกันนั้น ในตอนนี้ทางวิทยาศาสตร์มีข้อมูลอธิบายไว้ดังต่อไปนี้
การดูแลรักษาที่อาจเห็นผล
อาการอาเจียนคลื่นไส้ที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ยาต้านทานไวรัสเอชไอวีหรือเอดส์ คุณประโยชน์ทุเลาอาการอ้วกอาเจียนของขิงอาจเป็นประโยชน์ต่อคนเจ็บโรคนี้ที่เห็นแก่ได้รับผลกระทบจากการใช้ยารักษาโรค โดยจากการเรียนรู้ผู้ป่วยปริมาณ 102 คน แบ่งให้กรุ๊ปหนึ่งรับประทานขิง 500 กรัม อีกกรุ๊ปกินยาหลอกวันละ 2 ครั้ง ในตอน 30 นาทีก่อนที่จะได้รับยารักษาโรคเอดส์อย่างยาต้านทานรีโทรไวรัส ตรงเวลาทั้งหมดทั้งปวง 14 วัน พบว่าขิงช่วยลดอาการอาเจียนอ้วกที่เกิดจากการดูแลและรักษาโรคติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องได้
อาการคลื่นไส้คลื่นไส้ภายหลังการผ่าตัด ขิงอาจช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และอ้วกจากการผ่าตัดได้ด้วยเหมือนกัน โดยการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ส่วนมากชี้ว่าการรับประทานขิง 1-1.5 กรัม ในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมีการผ่าตัดนั้นดูเหมือนจะช่วยลดอาการอ้วกอาเจียนที่บางทีอาจเกิดขึ้นในระหว่าง 1 วันหลังได้รับการผ่าตัด
งานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งทดลองแบ่งคนไข้จำนวน 122 คนที่รับการผ่าตัดต้อกระจกให้รับประทานแคปซูลขิง 1 กรัม รวมทั้งอีกกลุ่มได้รับแคปซูลขิง 500 มิลลิกรัมแม้กระนั้นแบ่งให้ 2 ครั้งที่แล้วผ่าตัด ซึ่งคำตอบพบว่าคนไข้ในกลุ่มหลังมีลักษณะอ้วกคลื่นไส้น้อยครั้งและก็มีความรุนแรงของอาการน้อยกว่า โดยงานค้นคว้าวิจัยนี้พบว่าการใช้ขิงนั้นน่าจะให้คุณภาพสูงสุดเมื่อรับประทานบ่อยๆและเป็นประจำโดยแบ่งจำนวนการใช้
นอกจากนั้น การทดสอบทาน้ำมันขิงบริเวณข้อมือของคนไข้ก่อนเข้ารับการผ่าตัด พบว่าช่วยคุ้มครองปกป้องอาการอ้วกในผู้เจ็บป่วยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จากผู้เข้ารับการผ่าตัดทั้งปวง แต่การใช้ขิงช่วยลดอาการอ้วกอาเจียนร่วมกับยาลดอ้วกคลื่นไส้นั้นอาจให้ผลได้ไม่ดีนัก และการใช้ขิงกับผู้เจ็บป่วยที่มีความเสี่ยงต่อการอาเจียนอาเจียนน้อยอยู่แล้วหลังจากนั้นก็อาจไม่ได้ผลเช่นเดียวกัน
อาการแพ้ท้อง การรับประทานขิงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง ตัวอย่างเช่น คลื่นไส้ อ้วก หรือเวียนหัว ผลวิจัยชิ้นหนึ่งที่ช่วยยืนยันคุณลักษณะนี้เป็นการทดลองในหญิงที่มีอายุท้องต่ำลงมากยิ่งกว่า 20 อาทิตย์ จำนวน 120 คน ซึ่งพบเจออาการแพ้ท้องทุกๆวันนานอย่างน้อย 1 อาทิตย์ และไม่กระปรี้กระเปร่าขึ้นแม้จะเปลี่ยนแปลงการกินอาหารแล้วก็ตาม ภายหลังรับประทานสารสกัดจากขิง 125 มก. ซึ่งเท่ากันกับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน ผลได้ชี้ให้เห็นว่าขิงบางทีอาจสามารถประยุกต์ใช้ผลดีในฐานะการดูแลและรักษาหนทางต่ออาการแพ้ท้องได้
ถือว่าสอดคล้องกับอีกงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยก่อนหน้าที่ชี้ว่าการกินขิง 1 กรัมต่อวัน ติดต่อนาน 4 วัน สามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการอาเจียนคลื่นไส้ในหญิงมีครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องได้ อย่างไรก็แล้วแต่การใช้ขิงสำหรับคุณประโยชน์ด้านนี้อาจเห็นการดูแลและรักษาได้ช้ากว่าหรือได้ผลดีไม่เทียบเท่าการใช้ยาแก้อ้วกอ้วก นอกเหนือจากนั้น การศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติช่วยลดอาการแพ้ท้องของขิงยังมีข้อกำหนดและก็พบผลสรุปที่ไม่สม่ำเสมอ โดยมีบางการทดสอบที่ชี้ว่าขิงอาจไม่ได้มีส่วนช่วยในการลดอาการแพ้ท้องด้วยเหมือนกัน
