รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..  (อ่าน 45 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

kkjofkgkuy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 8
    • ดูรายละเอียด

Permalink: เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือ?..

เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็ง
อีกหนึ่งงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในคนป่วยโรคมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วมีส่วนสำหรับเพื่อการยัยยั้งการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการศึกษาเรียนรู้วิจัยล้นหลามถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจมีผลต่อการต้านการอักเสบในผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดบางราย แม้กระนั้นยังคงไม่มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดลองทางการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่เกื้อหนุนให้ใช้เห็ดหลินจือสำหรับในการรักษามะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อพินิจพิจารณาเปรียบเทียบจากการรวบงานศึกษาทำการค้นคว้าและวิจัยที่เรียนรู้ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้จะพบว่าคนไข้สนองตอบต่อการดูแลและรักษาด้วยเคมีบำบัดรักษาหรือรังสีบรรเทาก้าวหน้าขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แต่ว่าเมื่อทดลองใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับในการทำให้มะเร็งลดขนาดลงอย่างใด
นอกเหนือจากนั้น จาการทบทวนงานศึกษาเรียนรู้วิจัยพบว่ามีการค้นคว้า 4 ชิ้นที่มีผลลัพธ์ส่งเสริมว่าเห็ดหลินจืออาจชมรมต่อการปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น และก็ในเวลาเดียวกัน ก็มีผลลัพธ์จากงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้และนอนไม่หลับด้วย
ฉะนั้น ก็เลยอาจจะกล่าวว่า สิ่งพิสูจน์ทางคุณสมบัติรวมทั้งประโยชน์ซึ่งมาจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานศึกษาเรียนรู้วิจัยเป็นการทดลองขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ หรือเป็นเพียงแค่การทดลองในผู้ป่วยบางกรุ๊ปแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง ก็เลยยังคงเป็นเรื่องการค้นคว้าที่ควรปฏิบัติงานทดสอบถัดไปเพื่อให้ได้เห็นผลลัพ์ที่แน่ชัดและมีประโยชน์ในวงกว้างต่อการรักษาผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งได้ในอนาคต
ภาวะต่อมลูกหมากโต และก็การเจ็บป่วยในระบบทางเดินปัสสาวะ
มีขั้นตอนการทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดลองในคนป่วยเพศ 88 รายซึ่งแก่เกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีลักษณะอาการฉี่ขัดข้อง หลังการทดลองกว่า 12 สัปดาห์ ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผู้ป่วยต่างมีระดับคะแนน IPSS ที่ ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับในการวัดปัญหาในระบบทางเดินปัสวะของผู้เจ็บป่วยจากการตอบปัญหา แต่กลับไม่ปรากฏผลในเชิงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากแต่อย่างใด
ด้วยเหตุผลดังกล่าว การทดสอบดังกล่าวข้างต้นจึงยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่กระจ่างเพียงพอ ควรต้องมีการค้นคว้าทดสอบในด้านนี้ต่อไปในอนาคต เพื่อค้นหาหลังฐานที่แน่ชัดสำหรับการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการดูแลและรักษาภาวะต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาด้านสุขภาพใดๆก็ตามที่เกี่ยวข้อง
ลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ
จากการวิเคราะห์ผลของการทดสอบทางการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีคนไข้โรคเบาหวานชนิด 2 ร่วมทดสอบกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่เป็นผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพเพียงพอจะช่วยเหลือผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่เพียงพอในการยืนยันด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นเดียวกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาค้นคว้าและการวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลข้างเคียงจากการบริโภคเห็ดหลินจือในคนป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องร่วง หรือท้องผูก
ด้วยเหตุนี้ควรต้องมีการค้นคว้าทดสอบถึงความสามารถของเห็ดหลินจือสำหรับการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆกลุ่มนี้เพื่อคุ้มครองป้องกันและการดูแลและรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจถัดไป และก็ให้ได้ความกระจ่างชัดดเจนในด้านดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นเพิ่มมากขึ้น อันเป็นคุณประโยชน์ต่อแนวทางการรักษาคุ้มครองป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจและก็อาการต่างๆที่เกี่ยวเนื่องถัดไปในอนาคต
ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการบริโรคเห็ดหลินจืออย่างแจ่มกระจ่าง เนื่องประสิทธิผลรวมทั้งผลข้างคียงจากการบริโภค ด้วยเหตุนี้ ลูกค้า ควรทำการศึกษาเรียนรู้และทำการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ รวมทั้งขอคำแนะนำแพทย์หรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโรค ด้วยเหตุว่าถึงแม้เห็ดหลินจือในแต่ละแบบอย่างจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่ว่าสารเคมีรวมทั้งส่วนประต่างบางทีอาจส่งผลข้างเคียงที่ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้เหมือนกัน

โดยปกติ ปริมาณการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันอาทิเช่น
-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่สมควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่สมควรบริโภคเกิน 1 มล./วัน
ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้จะมีการพิสูจน์ถึงคุณค่าในบางด้านที่บางทีอาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แต่ว่าผู้ใช้ก็ควรศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ แล้วก็ขอความเห็นแพทย์หรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการบริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรระมัดระวังในด้านปริมาณรวมทั้งแบบอย่างเห็ดหลินจือที่บริโภค เพราะว่าอาจเป็นผลใกล้กันต่อร่างกายได้ในคราวหลัง
โดยข้อควรพิจารณาสำหรับในการบริโภคเห็ดหลินจือได้แก่
คนซื้อทั่วๆไป.......
-ควรจะบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนที่พอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันนานเกินกว่า 1 ปี อาจจะส่งผลให้เป็นอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงได้ ดังเช่นว่า ปากแห้ง คอแห้ง คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ป่วนปั่น ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มเหล้าองุ่นเห็ดหลินจืออาจก่อเกิดผลกระทบเป็นอาการผื่นคัน
-การดมหายใจเอาเซลล์สืบพันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้
ผู้ที่พึงระวังในการบริโภคเป็นพิษ
คนที่ท้อง หรือกำลังให้นมบุตร แม้ยังไม่มีการพิสูจน์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ในกลุ่มผู้ใช้นี้แต่ผู้ที่มีครรภ์แล้วก็ผู้ที่กำลังให้นมลูกควรจะหลีกเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ เพื่อให้มีความปลอดภัยต่อร่างกายของตนและลูกน้อย
คนที่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนเจ็บบางรายที่จำต้องเข้ารับการผ่าตัด ฉะนั้น เพื่อลดความเสี่ยง คนไข้ควรจะหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ อย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนวันผ่าตัด
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
ความดันโลหิตต่ำ เห็ดหลินจืออาจส่งผลให้ความดันเลือดต่ำลง ฉะนั้น ผู้ป่วยภาวะความดันเลือดต่ำจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวการณ์เกล็ดเลือดต่ำ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนที่มีเกล็ดเลือดต่ำ ด้วยเหตุผลดังกล่าวคนไข้สภาวะเกล็ดเลือดต่ำก็เลยไม่สมควรบริโภคเห็ดหลินจือ
สภาวะมีเลือดออกไม่ดีเหมือนปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในปริมาณมาก อาจเพิ่มการเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในผู้เจ็บป่วยบางราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีสภาวะเลือกออกเปลี่ยนไปจากปกติอยู่แล้ว http://www.disthai.com/



โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี