รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: สรรพคุณเเละประโชน์ ชุมเห็ดเทศ  (อ่าน 142 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ำพ

  • บุคคลทั่วไป
สรรพคุณเเละประโชน์ ชุมเห็ดเทศ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2018, 03:14:24 PM »

Permalink: สรรพคุณเเละประโชน์ ชุมเห็ดเทศ

ชุมเห็ดเทศ
ชื่อสมุนไพร  ชุมเห็ดเทศ
ชื่ออื่นๆ / ชื่อท้องถิ่น ขี้คาก , ลับมืนหลวง , หมากกะลิงเทศ ,หญ้าเล็บมือหลวง (ภาคเหนือ) , ส้มเห็ด (เชียงราย) ,จุมเห็ด (มหาสารคาม) , ชุมเห็ดใหญ่ (ภาคกลาง) , ตะสีพอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) , ตุ๊ยเฮียะเต่า , ฮุยจิวบักทง (จีน) , ตุ้ยเย่โต้ว (จีนกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Senna alata (L.) Roxb.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์  Cassia alata (L.) Roxb. , Cassia bracteata L.f.
ชื่อสามัญ  Acapulo, Candelabra bush, Candle bush, Ringworm bush
วงศ์  FABACEAE (LEGUMINOSAE ) - Caesalpinioideae
ถิ่นกำเนิด
ชุมเห็ดเทศ มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปแอฟริกา อเมริกาประเทศออสเตรเลีย แล้วก็เขตร้อนในเอเซียอาคเนย์ สำหรับในประเทศไทย สามารถมักพบในประเทศไทย ดังที่เปียกชื้น ทุกภาวะดินแม้กระนั้นไม่ขอบที่ร่มมาก พบได้บ่อยอีกทั้งบริเวณที่ราบและบนเขาที่มีความสูงไม่เกิน 1500 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ลักษณะทั่วไป
ชุมเห็ดเทศจัดเป็นพุ่มไม้ขนาดกลาง สูง 1.5-3 เมตร ลำต้นแข็งมีเนื้อไม้ ลำต้นแตกกิ่งก้านเป็นแถวขนานกับพื้นดิน กิ่งจะแผ่ขยายออกทางด้านข้าง มีขนสั้นนุ่ม เปลือกลำต้นเรียบเป็นสีน้ำตาล ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ ออกเรียงสลับ ใบย่อย 8-20 คู่ ยาว 5-15 เซนติเมตร ใบย่อยรูปขอบขนาน ยาว5-15 ซม. ปนรูปรี โคนใบมน ปลายใบมน กลม หรือเว้าเล็กน้อย ไม่มีต่อม ฐานใบมนแตกต่างกันทั้งคู่ด้าน ขอบของใบเรียบมีสีแดง แกนกลางใบครึ้ม ยาวโดยประมาณ 30-60 ซม. ก้านใบประกอบยาวประมาณ 2 เซนติเมตร หูใบรูปติ่งหู สามเหลี่ยม ยาว 6-8 มิลลิเมตร ติดทน ดอกย่อยมีเส้นผ่านศูนย์กลางโดยประมาณ 4 เซนติเมตร ก้านดอกย่อยสั้นมาก ใบตกแต่งเป็นแผ่นบางๆกลีบเลี้ยงสีเขียวปลายแหลมมี 5 กลีบ กลีบสีเหลืองปลายมนมี 5 กลีบ ลายเส้นที่กลีบเห็นได้ชัด เกสรตัวผู้ยาว แตกต่างกัน เกสรตัวเมียมี 1 อัน ผลมีลักษณะเป็นฝักรูปแถบ ยาว แบน รวมทั้งหมดจดไม่มีขน ฝักมีปริมาณยาวประมาณ 10-20 ซม.และกว้างราวๆ 1.5-2 เซนติเมตร มีสันหรือปีกกว้าง 4 ปีก ปีกกว้างราว 5 มิลลิเมตรตามความยาวของฝัก ฝักมีผนังกั้น ฝักเมื่อแก่จะเป็นสีดำและก็แตกตามยาว ข้างในฝักมีเมล็ดประมาณ 50-60 เม็ด เม็ดเป็นสามเหลี่ยมสีดำ มีผิวขรุขระ มีขนาดกว้างประมาณ 5-8 มิลลิเมตรแล้วก็ยาวโดยประมาณ 7-10 มม.
