ในกลุ่มของซื้อของขายเทคโนโลยีในตอนนี้ ชื่อของ Asus ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่ค่อยๆ ชนะใจลูกค้า จนกระทั่งขึ้นเป็นเบอร์ต้นๆ ของตลาดได้บรรลุผลโดยเป็นทั้งผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายอะไหล่คอมพิวเตอร์, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไปจวบจนถึงโทรศัพท์มือถือ, แฟบเล็ต, แท็บเล็ต หรือแม้แต่นาฬิกาอัจฉริยะ (Smartwatch) อะไรคือสิ่งที่เป็นที่ดึงดูดและเป็นจุดแรกเริ่มความสำเร็จของบริษัทจากประเทศไต้หวันแห่งนี้ มาแกะรอยกันได้เลยครับ
บริษัท Asus ก่อตั้งขึ้นครั้นเมื่อปี 1989 ณ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน จากผู้ชายทั้งหมด 4 คน ได้แก่ Wayne Hsieh, Ted Hsu, MT Liao และ TH Tung โดยทั้ง 4 คนนั้น ทำงานที่ Acer ด้วยกันมาก่อนจะตัดสินใจลาออกมาเปิดบริษัทของตัวเอง ซึ่งดำเนินกิจการค้าเกี่ยวข้องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ โดยเดิมจะมาเป็นชื่อบริษัท Asus แรกเริ่มถูกตั้งชื่อว่า Pegasus คือม้าที่มีปีกในเทพนิยายกรีกโบราณ หมายถึงสัญลักษณ์ของแรงบันดาลใจและความรู้ผู้สถาปนาทั้ง 4 เอามาแต่งตั้งคือชื่อบริษัท เพื่อแทนเจตนารมณ์ว่าตั้งใจจะดำเนินกิจการด้วยความงามสง่าน่าเชื่อ
สืบมาได้เปลี่ยนนามบริษัทเป็น Asus แทนที่ เพราะมีคำจำกัดความที่คล้องจองกัน และที่ต้องยอมรับในชั้นเชิงด้านธุรกิจเป็นหลักการที่ว่าเมื่อหาตามลำดับอักษร จะค้นเจอชื่อดังกล่าวก่อนเป็นอันดับแรก
และแน่นอนว่าถ้าหากเอ่ยปากถึง Asus หลายคนคงคิดถึงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ซึ่งจุดแรกเริ่มของสายการผลิตนี้อยู่ประมาณ ปี 2006 ที่ Asus ได้ผสานกับทีมรถซุปเปอร์คาร์อย่าง Lamborghini ในการพัฒนาคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่เน้นความรวดเร็ว พละกำลัง มีการใช้สีและตราของ Lamborghini โดยโน้ตบุ๊กในรุ่นนี้ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า VX series
ปี 2007 Asus ก็ได้มารังสรรค์ความไม่ซ้ำใครให้กับสังคมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กด้วยการเปิดตัว Eee PC เน็ตบุ๊กรุ่นแรกๆ ของปฐพี ในงาน Computex ณประเทศไต้หวัน โดยในช่วงนั้นทำให้กระแสเน็ตบุ๊กเป็นที่ให้ความสนใจ และทำให้ Asus ถูกจับตาดูในฐานะผู้อยู่เหนือด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ตั้งแต่นั้น
ต่อจากนั้น
Asus ก็ได้ผลิตคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กออกมาอีกหลากหลายรุ่น ซึ่งก็มีเทคโนโลยีใหม่ๆ ใส่เข้ามาจนในศก 2011 ในงาน CES Asus ได้เปิดตัว Asus Eee Pad Transformer แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android ตัวเริ่มแรกที่มีจอ พร้อมกับ Docking แป้นพิมพ์มาให้
การแบ่งกลุ่มคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กของ Asus ใช้การแยกตามการใช้งาน อาทิ
รุ่นมัลติมีเดียจะเป็นตระกูล N มุ่งเน้นการใช้งานเพื่อความสนุกสนานเป็นหลัก
รุ่นสำหรับเกมเมอร์จะใช้โค้ดตระกูล ROG (Republic of Gamer) ที่ดีไซน์มาเพื่อการใช้งานด้านเกมโดยเฉพาะ
โดยโน้ตบุ๊กในกลุ่มกิจการจะมี 3 ตระกูล คือ ZENBOOK เป็น Ultrabook ที่เน้นย้ำการออกแบบหรู มีสไตล์ VivoBook เน้นที่ความบาง เบา Transformer Book โน้ตบุ๊กที่แกะหน้าจอออกมาเป็นแท็บเล็ตได้ และ TAICHI คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กลูกผสม สามารถทำได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต
แน่นอนว่า ครั้นเมื่อเผชิญความสำเร็จกับตลาดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแล้ว Asus ก็ต้องหันมาลุยท้องตลาดมือถือด้วย ซึ่งเริ่มต้นจากการทำ PDA และโทรศัพท์มือถือแบบฝาพับวางขาย โดยได้เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Mobile ส่วนใหญ่ และยังออกคุณลักษณะ ได้แก่ รุ่น "ASUS J101" ที่มีขนาดย่อม พร้อมกับกล้องถ่ายรูปดิจิตอล 3.3 ล้านพิกเซล
ในปี 2014 Asus ได้เปิดตัวตระกูลมือถือตัวท็อปของบริษัทในระบบปฏิบัติการ Android ที่ชื่อเสียงเรียงนามว่า Zenfone โดยมีจุดหลักที่สเปกจัดเต็มในมูลค่าที่ประหยัด โดยคำว่า Zen เป็นคำที่คล้องจองเข้ากับสำนวนหนึ่งของแดนไต้หวัน ซึ่งแปลความหมายได้ว่า การใช้ชีวิตอยู่กับในช่วงเวลาปัจจุบัน ส่วน Fone เป็นคำประสานที่มาจากคำว่า Futer + Phone เปรียบเสมือนกับเป็นโทรศัพท์ในอนาคต ความหมายรวมคือ เครื่องไม้เครื่องมือที่ตอบความต้องการทั้งในทุกวันนี้และอนาคต Asus ยังทำสถิติโลกให้ Zenfone ด้วยการเป็นมือถือเครื่องแรกของโลกที่มี Ram 4GB ในรุ่น Zenfone2
ในปี 2018 Zenfone ได้แบ่งแยกเป็นรุ่นหลักๆ ดังต่อไปนี้
ZenFone 4 ได้รับการออกแบบให้บางเบา ประณีต พกพาง่าย
ZenFone 4 Max เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ได้รับการดีไซน์ให้เหมาะกับการเดินทาง เพราะว่าแบตเตอรีมีความจุสูงถึง 4100 mAh
ZenFone4 Selfie เน้นการถ่ายแบบถ่ายภาพตัวเองด้วยกล้องหน้าคู่ บันทึกวีดีโอได้คมชัดด้วยความละเอียดสูงถึง 4K
ZenFone Live มือถือเครื่องแรกของโลกที่มีเทคโนโลยีการปรับภาพให้เป็นระเบียบแบบเรียลไทม์ช่วยขจัดเสียงกวนใจรอบข้าง เหมาะกับสตรีมเมอร์
ZenFone โทรศัพท์มือถือที่ดีไซน์ออกมาเอาใจวัยหนุ่มสาว
ในด้านของแท็บเล็ต Asus ก็ได้รับการปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง แบ่งเป็นซีรีย์ตามเป้าประสงค์การใช้งานดังต่อไปนี้
Ponepad เป็นการผสานดีไซน์ และฟังก์ชั่นการใช้งานระหว่างโทรศัพท์เคลื่อนที่กับแท็บเล็ต (Fone + Pad)
Memo Pad ดีไซน์ลักษณะคล้ายคลึงสมุดจดบันทึก สามารถจับถือได้มือเดียว และฟังก์ชั่นการใช้งานที่อำนวยความคล่องให้กับผู้ใช้งาน ต่อการจดบันทึกกิจกรรมต่างๆ
Padfone ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนแปลงการใช้งานจากสมาร์ทโฟน ให้เป็นแท็บเล็ตได้ด้วยอุปกรณ์เสริม "Padfone Station"
Transformer Pad สามารถแปลงตัวเป็น Notebook ได้
ตอนนี้ Asus ได้แบ่งแยกตนเอง ออกเป็นสามบริษัทอย่างเป็นทางการ คือ
Pegatron บริษัทผลิตอะไหล่ อาทิ เมนบอร์ด และการ์ดต่อพ่วงต่างๆ
Unihan เป็นผู้ผลิตเคสคอมพีซี และอุปกรณ์อื่นๆ
Asus จะจำหน่ายเฉพาะเจาะจงสินค้าที่เป็นยี่ห้อ Asus เดิมเท่านั้น
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
เอซุสTags : Asus,Asus ราคา,เอซุส