โดยปกติที่ไดร์เป่าผมนับว่าเป็นเครื่องมือประจำครัวเรือนของหญิงสาวส่วนมาก แต่การที่จะเลือกไดร์คุณภาพดี ซักเครื่องไว้ใช้งานก็ต้องมีเหตุปัจจัยหลายเรื่องที่ควรจะนึกถึงเช่น เลือกซื้อจากยี่ห้ออะไรถึงจะดี ถ้าหากไดร์ความร้อนมากเกินไปผมก็จะพัง ลมที่ใช้ในเป่าไม่แรงเพียงพอทำให้ผมแห้งช้า รวมถึงอีกหลายปัจจัย เราจะมารู้จักว่าสิ่งที่จำเป็นต้องนึกถึงในการซื้อไดร์เป่าผมประกอบด้วยอะไรบ้างพร้อมกับมีไดร์ตัวไหนที่น่าจับตามองสำหรับเป็นทางสำหรับการเลือกซื้อ
เรื่องแรกที่จำเป็นต้องวิเคราะห์คือ แรงไฟฟ้า เพื่อการเป่าผมให้มีคุณภาพแรงไฟไม่ควรต่ำกว่า 1000 W เพราะว่ากำลังไฟฟ้ามีผลกับแรงลมรวมถึงอุณหภูมิถ้าหากใช้ไดร์ที่มีกำลังไฟน้อยไปจะทำให้ลมที่ได้น้อยรวมทั้งความร้อนไม่ถึง จะเป็นสาเหตุที่จำเป็นจะต้องเปลืองเวลาในการเป่าผมที่มากขึ้น แต่ไม่ได้ไม่เสมอไปเพราะว่าในบางคราวแม้จะมีกำลังไฟมากๆแต่ลมที่ที่ได้ดันมีความแรงต่ำ โดยจำเป็นจะต้องดูกันให้ดีก่อนที่จะซื้อ
ต่อมาในด้านของความร้อนไดร์เป่าผมที่ดีไม่ควรทำความร้อนสูงเกินไป โดยหลายคนมักมองว่าหากใช้ความร้อนสูงๆ เส้นผมจะแห้งเร็ว โดยที่เส้นผมแห้งเร็วก็จริงแต่ทว่าแบบนั้นจะทำให้ผมเสียอย่างมาก ก็เพราะว่าบางครั้งเราไม่ใส่ใจในส่วนของการไดร์ผม อย่างเช่น การไดร์ผมครั้งละสูงๆ โดยไม่ได้มีการแบ่งผม อย่างนี้เลยส่งผลให้ผมที่แห้งแห้งแค่ข้างนอกและเส้นผมด้านในไม่แห้ง โดยเราก็เลยต้องเป่าผมต่อเนื่องเพื่อผมแห้งบวกกับผมข้างนอกที่แห้งไปแล้วก็โดนอุณหภูมิสูงอยู่เรื่อยๆ จึงส่งผลให้ผมแย่ได้ รวมถึงเครื่องมือและหวีที่เหมือนเป็นส่วนจำเป็นในการใช้งานไดร์ผมก็คือ หลายๆคนได้เลือกใช้หวีผิดลักษณะตัวอย่างเช่นการใช้หวีซี่ถี่หรือใช้หวีโลหะในการไดร์ ที่อย่าใช้หวีซี่ถี่เพราะว่ามันจะไปเสียดสีต่อผมบ่อยเกินส่วนที่ไม่ควรใช้หวีโลหะเพราะโลหะนำอุณหภูมิรวมทั้งหลังจากมันมาสัมผัสกับเส้นผมมากเกินไปจะทำให้ผมหมดสภาพได้ง่ายขึ้น
ท้ายที่สุดเป็นเรื่องของฟังก์ชั่นส่งเสริมที่มีมาในไดร์เป่าผม ตอนนี้มีหลากหลายแบรนด์ที่ช่วยเพิ่มจุดขายของตนเอง ออกมาด้วยฟังก์ชั่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม ,ให้ผมไม่ฟูเงางาม และอื่นๆ โดยเป็นฟังก์ชั่นที่น่าซื้อก็เพราะว่าไม่ทำให้เส้นผมเสียที่มาจากใช้งานรวมทั้งมีคุณสมบัติที่ทำให้ผมดูสุขภาพดีเลยนับว่าเป็นหนึ่งในเรื่องที่ควรนำมาพิจารณา