อาการเวียนหัวศีรษะ อาการที่เกิดขึ้นพร้อมกับการคลื่นไส้นี้อาจทุเลาให้ได้ด้วยการใช้คุณประโยชน์จากขิง จากงานวิจัยที่ทดสอบด้วยการให้ผู้ที่มีอาการบ้านหมุน และตากระเหม็นตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิกินผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการตาลายศีรษะได้อย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก แต่ว่ามิได้ช่วยลดระยะเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม มีการเรียนรู้บางงานที่ชี้ว่าขิงอาจมีคุณประโยชน์ลดลักษณะการเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากโรคข้อเสื่อม จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยรับประทานสารสกัดจากขิงชนิดหนึ่ง (Zintona EC) ในจำนวน 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดอาการปวดข้อหัวเข่าหลังจากการดูแลรักษาตรงเวลา 3 เดือน ส่วนอีกงานศึกษาเรียนรู้ที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์สำหรับเพื่อการช่วยลดลักษณะของการเจ็บขณะยืน อาการเจ็บหลังเดิน และก็อาการข้อติด
นอกเหนือจากนั้น มีการเรียนเทียบสมรรถนะระหว่างขิงแล้วก็ยาพารา โดยให้ผู้เจ็บป่วยโรคข้ออักเสบในกระดูกบั้นท้ายรวมทั้งข้อเข่ากินสารสกัดขิง 500 มก.ทุกวัน วันละ 2 ครั้ง ขิงให้ผลบรรเทาอาการปวดได้เท่ากันกับการใช้ยาไอบูโพรเฟน 400 มก. วันละ 3 ครั้ง และก็ยังมีงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยที่ชี้แนะว่าการนวดด้วยน้ำมันที่มีส่วนผสมของขิงรวมทั้งส้มอาจช่วยบรรเทาลักษณะของการปวดแล้วก็เหน็ดเหนื่อยที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆของคนป่วยที่มีลักษณะเจ็บเข่าได้ด้วย
อาการปวดรอบเดือน เว้นแต่ลักษณะของการปวดจากโรคข้อเสื่อม การเรียนรู้บางงานยังชี้ว่าขิงอาจมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดเมนส์ เช่น การทดสอบในนักศึกษามหาวิทยาลัย 120 คน โดยให้กินผงเหง้าขิงทีละ 500 มก. วันละ 3 ครั้งในช่วง 2 วันก่อนเริ่มมีเมนส์ตลอดไปจนกระทั่ง 3 วันแรกของการมีประจำเดือน รวมทั้งหมดเป็น 5 วัน พบว่าผงเหง้าขิงมีส่วนช่วยลดความร้ายแรงของอาการปวดเมนส์ได้อย่างมีนัยสำคัญด้านการศึกษาเทียบคุณภาพของขิงแล้วก็ยาลดลักษณะของการปวดรอบเดือนอย่างเมเฟนามิค (Mefenamic acid) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 400 มก. ในอาสาสมัคร 150 คน โดยแบ่งกลุ่มกินแคปซูลขิงหรือยาแต่ละจำพวกในปริมาณ 250 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง นาน 3 วัน โดยเริ่มตั้งแต่มีระดู ผลสรุปปรากฏไปในทิศทางเดียวกันกับงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยแรกเป็นขิงมีประสิทธิภาพทุเลาความรุนแรงของลักษณะของการปวดเมนส์ไม่มีความแตกต่างกับการใช้ยาเมเฟนามิคหรือไอบูโพรเฟน
การดูแลรักษาที่บางทีอาจไม่ได้เรื่อง
