เห็ดหลินจือเห็ดหลินจือ รักษาโรคมะเร็งอีกหนึ่งงานศึกษาเรียนรู้วิจัยที่เล่าเรียนเกี่ยวกับประสิทธิผลของสารโพลีแซ็คคาไรค์ในเห็ดหลินจือของผู้ในคนป่วยโรคมะเร็งปอด จากการวิเคาะห์พบว่า สารดังที่กล่าวถึงแล้วมีส่วนสำหรับการยัยยั้งแนวทางการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว
จากการค้นคว้ามากไม่น้อยเลยทีเดียวถึงประสิทธิผลทางการรักษาโรคโรคมะเร็งของเห็ดหลินจืออาจส่งผลต่อการต้านการอักเสบในผู้เจ็บป่วยโรคมะเร็งปอดบางราย แม้กระนั้นยังคงไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์หรือการทดสอบทางด้านการแพทย์ที่ให้ข้อมูลเพียงพอที่ช่วยเหลือให้ใช้เห็ดหลินจือในการรักษามะเร็งอย่างเป็นทางการ
เมื่อพินิจพิจารณาเปรียบเทียบจากการรวบงานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยที่ศึกษาประสิทธิผลของ
เห็ดหลินจือเพื่อรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ 373 คน แม้ว่าจะพบว่าคนป่วยสนองตอบต่อการดูแลและรักษาด้วยเคมีบรรเทาหรือรังสีบรรเทาก้าวหน้าขึ้นเมื่อรักษาร่วมกับการใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือ แม้กระนั้นเมื่อทดลองใช้เห็ดหลินจือเพียงอย่างเดียวกลับไม่มีประสิทธิผลในสำหรับในการทำให้โรคมะเร็งลดขนาดลงอย่างใด
นอกเหนือจากนั้น จาการทบทวนงานศึกษาวิจัยพบว่ามีงานศึกษาเรียนรู้วิจัย 4 ชิ้นที่มีผลลัพธ์ช่วยเหลือว่าเห็ดหลินจืออาจสโมสรต่อการปรับแต่งคุณภาพชีวิตของคนไข้ให้ดียิ่งขึ้น และในขณะเดียวกัน ก็ส่งผลลัพธ์จากการวิจัยหนึ่งที่แสดงถึงผลข้างคียงของเห็ดหลินจือ เป็นอาการคลื่นใส้แล้วก็นอนไม่หลับด้วย
ดังนั้น ก็เลยอาจกล่าวได้ว่า สิ่งพิสูจน์ทางคุณลักษณะแล้วก็ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากเห็ดหลินจือยังคงมีจำกัด บาง งานศึกษาเรียนรู้และค้นคว้าและทำการวิจัยเป็นการทดสอบขนาดเล็ก หลักฐานที่ได้ยังไม่มีประสิทธิภาพพอเพียง หรือเป็นเพียงแต่การทดลองในคนป่วยบางกรุ๊ปเพียงแค่นั้น ประสิทธิผลของเห็ดหลินจือต่อโรคมะเร็ง จึงยังคงเป็นประเด็นการค้นคว้าที่ควรจะปฏิบัติการทดสอบต่อไปเพื่อได้เห็นผลลัพ์ที่แจ่มแจ้งแล้วก็มีคุณประโยชน์ในวงกว้างต่อการดูแลรักษาคนไข้มะเร็งได้ในอนาคต
สภาวะต่อมลูกหมากโต และการเจ็บป่วยในระบบทางเดินฉี่มีขั้นตอนการทดลองหนึ่งที่ใช้สารสกัดจากเห็ดหลินจือทดสอบในผู้ป่วยเพศ 88 รายซึ่งมีอายุเกินกว่า 49 ปีขึ้นไป ที่มีอาการเยี่ยวติดขัด ข้างหลังการทดลองกว่า 12 อาทิตย์ คำตอบที่ได้คือ ผู้ป่วยต่างหรูหราคะแนน IPSS ที่ดีขึ้น ( TNE lnternational Prostate Symptom Score )ซึ่งเป็นค่าคะแนนสากลสำหรับการวัดปัญหาในระบบทางเท้าปัสวะของคนไข้จากการตอบคำถาม แต่ไม่ปรากฏผลในเชิงการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิต การขับถ่ายปัสวะ หรือขนาดของต่อมลูกหมากอะไร
ดังนั้น การทดลองดังที่กล่าวถึงมาแล้วก็เลยยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาสตร์ที่แน่ชัดพอเพียง ควรต้องมีการค้นคว้าทดสอบในด้านนี้ถัดไปในอนาคต เพื่อค้นหาข้างหลังฐานที่แจ้งชัดสำหรับเพื่อการสรุปเกี่ยวกับประสิทธิของเห็ดหลินจือต่อการรักษาภาวการณ์ต่อมลูกหมากโตหรือปัญหาสุขภาพใดๆก็ตามที่เกี่ยวเนื่อง
ลดสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจจากการวิเคราะห์ผลของการทดลองทางการแพทย์ 5 ราการ ซึ่งมีผู้ป่วยโรคเบาหวานจำพวก 2 ร่วมทดสอบกว่า 398 รายพบว่า เห็ดหลินจือไม่มีผลทางการรักษาในเชิงการลดระดับน้ำตาลในเลือดไม่มีหลักฐานทางด้านวิทยาศาสตร์ที่มีคุณภาพพอเพียงจะเกื้อหนุนผลทางการรักษาเหล่านั้น และไม่มีข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการยืนยันด้านความปลอดภัยจากการบริโภคเห็ดหลินจือเช่นกัน โดยหนึ่งในงานศึกษาค้นคว้าวิจัยเหล่านั้น ได้แสดงถึงผลกระทบจากการบริโภค
เห็ดหลินจือในผู้ป่วยบางราย เป็นอาการคลื่นใส้ ท้องเสีย หรือท้องผูก