การขยายพันธุ์ ชุมเห็ดเทศสามารถขยายพันธุ์ได้ 2 วิธีเป็นการใช้เมล็ดและการปักชำ แต่ว่าส่วนใหญ่จะนิยมเพาะพันธุ์ด้วยเมล็ดมากยิ่งกว่าซึ่งมีวิธีการปลูกดังนี้
1. การเตรียมดินให้กำจัดวัชพืชรวมทั้งเศษอุปกรณ์ พร้อมกับไถกระพรวนรวมทั้งตากดินไว้ 7-15 วัน ต่อจากนั้นใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 2 ตันต่อไร่
2. การเตรียมพันธุ์ ระงับเลือดเม็ดที่แก่จัดแล้วนำมาแช่น้ำไว้ 1 คืน แล้วคลุกกับทรายในอัตรา 1: 1-2 แล้วห่อหุ้มด้วยผ้าขาวบาง รดน้ำให้ชุ่ม เก็บในที่ร่ม 1-2 วัน เม็ดก็จะเริ่มแตกออก
3. การปลูก ถ้าปลูกแบบหยอดหลุมด้วยเม็ดที่เริ่มแตกออก ให้หยอดหลุมละ 5-6 เมล็ดให้มีระยะห่างระหว่างต้น และก็ระหว่างแถว 3x4 เมตร เมื่อปลูกเสร็จใช้ผางหุ้มบางๆรดน้ำให้เปียก ถ้าหากปลูกแบบใช้ต้นกล้าให้น้ำต้นกล้าที่เพาะจากเม็ดที่มีอายุ 30 วัน หรือมีใบจริง 5-7 ใบ มาปลูกลงแปลง รดน้ำให้เปียก ปักไม้ค้ำจนถึงไว้และผูกใกล้กับต้นกล้าแล้วปกคลุมโคนต้นด้วยผางรวมทั้งควรรดน้ำให้เปียกแฉะเสมอในช่าง 2 เดือนแรก
ส่วนประกอบทางเคมี ชุมเห็ดเทศมีองค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญมีสารกรุ๊ป Anthraquinone โดยในใบชุมเห็ดเทศ ควรจะมีสาระสำคัญ Hydroxy-anthracene derives ไม่น้อยกว่า 1.0% w/w (โดยคำนวณเป็น rhein-8-glucoside) ดังเช่น Aloe-emodin, Chrysophanol , Chrysophanic acid, lsochrysophanol, Physcion glycoside, Terpenoids, Sennoside, Sitosterols, Lectin, Rhein.

คุณประโยชน์ / คุณประโยชน์

หนังสือเรียนยาไทย: ใช้ด้านในแก้ท้องผูก เป็นยาระบาย ไปกระตุ้นทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวดีขึ้น สมานธาตุรักษากระเพาะอักเสบ แก้กระษัยเส้น ทำหัวใจให้ธรรมดาขับปัสสาวะ ขับพยาธิ ใช้ด้านนอก รักษาฝี รวมทั้งแผลพุพอง รักษากลาก โรคเกลื้อน โรคผิวหนัง อมบ้วนปาก รักษาผิวหนังอักเสบเป็นผื่นคัน เส้นประสาทอักเสบ โดยใช้ส่วนของ ใบ เป็นยาถ่าย ใช้ข้างนอกรักษากลาก แก้แมลงสัตว์กัดต่อย รวมทั้งโรคผิวหนังอื่นๆใช้ถ่ายพยาธิตัวตืด ใบสด ใช้รักษาขี้กลากโรคเกลื้อน ตำพอก เร่งหัวฝี ใบและก็ดอก ทำยาต้มรับประทาน เป็นยาระบายแก้ท้องผูกขับเสมหะในรายที่หลอดลมอักเสบ และแก้หืด เมล็ด มีกลิ่นเหม็นเบื่อ รสเหม็นเบื่อเล็กน้อยใช้ขับพยาธิ แก้ตานซาง แก้ท้องขึ้นท้องเฟ้อ แก้นอนไม่หลับ ฝัก มีรสเหม็นเบื่อเบื่อ แก้พยาธิ เป็นยาระบาย ขับพยาธิตัวตืด พยาธิไส้เดือน ต้นและราก แก้กษัยเส้น แก้ท้องผูก บำรุงหัวใจเปลือกแล้วก็แก่นไม้ ใช้ขับน้ำเหลืองเสีย ส่วนในทางการแพทย์แผนปัจจุบันบอกว่า ชุมเห็ดเทศเป็นยาระบายที่ดี เนื่องด้วยมีทั้งยังแอนทราควิโนน ซึ่งเป็นยาระบาย รวมทั้งแทนนิน ซึ่งเป็นยาฝาดสมาน จึงเป็นยาระบายที่สมานธาตุในตัว รวมทั้งในชุมเห็ดเทศยังมีพฤกษเคมีที่เป็นยาและก็สารต้านทานนุมูลิอิสระสำคัญหลายชนิด โดยมีการทดสอบสารสกัดหยาบจากใบ เปลือกลำต้น ดอก ผล สกัด