รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: บรรพบุรุษ Huawei P Series  (อ่าน 85 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

mmhaloha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1620
    • ดูรายละเอียด
บรรพบุรุษ Huawei P Series
« เมื่อ: สิงหาคม 21, 2018, 11:53:55 AM »

Permalink: บรรพบุรุษ Huawei P Series
หากว่ากล่าวถึง Huawei เชื้อสาย P Series ตัวแรกที่คิดถึงเลย ก็น่าจะหลบไม่พ้น Huawei P9 เนื่องมาจากช่วงที่เปิดฉากรุ่นนี้ออกมาครั้นวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 ถือว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องด้วยความเป็นกล้องถ่ายรูปคู่ที่ได้รับการผสานของเทคโนโลยีที่เข้าร่วมพัฒนากับ LEICA จึงทำให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายรูปที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างงดงาม และยังได้รับความนิยมอยู่ในตอนนี้ วันนี้ผมจะพาไปย้อนรอยเรื่องกล้องของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องถ่ายรูปส่วนหลัง 2 กล้องถ่ายรูปที่ทาง Huawei ได้ร่วมแรงกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องขั้นตำนานมาร่วมออกแบบกล้องให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งล่าง LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการชี้ช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขต่อท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งนับว่าเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่เหมาะเลยเทียว
 
 โดยกล้องตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องถ่ายรูปที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะกล้องถ่ายรูปตัวที่ 2 จะเป็นกล้องถ่ายภาพที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่คมชัดกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าทั่วๆ ไป และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายถึงปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus อย่างเดียวกันเลย อีกอย่างถึงแม้จะแบ่งแยกเป็นกล้องถ่ายรูป RGB กับ กล้องถ่ายรูป Monochrome แต่กล้องทั้งสองตัวจะทำงานร่วมกันอยู่แล้ว จึงทำให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดในส่วนสีขาว-ดำชัดมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องทั่วไป รวมถึงสามารถปรับจุดโฟกัสหลังจากทำการถ่ายรูปได้ด้วยเช่นเดียวกัน

 ส่วนกล้องถ่ายภาพด้านหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังจัดว่ายังทำออกมาได้ดีแม้จะไม่ใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ออกจะสว่าง หน้าตาขาวใส ถ้าหากใครที่ชอบถ่ายภาพตัวเอง ก็ไม่ควรพลาด อีกทั้งยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่แสงไฟน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน เช่นท่านไปงานสังสรรค์กลางคืน แต่ต้องการเซลฟี่ ท่านก็สามารถถ่ายได้ทุกสถานที่ โดยไม่ต้องมองหาแสงจากที่ใด เพราะหน้าจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างทันทีที่คุณลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกับแฟลชด้านหน้าเลยทีเดียว
 
 และถ้าเจาะลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงเริ่มที่โหมดอัตโนมัติ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานสบายที่สุด เพราะแค่เพียงยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์แค่นั้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่ฝึกถ่ายรูป แต่ต้องการภาพถ่ายที่สวยงาม โหมดออโต้ก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายรูปอยู่บ้าง โดยคุณสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ ซึ่งตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย ถ้าหากใครอยากนำไปแต่งในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็ไม่ได้มีอานุภาพในการแต่งเยอะมากมาย เพราะด้วยข้อจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้องถ่ายรูป Monochrome ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญเลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยเป็นแบรนด์แรกที่มีกล้องถ่ายภาพสำหรับถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่คมชัด สวยงามมาก เหมือนยังกะมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการเลียนแบบรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งคงทำได้ไม่ดีเหมือนกับกล้องใหญ่อย่าง DSLR เพราะมีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนน่าอาย
 
 และโหมดสุดท้ายที่ไม่แนะนำไม่ได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งหากท่านมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่ท่านจะได้นี่ทัดเทียมกล้องถ่ายภาพใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะถ้าปราศจากขาตั้งกล้อง อาจเป็นเหตุให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้ท่านสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยทีเดียว แต่หากไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้ออโต้ได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีจุดสำคัญ สเปคการใช้งานอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกอื้อ แต่อย่างที่บอกไปในข้างต้น ว่า Huawei เชื้อสาย P Series นั้น มีจุดสำคัญที่กล้องถ่ายรูปอยู่แล้ว ซึ่งหากว่าใครที่โปรดปรานการถ่ายรูป และต้องการรูปถ่ายที่ค่อนข้างมีคุณภาพเสมอเหมือนกล้องถ่ายภาพใหญ่ๆ แถมสามารถติดตัวได้อย่างสบายมากกว่าพกกล้องถ่ายรูปจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งเดี๋ยวนี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง ซึ่งเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ หรือร้าน ราคาอาจต่างกันออกไป ยังไงก็ลองสำรวจราคากันอีกครั้งนะครับ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รีวิว Huawei P9

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9



โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี

บรรพบุรุษ Huawei P Series
« เมื่อ: สิงหาคม 21, 2018, 11:53:55 AM »
SEO