โดยเหตุนี้จะต้องมีการค้นคว้าทดสอบถึงคุณภาพของเห็ดหลินจือในการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆเหล่านี้เพื่อปกป้องและก็การดูแลและรักษาโรคเส้นโลหิตหัวใจต่อไป รวมทั้งให้ได้เรื่องเด่นชัดชัดดเจนในด้านดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วมากขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นผลดีต่อวิธีการรักษาคุ้มครองป้องกันโรคเส้นเลือดหัวใจและก็อาการต่างๆที่เกี่ยวถัดไปในอนาคต
จำนวนที่สมควรในการบริโรคเห็ดหลินจืออปิ้งชัดเจน เนื่องประสิทธิผลและผลข้างคียงจากการบริโภค ด้วยเหตุดังกล่าว คนซื้อ ควรศึกษาเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ แล้วก็หารือหมอหรือเภสัชกรก่อนจะมีการบริโรค ด้วยเหตุว่าแม้เห็ดหลินจือในแต่ละต้นแบบจะเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ แต่สารเคมีรวมทั้งส่วนประต่างอาจส่งผลข้างๆที่มีอันตรายต่อสภาพร่างกายได้เช่นกัน
โดยทั่วไป ปริมาณการบริโภคเห็ดหลินจือ/วันตัวอย่างเช่น-เห็ดหลินจืออบแห้ง ไม่ควรบริโภคเกิน 1.5-9 กรัม/วัน
-ผงสารสกัดเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1-1.5 กรัม
-สารละลายเห็ดหลินจือ ไม่ควรบริโภคเกิน 1 มิลลิลิตร/วัน
ความปลอดภัยในการบริโภคเห็ดหลินจือ
แม้ว่าจะมีการพิสูจน์ถึงคุณประโยชน์ในบางด้านที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริโภคเห็ดหลินจือ แต่ผู้บริโภคก็ควรศึกษาเรียนรู้เนื้อหาเกี่ยวกับเห็ดหลินจือ และก็ขอคำแนะนำหมอหรือเภสัชกรก่อนที่จะมีการบริโภค โดยเฉพาะ ควรระมัดระวังในด้านปริมาณรวมทั้งต้นแบบเห็ดหลินจือที่บริโภค เพราะว่าบางทีอาจเป็นผลใกล้กันต่อร่างกายได้ในตอนหลัง
โดยข้อควรระวังสำหรับเพื่อการบริโภคเห็ดหลินจือเช่น
คนซื้อทั่วๆไป.......-ควรจะบริโภค
เห็ดหลินจือในจำนวนที่พอดิบพอดี
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันเป็นเวลานานเกินกว่า 1 ปี อาจจะทำให้ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
-การบริโภคสารสกัดจากเห็ดหลินจือติดต่อกันนานเกินกว่า 1 ปี อาจทำให้ได้รับอันตรายต่อสุขภาพได้
-การบริโภคสารสกัดเห็ดหลินจืออาจก่อเกิดผลข้างเคียงได้ ตัวอย่างเช่น ปากแห้ง คอแห้งผาก คันจมูก เลือดกำเดาไหล ท้องไส้ป่วนปั่น ถ่ายเป็นเลือด
-การดื่มไวน์เห็ดหลินจืออาจนำไปสู่ผลกระทบเป็นอาการผื่นคัน
-การสูดหายใจเอาเซลล์สืบพันธุ์ หรือ สปอร์ (Spores) ของเห็ดหลินจือเข้าไปอาจก่อให้เกิดอาการแพ้
ผู้ที่ต้องระวังสำหรับการบริโภคเป็นพิษ
ผู้ที่ท้อง หรือกำลังให้นมลูก ถึงแม้ยังไม่มีการยืนยันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ในกลุ่มผู้ใช้นี้แต่คนที่ตั้งท้องรวมทั้งคนที่กำลังให้นมบุตรควรจะเลี่ยงการบริโภค
เห็ดหลินจือ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อร่างกายของตัวเองและก็ลูกน้อย
ผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก บางทีอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนป่วยบางรายที่จำต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยเหตุนั้น เพื่อลดความเสี่ยง คนไข้ควรหยุดบริโภคเห็ดหลินจือ อย่างต่ำ 2 สัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด
ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพความดันโลหิตต่ำ เห็ดหลินจืออาจส่งผลให้ความดันเลือดต่ำลง ด้วยเหตุนี้ คนเจ็บสภาวะความดันเลือดต่ำควรต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ การบริโภค
เห็ดหลินจือในจำนวนมากอาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนที่มีเกล็ดเลือดต่ำ โดยเหตุนี้คนไข้ภาวะเกล็ดเลือดต่ำจึงไม่สมควรบริโภคเห็ดหลินจือ
ภาวะมีเลือดออกไม่ดีเหมือนปกติ การบริโภคเห็ดหลินจือในจำนวนมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงสำหรับเพื่อการเกิดภาวะมีเลือดออกในคนป่วยบางราย โดยเฉพาะในคนที่มีสภาวะเลือกออกแตกต่างจากปกติอยู่แล้ว
http://www.disthai.com/Tags : สมุนไพรเห็ดหลินจือ