โดยใช้เอทิลอะสิเตทแล้วก็เมทานอล พบสารฟลาโวนอยด์ แอนทราควิโนน คูมาริน ซาโปนิน แทนนิน เทอร์ปินอยด์ สเตอร์รอยด์ รวมทั้งคาดิแอคไกลโคไซด์ แต่ไม่เจอสารแอลติดอยู่ลอยด์ ในทุกส่วนของชุมเห็ดเทศ และพบว่าสารสกัดทั้งยัง 8 แบบอย่าง มีฤทธิ์ต้านทานอนุมูลอิสระ นอกนั้น สารสกัดทั้งยัง 8 ตัวอย่างสารมารถต่อต้านเชื้อ Bacillus subtilis รวมทั้ง Staphy-lococcus aureus ได้ โดยเฉพาะสารสกัดเมทานอลจากดอกชุมเห็ดเทศประเภทเดียวแค่นั้นที่ต้านเชื้อ Pseudomonas auroginosa ได้ แม้กระนั้นไม่มีสารใดที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อ E.coli การเล่าเรียนการออกฤทธิ์ของ Senna alata (L.) Roxb. หรือชุมเห็ดเทศสำหรับเพื่อการยับยั้งการเจริญก้าวหน้าของเชื้อก่อโรคพบว่าสารสกัดจากชุมเห็ดเทศสามารถยั้งการเจริญก้าวหน้าของเชื้อก่อโรคได้หลายอย่าง อย่างเช่น เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต และยังมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด ต่อต้านการก่อยับยั้งเนื้องอก เป็นยาระบาย ขับฉี่ ลดการอักเสบ แก้ปวดอีกด้วย
แบบอย่าง/ขนาดวิธีการใช้

อาการท้องผูก ใช้ใบปริมาณ 12-15 ใบย่อย ตากแห้ง คั่ว (ถ้าหากไม่คั่วเสียก่อน จะกำเนิดอาการข้างๆ เป็นอาจมีอาการคลื่นไส้อ้วก เมื่อคั่วความร้อนจะช่วยทำให้สารที่ออกฤทธิ์ทำให้อาเจียนคลื่นไส้สลายไป) แล้วก็ค่อยนำไปต้มกับน้ำพอควร ดื่มครั้งเดียวก่อนอาหารเวลาเช้ามืด หรือก่อนนอน หรือใช้ผงใบ 3-6 กรัม ชงน้ำเดือด 120 มิลลิลิตร เป็นเวลา 10 นาที ดื่มก่อนนอน บางทีอาจทำเป็นยาลูกกลอนก็ได้ หรือใช้ช่อดอกสด 1-3 ช่อดอก ลวก จิ้มน้ำพริก หรือใช้ดอก 1 ช่อ กินใหม่ๆเป็นยาระบาย รวมถึงใช้ใบแล้วก็ก้านขนาดใหญ่ โดยประมาณ 3-5 ช่อ นำมาต้มกับน้ำโดยประมาณ 2 ขัน(1500 ซี.ซี.) ต้มให้เดือดเหลือน้ำโดยประมาณ 1/2 ขัน ใส่เกลือพอมีรสเค็มนิดหน่อย ดื่มวันละ 1 แก้ว (250 ซี.ซี.)ครั้งถัดมา รับประทานดอกทีละโดยประมาณ 1 ช่อ
การใช้ชุมเห็ดเทศรักษาขี้กลาก โรคเกลื้อน นำใบสดมาตำอย่างระมัดระวังใช้ทาบริเวณที่เป็นกลากหรือผื่นคัน หรืออาจนำใบชุมเห็ดเทศ 3-4 ใบ มาตำอย่างรอบคอบเพิ่มเติมน้ำมะนาวนิดหนึ่ง ทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง หรือใช้ใบสดขยี้เช็ดนานๆและก็เป็นประจำตรงบริเวณที่เป็น
รวมถึงใช้ใบสด 4-5 ใบ ตำรวมกับกระเทียม 4-5 กลีบ แล้วเติมปูนแดงเล็กน้อย ทาบริเวณที่เป็นซึ่งได้ใช้ไผ่บางๆฆ่าเชื้อโรคแล้วขูดผิวรอบๆที่นั้นให้มีสีแดง(กรณีกลาก) ทาวันละ3-4 ครั้ง กระทั่งจะหาย รวมทั้งเมื่อหายแล้วให้ทาไปอีก 1 อาทิตย์ หรือจะใช้ใบสดตำแช่สุรา เอาส่วนเหล้าทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง ตราบจนกระทั่งจะหาย พบว่าได้ผลดี แต่ไม่ค่อยสำเร็จในกลากที่ผมและเล็บ
รักษาฝีแผลพุพอง ใช้ใบชุมเห็ดเทศ 1 กำมือ ต้มกับน้ำพอเพียงท่วม ต้มให้เหลือ 1 ใน 3 นำมาชะล้างฝีที่แตกแล้ว หรือแผลพุพอง วันละ 2 ครั้งตอนเช้า เย็น ถ้ารอบๆที่เป็นกว้างมากใช้สมุนไพร 10-12 กำมือ ต้มกับน้ำใช้อาบรุ่งเช้าเย็น ตราบจนกระทั่งจะหาย