อาการเมารถรวมทั้งเมาเรือ นับเป็นสรรพคุณของขิงที่มีการกล่าวถึงกันมากมาย แต่ว่าหากแม้ขิงอาจจะช่วยลดอาการเวียนหัวได้ แต่ในการหน้ามืดอ้วกที่เกิดจากการเดินทางนั้น งานศึกษาวิจัยโดยมากกล่าวว่าขิงอาจไม่มีส่วนช่วยได้จริง ตัวอย่างเช่น การแบ่งกลุ่มให้ผู้เรียนนายเรือ 80 ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการออกเรือท่ามกลางสมุทรที่มีคลื่นแรง รับประทานเหง้าขิง 1 กรัม เทียบกับอีกกลุ่มที่รับประทานยาหลอก ปรากฏว่ากรุ๊ปที่กินขิงนั้นมีลักษณะอ้วกแล้วก็หน้ามืดลดน้อยลงจริงแต่ว่าอยู่ในระดับน้อยเท่านั้น หรือในอีกงานค้นคว้าที่ชี้ว่าการกินผงขิงในจำนวน 500 กรัม 1,000 กรัม หรือเหง้าขิงสด 1,000 มิลลิกรัม ต่างไม่มีส่วนช่วยสำหรับเพื่อการคุ้มครองอาการเมารถหรือลักษณะการทำงานของกระเพาะที่เกี่ยวพันกับอาการเมารถที่เกิดขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังแต่อย่างใด
การดูแลและรักษาที่ยังไม่มีหลักฐานพอเพียงต่อการเจาะจงความสามารถ
อาการอาเจียนคลื่นไส้จากวิธีการทำเคมีบำบัด อีกหนึ่งสรรพคุณเป็นลดอาการคลื่นไส้และอ้วก ซึ่งมีการเล่าเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์ แม้กระนั้นหลักฐานเกี่ยวกับการใช้ขิงในผู้เจ็บป่วยที่รับเคมีบำบัดรักษานั้นยังเป็นที่โต้วาทีกันอยู่ว่าจะมีส่วนช่วยได้ใช่หรือไม่ การเรียนหนึ่งที่ชี้ถึงคุณประโยชน์ข้อนี้ของขิง โดยให้ผู้เจ็บป่วยกินแคปซูลขิงที่ประกอบด้วยขิง 0.5-1.5 กรัม เทียบกับยาหลอก ตั้งแต่ 3 วันก่อนวันทำเคมีบำบัดนานตลอดเป็นเวลา 6 วัน พบว่า มีระดับความร้ายแรงของอาการอาเจียนที่เกิดขึ้นภายหลังจากการดูแลและรักษาน้อยกว่ากรุ๊ปที่ไม่ได้รับประทานแคปซูลขิง แต่เห็นผลได้ชัดในกลุ่มที่ใช้แคปซูลขิง 0.5 กรัม กับ 1 กรัมเพียงแค่นั้น ส่วนกลุ่มที่รับประทานแคปซูลขิง 1.5 กรัมกลับเห็นผลน้อยกว่า แปลว่าการรับประทานขิงในปริมาณมากก็เลยอาจไม่ได้ทำให้อาการอ้วกดียิ่งขึ้นอย่างที่น่าจะเป็น
อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานที่ปะทะคารมข้อช่วยเหลือดังที่กล่าวถึงแล้วซึ่งเป็นงานศึกษาเรียนรู้ที่เปิดเผยว่าการกินขิงมิได้มีประสิทธิภาพดีไปกว่าการใช้ยาแก้อ้วก ทั้งนี้ ผลการศึกษาวิจัยที่ขัดแย้งกันนี้ คาดว่าอาจมีปัจจัยมาจากปริมาณขิงที่ใช้ทดสอบนั้นแตกต่าง รวมทั้งช่วงเวลาที่เริ่มรักษาด้วยการใช้ ขิงจะประยุกต์ใช้คุณประโยชน์ทางด้านการแพทย์ในด้านนี้แล้วเห็นผลไหมอาจจะควรมีการรับรองเพิ่มเติมอีกถัดไป
โรคเบาหวาน คุณลักษณะของขิงต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวานในตอนนี้ยังมีผลการค้นคว้าที่ไม่แน่นอน งานค้นคว้าวิจัยหนึ่งพบว่าการรับประทานขิง 2 กรัม นาน 12 สัปดาห์ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ระดับไขมันในเลือด แล้วก็สารมาลอนไดอัลดีไฮด์ที่แสดงถึงระดับอนุมูลอิสระในคนไข้เบาหวานประเภทที่ 2 รวมทั้งอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังบางชนิดจากเบาหวานได้ ในขณะเดียวกัน มีการค้นคว้าวิจัยอื่นๆที่ชี้แนะว่าขิงนั้นส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดจริง กลับไม่มีผลต่อระดับอินซูลิน หรือบางงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยกล่าวว่าขิงส่งผลกับอินซูลิน กลับไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ซึ่งผลการศึกษาวิจัยที่แตกต่างนั้นอาจมาจากจำนวนขิงหรือช่วงเวลาที่คนป่วยได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นโรคโรคเบาหวานในแต่ละการทดสอบนั้นไม่เท่ากันนั่นเอง