ต่อจากนั้นจะมาเช็คว่ามีไดร์เป่าผมตัวใดที่น่าจับตามองบ้าง แบรนด์ที่หนึ่งมากันที่ Phillips ที่ผลิตไดร์รุ่นใหม่มาก็คือ Phillips HP8280 กำลังไฟอยู่ที่ 2300 W ประกอบด้วย Feature มีชื่อเสียงสำหรับไดร์แบบก็คือ Moisture Protect Sensor ถือเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยรักษาความชื้นตามธรรมชาติจากเส้นผมโดยใช้อินฟาเรดในการพิจารณาผม รวมถึงมี Ionic Care ช่วยถนอมเส้นผม ให้ผมเงางาม ไม่ฟู รวมไปถึงระบบ ThermoProtect จำกัดอุณหภูมิที่ 57 องศา ไม่ทำให้เส้นผมเสีย สามารถปรับเปลี่ยนดีกรีอุณหภูมิรวมทั้งกำลังลมมากที่สุด 6 ดีกรี เพื่อที่จะการแต่งทรงผมที่คุณชื่นชอบ ราคารวมแล้ว 3,990 บาท แบรนด์ที่สองเป็น Panasonic ได้ผลิตไดร์เป่าผมรุ่นล่าสุดมาด้วยคือ รุ่น Panasonic EH-NA65 มีพลังไฟฟ้ารวมแล้ว 2000 W สำหรับไดร์เป่าผมรุ่นใหม่คือประเภทที่มี Nanoe(นาโนอิ) เทคโนโลยีแต่ของPanasonic ที่ช่วยให้ผมรู้สึกว่าเรียบลื่น เงางาม ไม่แห้งเสีย ก็เพราะว่าอนุภาค Nanoe สามารถแทรกซึมเข้าสู่เส้นผมเพื่อที่จะเติมเต็มความชื้น ทำให้ผมดูแข็งแรง เซ็ทผมง่าย และผมไม่เสีย สามารถปรับเปลี่ยนดีกรีความร้อนและกำลังลมได้ถึง 3 ระดับ รวมถึงตัวกรองด้านหลังสามารถเอาออกมาชำระล้างได้แบบง่ายมาก สนนราคารวมแล้ว 3,990 บาท พร้อมกับท้ายสุดเป็นไดร์เป่าผมที่กำลังเป็นที่จับตามองก็คือ
ไดร์เป่าผมของ Dyson ที่มีแรงไฟ 1600 W สำหรับไดร์เป่าผมรุ่นนี้ประกอบด้วยไอออนประจุลบที่ช่วยให้ลดไฟฟ้าสถิตทำให้เส้นผมออกมาไม่ฟูและเงางาม ข้างหลังในส่วนสั่งการ จะมีปุ่มปรับเปลี่ยนระดับอย่างนี้ ปุ่มเพื่อปรับดีกรีพลังลมสามารถเปลี่ยนได้ 3 ขั้น ปุ่มเปลี่ยนอุณหภูมิปรับได้ 3 ระดับ อีกทั้งปรับลมเย็นที่จะสามารถคุมการเป่าลมเย็นอย่างโดยตลอด มูลค่ารวมแล้ว 14,900 บาท
ดังนั้น การเลือกไดร์เป่าผมที่เหมาะกับการใช้ของตัวเอง โดยเฉพาะในผู้ใช้ที่ต้องไดร์ผมทุกทีการเลือกไดร์เป่าผมคุณภาพดี ซักเครื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
ไดร์ เป่าผม ยี่ห้อไหนดีTags : ไดร์ เป่าผม,ไดร์ เป่าผม ราคา,ไดร์ เป่าผม ยี่ห้อไหนดี, ไดร์