ใช้ใบสดตำพอก เพื่อรีบให้หัวฝีออกเร็วขึ้น หรือจะใช้ใบผสมกับน้ำปูนใสหรือเกลือหรือน้ำมันตำพอก รักษาขี้กลาก แมลงสัตว์กัดต่อย โรคผิวหนัง นอกจากนี้ยังใช้ใบตำพอกหรือคั้นเอาน้ำผสมน้ำปูนใสทาหรือผสมวาสลิน ใช้ทำเป็นยาขี้ผึ้งทาได้อีกด้วย
ส่วนยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติที่แนะนำให้ใช้คือ รับประทานครั้งละ 1 – 2 ซอง (ใบชุมเห็ดเทศแห้งซองละ 3 กรัม) (3 – 6 กรัม) ชงในน้ำเดือด 120 มล. นาน 10 นาที วันละ 1 ครั้งกระโน้นนอน บรรเทาท้องผูก
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์กระตุ้นการเคลื่อนไหวของไส้ สารสกัดจากใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำขนาดเสมอกันผงใบชุมเห็ดเทศแห้ง 5 กรัม/กิโลกรัม ทำให้ลำไส้เล็กส่วนปลายของหนูตะเภาหดตัวได้ร้อยละ 25 ของฤทธิ์จากฮีสตามีน 1 ไมโครกรัม/มล. สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำขนาดเสมอกันผงใบชุมเห็ดเทศแห้ง 10 รวมทั้ง 20 กรัม/กิโล ส่งผลเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้ของหนูเม้าส์ได้มากกว่ากรุ๊ปควบคุมอย่างเป็นจริงเป็นจัง สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำในขนาด 15 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ทำให้ลำไส้เล็กส่วนปลายของหนูตะเภาหดตัวได้ในหลอดทดสอบ ในระหว่างที่สารกลัยโคไซด์จากใบชุมเห็ดเทศมีฤทธิ์กระตุ้นกล้ามเนื้อเรียบในไส้
ฤทธิ์สำหรับเพื่อการรักษาอาการท้องผูก เมื่อให้สารสกัดจากใบชุมเห็ดเทศแห้งด้วยน้ำร้อนกับหนูแรททางปากในขนาด 500 และ 800 มิลลิกรัม/กิโล พบว่ามีฤทธิ์ช่วยระบาย แล้วก็เมื่อให้สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำกับหนูเม้าส์ทางปากในขนาดเสมอกันผงใบชุมเห็ดเทศแห้ง 5, 10 แล้วก็ 20 กรัม/กก. จะก่อให้หนูเม้าส์ถ่ายเหลว โดยการให้ในขนาดต่ำ (5 กรัม/กิโล) จะออกฤทธิ์ช้ากว่าในขนาดสูง (10 และก็ 20 กรัม/โล) สาร anthraquinone glycoside จากใบเป็นต้นว่า isocrysophanol, physcion-l-glycoside, chrysophanol, emodine, rhein, แล้วก็ aloe-emodin มีฤทธิ์เป็นยาถ่าย
ฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำ สารสกัดด้วยเอทานอล สารสกัดด้วยเมทานอล และสาร aloe-emodin, rhein emodol, 4,5-dihydroxy-1-hydroxymethylanthrone, 4,5-dihydroxymethylanthraquinone และก็ chrysophanol จากใบชุมเห็ดเทศ มีฤทธิ์ต้านเชื้อราที่ผิวหนังอย่างเช่น Epidermophyton floccosum , Microsporium gypseum, Trichophyton rubrum , T. mentagrophytes แล้วก็ M. canis เมื่อเทียบกับยา tolnaftate สารสกัดด้วยน้ำและก็เอทานอลจากเปลือกต้นชุมเห็ดเทศสามารถยับยั้งเชื้อยีสต์ Candida albicans ได้ โดยที่ความเข้มข้น 30 ไมโครกรัม/ไมโครลิตร จะได้ผลดีเมื่อเปรียบเทียบกับยา ticonazole 30 ไมโครกรัม/ไมโครลิตร แต่ว่าสารสกัดจากใบด้วยน้ำแล้วก็เอทานอลไม่มีฤทธิ์ยั้งเชื้อยีสต์ น้ำมันหอมระเหยจากใบชุมเห็ดเทศ สารสกัดจากเปลือกต้นด้วยเมทานอล มีฤทธิ์ต้านทานเชื้อแบคทีเรีย Bacillus subtilis ในจานเพาะเชื้อได้ปานกลาง สารสกัดด้วยน้ำจากใบชุมเห็ดเทศสามารถยับยั้งเชื้อ Escherichia coli ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อถึงที่เหมาะความเข้มข้นมากยิ่งกว่า 21.8 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร
ผลที่ได้รับจากการวิจัยทางคลินิก (clinical pharmacology) การเล่าเรียนฤทธิ์สำหรับเพื่อการรักษาท้องผูก การศึกษาเล่าเรียนทางคลินิกแบบสุ่มมีกรุ๊ปควบคุมระหว่างชงชาชุมเห็ดเทศ มิสท์แอลบา แล้วก็ยาหลอก ในโรงพยาบาลชุมชน 5 แห่ง และก็โรงหมอทั่วๆไป 1 ที่ คนเจ็บที่ไม่อุจจาระติดต่อกันเกิน 72 ชั่วโมง ปริมาณ 80 ราย แบ่งเป็น 3 กรุ๊ป กรุ๊ปแรก รับยาหลอกเป็นน้ำ เติมสีคาราเมล 120 มิลลิลิตร ปริมาณ 28 ราย กรุ๊ปลำดับที่สองรับยามิสท์แอทบา 30 มิลลิลิตร น้ำ 90 มล. ปริมาณ 28 รายแล้วก็กรุ๊ปลำดับที่สามรับน้ำละลายชุมเห็ดเทศ ได้จากการชงผงชุมเห็ดเทศปริมาณ 3-6 กรัม ในถุงกระดาษ แช่ลงไปภายในน้ำเดือด 120 มล. นาน 10 นาที ปริมาณ 24 ราย คนไข้อีกทั้ง 3 กรุ๊ปมีลักษณะไม่ได้แตกต่างกัน ได้รับยารับประทานก่อนนอนให้คะแนนจากการขี้ไหมอึข้างใน 1 วัน พบว่า ได้ผลขี้ภายใน 1 วัน ร้อยละ 18,86 และก็ 83 เป็นลำดับ ซึ่งพบว่าผลของกลุ่มชุมเห็ดเทศและก็มิสท์แอลบาดีกว่ายาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติแต่ว่าพบอาการท้องเดินในกลุ่มที่ได้รับมิสท์แอลบามากกว่า ผู้เจ็บป่วยกลุ่มที่ได้รับชุมเห็ดเทศมีความชอบใจมากยิ่งกว่ายาหลอก สรุป ยาชงชุมเห็ดเทศมีคุณภาพที่ดีสำหรับเพื่อการรักษาอาการท้องผูก
ส่วนอีกการทดสอบหนึ่งพบว่าเมื่อผสมผงใบชุมเห็ดเทศในของกินในขนาดจำนวนร้อยละ 2 แล้วก็ 10 ของอาหาร แล้วให้หนูแรทรับประทานนาน 4 สัปดาห์ จะเจอแผลในไส้ ตับ และก็ไต และก็มีระดับฮีโมโกลบินแล้วก็ packed cell volume (PCV) สูงมากขึ้น แม้กระนั้นจำนวนเม็ดเลือดแดงลดน้อยลงใน 2 สัปดาห์แรก เมื่อใส่สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยเอทานอลขนาด 100 มก.ในน้ำให้หนูแรทรับประทานนาน 14 วัน พบว่าเกิดแผลในตับ เซลล์ตับตายกระจุยกระจายและมีการคั่งของเลือดในเส้นเลือดดำ การฉีดสารemodin และ kaemferol ขนาด
10 มิลลิกรัม เข้าช่องท้องหนูแรทติดต่อกัน 14 วัน หรือฉีดสาร aloe-emodin ขนาด 100 มก. สาร rhein ขนาด 70 มก. เข้าท้องนาน 4 วัน พบว่ากำเนิดแผลในตับของหนูทุกกลุ่ม กลุ่มที่ได้รับ aloe-emodin จะเจอเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย หนูทุกกรุ๊ปมีระดับฮีโมโกลบิน แล้วก็ PCV น้อยลงด้านใน 14 วัน เมื่อป้อนสารสกัดจากใบด้วยน้ำขนาด 10, 50, 100 รวมทั้ง 250 มิลลิกรัม/กก. ให้หนูแรทนาน 14 วัน จะพบระดับฮีโมโกลบินและ เม็ดเลือดแดงมากขึ้น ในเวลาเดียวกันหนูมีอาการไม่อยากกินอาหาร ซูบผอมและก็น้ำหนักลด