ของกินไม่ย่อย มีการศึกษาค้นคว้าเล่าเรียนสมรรถนะของขิงในคนป่วยที่มีอาการอาหารไม่ย่อยจำนวน 11 คน โดยให้รับประทานแคปซูลที่มีขิง 1.2 กรัมหลังจากการอดของกิน 8 ชั่วโมง ผลปรากฏว่าขิงช่วยกระตุ้นให้กระเพาะมีการย่อยอาหารรวมทั้งเกิดการบีบตัวของกระเพาะส่วนปลาย แต่การรับประทานขิงนั้นไม่มีผลต่ออาการที่เกี่ยวโยงกับระบบทางเดินอาหารหรือสารเปปไทด์ในลำไส้ แม้กระนั้น ผู้ร่วมการทดสอบนี้มีจำนวนน้อย ทำให้ไม่บางทีอาจกำหนดได้อย่างเห็นได้ชัดว่าขิงช่วยลดอาการอาหารไม่ย่อยได้แน่นอนเท่าใด
อาการเมาค้าง เชื่อกันว่าการดื่มน้ำขิงจะสามารถช่วยบรรเทาอาการแฮงค์ซึ่งได้ผลสำเร็จใกล้กันจากการดื่มแอลกอฮอล์ได้ สำหรับผลดีข้อนี้มีการค้นคว้าวิจัยเมื่อนานมาแล้วที่แนะนำว่าการผสมขิงกับเปลือกข้างในของส้มเขียวหวาน รวมทั้งน้ำตาลทรายแดงก่อนดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดอาการเมาค้างในคราวหลัง รวมทั้งอาการอาเจียน อาเจียนและท้องเสีย แต่ การศึกษาเล่าเรียนดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วยังจัดว่าไม่กระจ่างอยู่มากมายและไม่บางทีอาจรับรองได้ว่ามีต้นเหตุมาจากขิงจริงๆหรือส่วนประกอบอื่นๆที่ใช้ประกอบ
ลดคอเลสเตอรอล คุณลักษณะของขิงซึ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลนั้นได้มีการทดลองโดยให้ผู้เจ็บป่วยที่มีสภาวะไขมันในเลือดสูงกินแคปซูลขิงวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 กรัม คำตอบบอกว่าเมื่อเทียบกับคนป่วยกรุ๊ปที่กินยาหลอก ขิงมีคุณภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการใช้ขิงลดระดับคอเลสเตอรอลจะได้ผลดีกระทั่งสามารถนำมาใช้รักษาคนป่วยสภาวะนี้ได้ไหมอาจจะจำต้องรอคอยการเล่าเรียนในอนาคตที่แน่ชัดกันต่อไป
อาการเจ็บกล้ามเนื้อข้างหลังบริหารร่างกาย คุณสมบัติด้านการบรรเทาปวดและก็ลดการอักเสบของขิงจะช่วยลดลักษณะการเจ็บจากการออกกำลังกายได้ด้วยไหมนั้นยังคงไม่ชัดแจ้งและเป็นที่ปะทะคารมกันอยู่เช่นกัน จากการทดสอบหนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมรับประทานขิงสดหรือขิงที่ทำให้สุกด้วยความร้อนแล้ว 2 กรัมโดยตลอดนาน 124 ชั่วโมง พบว่าทั้งยังขิงสดและขิงสุกต่างมีส่วนช่วยลดลักษณะการเจ็บกล้ามจากการบริหารร่างกายแบบหดยืดกล้ามเนื้อได้ในระดับปานกลางไปจนถึงระดับมาก
ทว่าอีกงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยหนึ่งกลับพบผลสรุปในทางตรงกันข้าม จากการให้ผู้เข้าร่วมการทดลองที่ทำกิจกรรมออกกำลังกายยืดหดกล้ามแบบเดียวกัน กินขิง 2 กรัมในตอน 1 วันแล้วก็ 48 ชั่วโมงภายหลังจากการบริหารร่างกาย พบว่ามิได้ส่งผลให้อาการเจ็บกล้ามเนื้อ การอักเสบ หรือเจ็บที่เกิดขึ้นมาจากการบริหารร่างกายลดน้อยลง แต่ว่าผู้ศึกษาค้นคว้าและวิจัยพบว่าการรับประทานขิงบางทีอาจช่วยทำให้อาการเจ็บกล้ามเนื้อค่อยๆดียิ่งขึ้นในทุกวัน แม้บางทีอาจมองไม่เห็นผลตอบแทนในทันที
อาการปวดศีรษะไมเกรน มีการเรียนกับคนเจ็บ 100 คน ที่เคยมีลักษณะอาการปวดหัวไมเกรนเฉียบพลันโดยให้รับผงขิงหรือยารักษา http://www.disthai.com/



โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี