Apple iPhone 6s กับการอัพเกรดสเปคใหม่ บอกเลยว่าแรง

[elizabethchris352]

เคยเฉลียวใจมั๊ยคะว่าเพราะเหตุใดชื่อรุ่นของ IPHONE ที่ออกมาควรมีทุ่งนาวสกุลต่อท้าย อย่าง “s” หรือ “Plus” เพราะว่า นี่คือตัวบอกการเพิ่มหรือวิวัฒนาการต่างๆของ Apple ผ่านงานที่เพิ่มสิ่งใหม่ใหม่ๆหรือฟีเจอร์ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราพินิจดีๆเราจะพบว่าแต่ละปี Apple จะออกสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ที่ใช้ชื่อสลับกันบ่อยมา โน่นเป็นการเปลี่ยนดีไซน์ของตัวอุปกรณ์และการอัพสเป็คนั่นเองจ้ะ ยกตัวอย่างเช่น
 

• 2007 – Apple iPhone
• 2008 – IPHONE 3G
• 2009 – Apple iPhone 3GS (อัปสเปค)
• 2010 – ไอโฟน 4 (เปลี่ยนวางแบบ)
• 2011 – iPhone 4s (อัปสเปค)
• 2012 – Apple iPhone 5 (แปลงออกแบบ)
• 2013 – iPhone 5s (อัปสเปค)
• 2014 – ไอโฟน 6 / 6 Plus (แปลงออกแบบ)
• 2015 – ไอโฟน 6s / 6s Plus (อัปสเปค)
 
จนถึงเดี๋ยวนี้ก็พัฒนามาจนถึง iPhone X กันแล้วเพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี iPhone นั่นเอง ด้วยเหตุดังกล่าวก่อนที่จะไปถึง iPhone X เรามาดูเครื่อง iPhone 6s กันก่อนค่ะ
 
บุกเบิกกันที่ตัวอุปกรณ์ค่ะ ถ้าหากเรามองดูผิวเผินก็จะมีความคิดว่า iPhone 6s มีขนาดไม่ได้แตกต่างจาก iPhone 6 แล้วก็ iPhone 6 Plus เพราะว่ารอบนี้เค้ามาแบบดีไซน์อย่างเดิมทุกอย่าง แต่เมื่อได้สัมผัสเทียบกัน จะพบว่า มีขนาดใหญ่กว่า จาก iPhone 6 และ iPhone 6 Plus น้อย ดังเช่นว่า ความดกที่เพิ่มขึ้น 0.2 มิลลิเมตร รวมถึงความกว้างแล้วก็ความสูงของหน้าจอที่มีมากกว่าด้านละราวๆ 0.1 มิลลิเมตร เรียกว่าดูด้วยสายตาเกือบจะดูไม่ออกอย่างยิ่งจริงๆ แต่เมื่อสัมผัสพวกเราจะรู้สึกได้ว่า iPhone 6s มีน้ำหนักมากยิ่งกว่าอย่างชัดเจน เพราะในรุ่นนี้ Apple ได้มีการเปลี่ยน อุปกรณ์มาใช้ Aluminium แบบใหม่ ในซีรีย์ 7000 ที่มีความแข็งแรงกว่าเดิม ส่งผลให้ iPhone 6s มีน้ำหนักมากยิ่งกว่า iPhone 6 ประมาณ11% เลยทีเดียว แต่ก็โน่นล่ะจ้ะ ยิ่งหนายิ่งหนักยิ่งแข็งแรง
 
สิ่งที่สร้างความฮือฮาและน่าเร้าใจแบบที่ว่าเห็นแล้วตาลุกวาวเลยก็คือ สีสันที่เพิ่มเข้ามาที่ตัวเครื่องซึ่งก็คือ สี Rose Gold นั่นเองค่ะ แน่นอนว่าสีนี้ก็เป็นสีที่ครอบครองตลาดเวลานี้เลยทีเดียว สี Rose Gold เป็นสีที่ผสมระหว่างสีชมพูอ่อน กับสีทอง ด้วยเหตุนี้ สีที่ได้จึงมองงามแบบเรียบหรูดูดี ไม่หวานเวอร์แบบชมพูดิบๆแห้งๆและไม่ทองคำอร่ามแบบทองคำอย่างเดียว เรียกว่าเป็นการประสมประสานที่บรรลุเป้าหมายมากอย่างยิ่งจริงๆล่ะ นอกจากนี้ค่ะ Apple ยังใส่สี Rose Gold เข้าไปที่ขอบของปุ่ม Home ด้วย ดูเหมาะ เหมือนใส่เสื้อผ้ากับอัญมณีเข้าชุดเข้ารอยเลยล่ะ
 