การศึกษาเล่าเรียนในคนไข้ที่เป็นโรคกลากและก็เกลื้อนสารสกัดจากใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์และครีมชุมเห็ดเทศเข้มข้นร้อยละ 20 สามารถรักษาคนป่วยโรคกลาก 30 ราย แล้วก็โรคเกลื้อน 10 ราย ก้าวหน้าเสมอกันกับยาขี้ผึ้ง whitfield แต่ไม่เป็นผลรักษาราที่เล็บและก็หนังศีรษะ ยาจัดแจงชุมเห็ดเทศในต้นแบบทิงเจอร์และครีม(ซึ่งมีสารสำคัญ rhein 600 ไมโครกรัม/กรัม) ให้ผลสำหรับในการรักษาคนป่วยโรคกลากเกลื้อนที่ผิวหนังได้เช่นเดียวกับยาครีมวัวลสามมาโซลร้อยละ 1 สารสกัดใบชุมเห็ดเทศสดด้วยน้ำ (ใบสด 100 กรัมต่อน้ำ 50 มิลลิลิตร) ความเข้มข้นจำนวนร้อยละ 100 ทาบริเวณแขน และก็ขา หรือความเข้มข้นจำนวนร้อยละ 90 ทาบริเวณคอ แล้วก็มือ และความเข้มข้นร้อยละ 80 ทาบริเวณหน้า วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน 2 ชั่วโมง ส่งผลรักษาโรคกลากโรคเกลื้อนประเภท Pityraisis versicolor ที่เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากเชื้อรา Malassezia furfur ในผู้ป่วยจำนวน200 คนได้
การเล่าเรียนทางพิษวิทยา การทดลองความเป็นพิษ การทดสอบความเป็นพิษรุนแรง พบว่าสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ปริมาณร้อยละ 50 ในขนาด 15 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. ไม่มีพิษเมื่อให้หนูเม้าส์ทางปากแล้วก็ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง แต่ว่ามีความเป็นพิษเล็กน้อยเมื่อฉีดเข้าทางช่องท้องหนูเม้าส์ และเมื่อฉีดสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ปริมาณร้อยละ85 เข้าทางท้องหนูเม้าส์ในขนาด 2 กรัม/กก.ก็ไม่เจอความเป็นพิษ สารสกัดจากใบด้วยน้ำแล้วก็สารสกัดจากส่วนเหนือดินของชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์จำนวนร้อยละ 50 มีความเป็นพิษปานกลางเมื่อฉีดเข้าทางช่องท้องหนูเม้าส์
โดยขนาดของสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ร้อยละ 50 ที่ทำให้หนูถีบจักรตายจำนวนร้อยละ 50 (LD50) เป็น ขนาดที่ให้ทางปากและก็ทางผิวหนังมากยิ่งกว่า 15 กรัมต่อกก.แล้วก็ทางท้อง 8.03 กรัมต่อกิโล
การทดสอบพิษครึ่งหนึ่งเรื้อรังของผงใบชุมเห็ดเทศในหนูขาววิสตาร์ 4 กลุ่ม กรุ๊ปละ 24 ตัว (เพศผู้ 12 ตัว เพศภรรยา 12 ตัว) เป็นกรุ๊ปควบคุมและกรุ๊ปที่ได้รับยาทางปากขนาด 0.03 , 0.15 รวมทั้ง0.75 กรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน (ซึ่งเปรียบเทียบได้กับได้รับ 1 5 และ 25 เท่า ของขนาดที่รักษาในคน) ผลคือ ไม่เจอพิษทุกกลุ่ม มีการเติบโตธรรมดาการตรวจทางโลหิตวิทยารวมทั้งวิชาชีวเคมีธรรมดา ไม่เจอพยาธิภาวะแล้วก็จุลพยาธิวิทยาของอวัยวะภายในที่เปลี่ยนไปจากปกติ
พิษต่อระบบแพร่พันธุ์ เมื่อฉีดสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ปริมาณร้อยละ 50 เข้าท้องหนูแรทในขนาด 125 มิลลิกรัม/กก. ไม่มีผลทำให้แท้งและไม่พบพิษต่อตัวอ่อนแต่ว่าผลต่อการเปลี่ยนแปลงของรอบเดือนไม่ชัดแจ้ง ส่วนสารสกัดจากใบด้วยน้ำขนาด300ไมโครกรัม/มิลลิลิตร มีฤทธิ์ทำให้มดลูกหนูแรทหดตัวในหลอดทดลองและมีฤทธิ์เสริม oxytocin
พิษต่อเซลล์ การทดสอบความเป็นพิษต่อเซลล์โดยใช้ brine shrimp พบว่าสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำในขนาด 7.74 ไมโครกรัม/มล. ทำให้ brine shrimp ตายไปครึ่งหนึ่ง รวมทั้งสารสกัดนี้มีความเป็นพิษต่อเซลล์ Vero โดยความเข้มข้น 1,414 ไมโครกรัม/มล. ทำให้เซลล์ Vero ตายไปกึ่งหนึ่ง
ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยเอทานอล ส่งผลก่อกลายพันธุ์ในSalmonella typhimurium strain TA98 และพบว่าสารสกัดชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ S. typhimurium strain TA98 และTA100 โดยในการออกฤทธิ์ปรารถนาเอนไซม์จากตับหนูกระตุ้นการออกฤทธิ์
ข้อเสนอแนะ/ข้อควรตรึกตรอง

1. ระแวดระวังการใช้ในเด็กอายุต่ำลงยิ่งกว่า 12 ปี คนเจ็บ inflammatory bowel disease และก็ภาวการณ์ทางเดินอาหารตัน คนสูงอายุ หญิงให้นมบุตร เนื่องจากว่าสารmetabolite บางตัวตัวอย่างเช่น rhein ถูกคัดเลือกหลั่งทางเรือนม
2. ควรที่จะใช้ยาระบายเป็นครั้งคราว ไม่ควรใช้ติดต่อกัน เพราะเหตุว่าสารแอนทราควิโนนในใบชุมเห็ดเทศ มีฤทธิ์ทำให้ไส้บีบตัวและก็เคลื่อนไหวเร็ว ใช้ติดต่อนานจะทำให้ลำไส้คุ้นชินต่อการใช้ยา ต่อไปถ้าเกิดไม่ใช้จะทำให้ไส้ไม่บีบตัวไม่เคลื่อนเกิดท้องผูกhttps://www.disthai.com/
3. การกินยาในขนาดสูงอาจก่อให้กำเนิดไตอักเสบ มีเลือดหรือโปรตีนในปัสสาวะมากยิ่งกว่าธรรมดา
4. การใช้สม่ำเสมอนานๆอาจมีผลลดจำนวนเม็ดเลือดแดง และฮีโมโกลบิตแล้วก็อาจจะเป็นผลให้กำเนิดแผลที่ตับ
5. การใช้ตลอดในขนาดสูงนานๆบางทีอาจเกิดระบบการดูดซึมแตกต่างจากปกติ มีการดูดกลับของเหลวต่ำลง เกิดภาวะระดับโพเทสเซียมรวมทั้งแคลเซียมในเลือดต่ำ
6. ห้ามใช้ในสตรีตั้งครรภ์
7. การใช้ชุมเห็ดเทศในระยะแรกๆอาจจะส่งผลให้กำเนิดอาการไม่พึงประสงค์ เป็นต้นว่า ลักษณะของการปวดมวนท้องเนื่องจากว่าการบีบตัวของลำไส้ใหญ่และอาจมีอาการคลื่นไส้ อาหารไม่ย่อยและก็ปวดท้องได้
หนังสืออ้างอิง
1. ภก.ชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ.ชุมเห็ดไทย/ชุมเห็ดเทศ.คอลัมน์ สมุนไพรน่าสนใจ.วารสารหมอชาวบ้าน.เล่มที่ 26 .กรกฎาคม .2524
2. ฉัตรโย สวัสดิไชย,สุรศักดิ์ อิ่มใหม่.ชุมเห็ดเทศ.ยาน่ารู้.วารสารศูนย์การเล่าเรียนแพทยศาสตร์คลินิก โรงหมอพระปกเกล้า.ปีที่ 34 ฉบับที่4.ตุลาคม-เดือนธันวาคม.2560 หน้า.352-355
3. ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม.“ชุมเห็ดเทศ”. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. หน้า 271-274.
4. เปี่ยม บุณยะโชติ. แบบเรียนโบราณเกี่ยวกับโรคเด็กและก็สุภาพสตรี. จังหวัดกรุงเทพ: สถานที่พิมพ์เฟื่องอักษร, 2514. หน้า 39.
