รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series  (อ่าน 88 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

honeylemon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3449
    • ดูรายละเอียด
เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
« เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2018, 11:05:40 PM »

Permalink: เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
หากว่ากล่าวถึง Huawei กลุ่ม P Series ตัวแรกที่ระลึกถึงเลย ก็น่าจะหนีไม่พ้น Huawei P9 เพราะว่าช่วงที่เปิดตัวรุ่นนี้ออกมาครั้นเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 จัดว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะด้วยความเป็นกล้องคู่ที่ได้รับการผสานของเทคโนโลยีที่เข้าร่วมพัฒนากับ LEICA จึงเป็นเหตุให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างสวยงาม และยังได้รับความชื่นชมอยู่ในปัจจุบัน วันนี้เราจะพาไปย้อนรอยเรื่องกล้องถ่ายรูปของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
 
 Huawei P9 มีกล้องหลัง 2 กล้องถ่ายรูปที่ทาง Huawei ได้ร่วมแรงกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องระดับตำนานมาร่วมมือออกแบบกล้องให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องถ่ายภาพข้างหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งล่าง LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการบ่งชี้ช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขต่อท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งนับว่าเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่พอดีเลยเชียว
 
 โดยกล้องถ่ายรูปตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องถ่ายภาพที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะที่กล้องถ่ายภาพตัวที่ 2 จะเป็นกล้องถ่ายภาพที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่ชัดกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าปกติธรรมดา และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายถึงปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องถ่ายรูปทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus อย่างเดียวกันเลย อีกอย่างถึงจะแบ่งแยกเป็นกล้อง RGB กับ กล้องถ่ายภาพ Monochrome แต่กล้องถ่ายภาพทั้งสองตัวจะทำงานด้วยกันอยู่แล้ว จึงทำให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดในส่วนสีขาว-ดำคมชัดมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องถ่ายรูปทั่วๆ ไป รวมถึงสามารถปรับจุดโฟกัสหลังจากทำการถ่ายรูปได้ด้วยเช่นกัน

 ด้านกล้องหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังถือว่ายังทำออกมาได้ดีแม้จะไม่ใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องถ่ายภาพหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ค่อนข้างสว่าง หน้าตาขาวใส หากใครที่นิยมชมชอบถ่ายภาพตัวเอง ก็ไม่ควรพลาด อีกทั้งยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่แสงสว่างน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน เช่นคุณไปงานกินเลี้ยงกลางคืน แต่ว่าต้องการเซลฟี่ ท่านก็สามารถถ่ายได้ทุกทุกหนทุกแห่ง โดยไม่ต้องสอดส่ายหาแสงจากที่ใด เพราะหน้าจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างทันทีที่ท่านลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำงานยังกะแฟลชด้านหน้าเลยเชียว
 
 และถ้าล้วงลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงเริ่มที่โหมดอัตโนมัติ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานหมูที่สุด ก็เพราะว่าแค่เพียงยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์แค่นั้น เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่หัดถ่ายรูป แต่ต้องการภาพถ่ายที่สวยงาม โหมดออโต้ก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายรูปอยู่บ้าง โดยคุณสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ ซึ่งตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย ถ้าหากว่าใครอยากนำไปแก้ไขในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็ไม่ได้มีฤทธิ์เดชในการแต่งเยอะมากมาย เพราะด้วยขีดจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
 
 ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้อง Monochrome ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดดีเลยก็ว่าได้ เพราะว่าเป็นแบรนด์แรกที่มีกล้องถ่ายรูปสำหรับถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่คมชัด สวยงามมาก เหมือนยังกะมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการเลียนแบบรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งคงจะทำได้ไม่ดียังกับกล้องใหญ่อย่าง DSLR เพราะว่ามีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนน่าเกลียด
 
 และโหมดสุดท้ายนี้ที่ไม่แนะนำไม่ได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งหากว่าท่านมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่คุณจะได้นี่เทียบเท่ากล้องถ่ายภาพใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะหากปราศจากขาตั้งกล้อง อาจทำให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้ท่านสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยเชียว แต่หากว่าไม่อยากปรับเปลี่ยนอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้ออโต้ได้เลย
 
 นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีจุดดี สเปคการใช้งานอื่นๆ ที่น่าศึกษาอีกเพียบ แต่อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ว่า Huawei ตระกูล P Series นั้น มีประเด็นสำคัญที่กล้องอยู่แล้ว ซึ่งถ้าหากใครที่ชอบการถ่ายรูป และต้องการรูปถ่ายที่ค่อนข้างจะมีคุณภาพเท่าเทียมกล้องใหญ่ๆ อีกทั้งยังสามารถติดตัวได้อย่างสบายมากกว่าพกกล้องถ่ายภาพจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งช่วงนี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง ซึ่งเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ หรือห้างร้าน ราคาอาจต่างกันออกไป อย่างไรก็ลองตรวจสอบราคากันอีกครั้งนะฮะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : รีวิว Huawei P9

Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9



โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี

เทือกเถาเหล่ากอ Huawei P Series
« เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2018, 11:05:40 PM »
SEO