มาดูในส่วนของฟีพบร์ทีมาใน iPhone 6s กันบ้างจ้ะ ฟีเจอร์ที่เด่นที่สุดก็คือ ‘3D Touch’ นี่เป็นครั้งแรก ที่ iPhone สามารถรับทราบ “น้ำหนักของการกดหน้าจอ” ได้ เพื่อให้เราสามารถใช้น้ำหนักผู้กระทำด ควบคุมฟีพบร์ต่างๆได้มากขึ้นกว่าเดิม อาทิเช่น การแตะต้องเข้าแอปต่างๆหากสัมผัส ก็เป็นการเข้าแอปตามธรรมดาเหมือนที่พวกเราคุ้นเคยกันอยู่ แต่ว่าถ้าหากกดลงไปด้วยน้ำหนักที่มากขึ้น ก็จะเป็นการเปิดเมนู Shortcut ต่างๆขึ้นมาให้พวกเราเลือกอย่างรวดเร็วมากขึ้นนั่นเองค่ะ
 
‘3D Touch’ เป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้คราวแรกใน นาฬิกา Apple Watch ในชื่อเทคโนโลยี Force Touch ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีแอปออกมาเยอะแยะเพื่อรองรับการใช้งานแบบ ‘3D Touch’ จ้ะ ได้แก่ Dropbox, Instagram, Facebook, LINE รวมทั้งยังมีเกมต่างๆอีกเยอะแยะ ได้แก่ เกมแข่งรถ AG Drive, Magic Piano, Blob Games ฯลฯd
 

ถัดมากับเรื่องของ Screen Protector and Tempered Glass กันบ้างค่ะ พูดง่ายๆก็คือเรื่องฟีล์มกันรอยนั่นเองจ้ะ ด้วยเหตุว่าเมื่อมีการใช้เทคโนโลยี ‘3D Touch’ การกดปุ่มโดยการลงน้ำหนัก จะส่งผลต่อเครื่องหรือไม่ นี่เป็นสิ่งที่คนจำนวนไม่น้อยสงสัยกันมากมายเลยทีเดียวล่ะ จำเป็นต้องบอกอย่างนี้จ้ะว่า การใช้ฟีล์มกันรอยตามธรรมดาที่พวกเราใช้ โดยเฉพาะรุ่นนี้สามารถใช้ร่วมกับ iPhone 6 Plus ได้ การใช้งาน ‘3D Touch’ ภายหลังจากติดฟีล์มก็ยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติจ้ะ ด้วยเหตุนั้นประเด็นการใช้ฟีล์มคงจะไม่มีผลต่อการใช้งาน ‘3D Touch’ แต่อย่างใด รวมถึงการใช้ฟีล์มกระจกก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกันค่ะ
 
มาดูที่กล้องถ่ายภาพกันบ้างจ้ะ สำหรับ iPhone 6s เป็นการอัพเกรด กล้องถ่ายรูปอีกทั้งกล้องถ่ายรูปหน้าและก็กล้องถ่ายภาพข้างหลังมาที่ 12 ล้านพิกเซลเท่าๆกัน ด้วยเหตุดังกล่าวเรื่องของภาพที่ชัดแจ๋วไม่ต้องกล่าวถึงจ้ะ เรียกว่าเป็นการพัฒนาตามมาติดๆกับแอนดรอยด์ที่นำเรื่องกล้องไปไกลแล้ว

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://www.priceza.com/s/ราคา/iPhone-6s

Tags : apple iphone 6s,ไอโฟน 6s