5. กองวิจัยด้านการแพทย์. สมุนไพรท้องถิ่น ในขณะที่ 1. กรุงเทพมหานคร: กรมวิทยาศาตร์การแพทย์. กระทรวงสาธารณสุข, 2526. หน้า 34.
6. ดร.นิจศรี เรืองรังษี, เครื่องหมายชัย มังคละปะทุปต์. “ชุมเห็ดเทศChumhet Tet)”. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1 หน้า 108.
7. พระเทวดาใสโมลี. หนังสือเรียนยากลางบ้าน. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มงกุฏราชวิทยาลัย, 2524. หน้า 140.
8. ชุมเห็ดเทศ.ฐานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
9. วิทยา บุญวรพัฒน์. “ชุมเห็ดเทศ”. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีนที่ใช้บ่อยมากในประเทศไทย. หน้า 208.
10. เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ กำเนิดดอนแฝก. “ชุมเห็ดเทศ”. หนังสือสมุนไพรบำบัดเบาหวาน 150 จำพวก. หน้า 74-75.
11. (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “ชุมเห็ดเทศ Ringworm Bush”. หนังสือสมุนไพรสวนสิรีต้นไม้. หน้า 75.
12. ชุมเห็ดเทศ.ฐานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
13. คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา. บัญชียาจากสมุนไพร พุทธศักราช 2549 ตามประกาศคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2549 เรื่องบัญชียาหลักแห่งชาติพ.ศ. 2547 (ฉบับที่ 4). จังหวัดกรุงเทพ: สถานที่พิมพ์ประชุมสหกรณ์การกสิกรรมที่เมืองไทยจำกัด, 2549
14. วันดี กฤษณพันธ์ แม้สรวง วุฒิอุดมเลิศ มัลลิกา ไตรเดชะ สุภาวี อาชวาคม. การเรียนฤทธิ์ต้านทานเชื้อราของสารแอนทราควิโนนจากใบชุมเห็ดเทศ. การประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์รวมทั้งเทคโนโลยีแห่งเมืองไทย ครั้งที่ 24, 19-21 ตุลาคม ณ. ศูนย์สัมมนาแห่งชาติสิริกิตติ์ กรุงเทพฯ, 2541.
15. Harrison J, Garro CV. Study on anthraquinone derivatives from Cassia alata L. (Leguminosae). Rev Peru Bioquim 1977;(1):31-2.
16. จินตนา สุทธชนาความยินดี และก็ภาควิชา. ฤทธิ์ต้านเชื้อราของใบชุมเห็ดเทศ. รวมข้อคัดย่องานศึกษาวิจัยการแพทย์แผนไทยและก็แนวทางการศึกษาเรียนรู้ในอนาคต สถาบันการแพทย์แผนไทย, 2543.
17. Akah PA. Abortifacient activity of some Nigerian medicinal plants. Phytother Res 1994;8(2):106-8.
18. Plengvidhya P, Suvagondha C. A study of diagnostic contents of leaves of some members in genus Cassia. J Pharm Assoc Siam, Third series 1957;10(1):10-2.
19. เกษร นันทจิต. ฤทธิ์ต่อต้านจุลชีวินของใบชุมเห็ดเทศ (Cassia alata Linn.). รายงานการวิจัย ที่ทำการคณะกรรมการศึกษาค้นคว้าแห่งชาติ, 2538.
20. เสาวลักษณ์ ดงษ์งดงาม. ฤทธิ์ต้านจุลชีพของสารสกัดจากพืชสกุล Cassia sp. รายงานการวิจัย ที่ทำการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ, 2543.
21. Thamlikitkul V, Dechatiwonges T, Chantrakul C, et al. Randomized controlled trial of Cassia Alata Linn. for constipation. J Med Assoc Thai 1990;73(4):217-21.
22. Mokkhasmit M, Swatdimongkol K, Satrawaha P. Study on toxicity of Thai medicinal plants. Bull Dept Med Sci 1971;12(2/4):36-65.
23. Rao JVLN, Sastry PSR, Poa RVK, Vimaladevi M. Occurrence of kaempferol and aloe-emodin in the leaves of Cassia alata. Curr Sci 1975;44(20):736-7.
24. ที่นาถฤดี สิทธิสมสกุล ทรงพล ชีวะพัฒน์ เอมจิต หวังหมัด สุธิดา ไชยราช พัชรินทร์ รักษามั่น จรินทร์ จันทรฉายะ. พิษของใบชุมเห็ดเทศ. นิตยสารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์2534;33(4):145-54.
25. Somchit MN, Reezal I, Nur IE, Mutalib A



โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี

สรรพคุณเเละประโชน์ ชุมเห็ดเทศ
« เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2018, 03:14:24 PM »
SEO