นับวันเทคโนโลยีในการสร้าง โน้ตบุ๊ค, แท็บเล็ต รวมถึง smartphone ค่อนข้างที่จะร่วมสมัยเยอะขึ้น รวดเร็ว แรง เบา พร้อมกับslimเยอะขึ้น ทั้งที่การทำงานก็ยังทำได้อย่างเต็มสมรรถนะเกินกำลังไปไม่เบาเลยเทียว เหมือนตัวอย่างเช่นเจ้า Yoga Book ที่จักขนานนามว่า Notebook ก็ไม่ใช่เช่นนั้น จักขนานนามว่า Tablet ก็ไม่ซะทีเดียว แต่รู้ว่ามันเจ๋งมากๆ เลยละครับ เพราะว่าสามารถจัดการได้อย่างนานัปการเลยทีเดียว เช่นการใช้งานแบบปกติ หรือว่าจะใช้แทนสมุดโน้ต วาดภาพ หรือจดบันทึก ก็สามารถทำได้ทันทีทันใด และความสามารถเฉพาะอื่นๆ อีกหลากหลาย ประเดี๋ยวไปดูกันดีกว่าว่าจักมีศักยภาพอะไรมั่ง ไปติดตามกันเลยครับผม
ซึ่งเรามาดูสเปคกันก่อนดีกว่าครับ ซึ่ง Yoga Book ที่ได้เปิดตัวออกมาเป็นตัวแรกนั้นมาพร้อมด้วยขนาด 10.1 x 0.38 x 6.72 นิ้ว น้ำหนัก 690 ก. พร้อมหน่วยประมวลผล Intel Atom x5-Z8550 (2M Cache, Quad-Core, Up to 2.4 GHz) และนอกจากนี้ยังมีให้เลือก 2 ระบบปฎิบัติการ คือระบบปฎิบัติการ Windows และระบบปฎิบัติการ Android พร้อมกับ RAM 4GB LPDDR3 และ ROM 64 GB โดยสามารถใส่ SD Crad เพิ่มเติมหน่วยความจำได้มากสุดถึง 128 GB ขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ระดับความคมชัด FHD 1080p IPS 224 ppi (1920 x 1200) ทางด้านเรื่องระบบเสียงก็เป็นแบบ Dolby Atmos เลยเชียว
Yoga Book ตัวแรกนี้มาพร้อมกล้องถ่ายรูปข้างหน้ามีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องถ่ายรูปข้างหลังมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับช่องการเชื่อมหลากหลายช่อง ไม่ว่าจะเป็น Micro HDMI, Micro USB, Jack 3.5 mm, SD Card reader และ SIM Slot โดยรองรับ Nano SIM Card พร้อมด้วย ยิ่งกว่านั้นเชื่อมโครงข่าย 3G/4G LTE กับ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac; ด้านระบบการสัมผัสเป็นรูปแบบ Capacitive Touch ใช้ร่วมกับปากกา EMR Pen Technology (The Real Pen detects 2,048 levels) อีกทั้ง Sensors Vibrator, G-Sensor, Ambient Light Sensor, Hall Sensor, GPS, A-GPS นอกจากนี้ยังมีแบตที่ให้ความจุมากถึง 8500 mAh ซึ่งทางยี่ห้อเคลมว่าใช้งานได้ 15 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ซึ่งจักบอกให้ทราบเลยว่าเป็น Tablet ที่มีความเบาบางมาก เนื่องมาจากมี Keyboard แนบมากับตัวเครื่องเลย โดย Keyboard ที่ว่านี้ สามารถทำได้ 2 ฟังก์ชั่น คือ เป็น Keyboard แบบสัมผัส โดยจักฉายแสงออกมาให้แลเห็นแป้น Keyboard ขึ้นมา และพอกดที่รูปปากกามุมข้างขวาบน Keyboard ก็จักหาย เปลี่ยนไปเป็นที่ว่างๆ ให้ท่านใช้จด ไม่ก็วาดรูปแทนโดยใช้ร่วมกับปากกา EMR Pen Technology นั่นเอง โดยแป้น Keyboard ตรงนี้ยังสามารถขีดเขียนทะลุทะลวงกระดาษจริงได้ด้วย โดยมี Yoga Book Pad หรือว่าสมุดโน้ตแถมมาให้ในกล่อง ซึ่งสามารถใช้ปากกาจริงๆเขียนลงไปได้เลย สิ่งที่เขียนลงไปก็จะไปโชว์บนหน้าจอ Yoga Book ด้วยเลย เหมาะมากสำหรับมือใหม่ที่ใช้งานยังไม่ค่อยเชี่ยวชาญมือนัก
ยิ่งไปกว่านี้ยังสามารถวางตั้งแบบปกติ สำหรับพิมพ์งาน หรือจดบันทึก หรือจะกางแบนราบ 180 องศา เพื่อจะขีดเขียนในแนวดิ่ง หรือว่าลอกแบบลวดลาย หรือว่าจักหมุนไปด้านหลังเป็นทรงปฏิทิน เพื่อจะตั้งไว้ครั้นรับชมภาพยนตร์ ดูภาพยนตร์ หรือว่าจะพับไปส่วนหลังให้เป็นทรง Tablet สำหรับเล่นเว็บ อ่านหนังสือ ซึ่งตรงสันพับนั้นได้ออกแบบมาเสมอเหมือนสันหนังสือเกลียวในสมุดโน้ตนั่นเอง จึงเป็นเหตุให้หมุนได้รอบ 360 องศานั่นเอง
และยุคปัจจุบันในปี 2018 ก็เพิ่งจะได้มีการเปิดฉาก Yoga Book แบบใหม่ นั่นคือรุ่น Yoga Book C930 ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่ 2 ของตระกูล Yoga Book เลย ที่มากับดีไซน์ที่ดังเดิม แต่ทว่าเครื่องในอัดนวัตกรรมแน่นๆ มากมาย ด้วยขนาด 10.25 x 7.06 x 0.38 นิ้ว (260.4 x 179.44 x 9.9 มม.) น้ำหนัก 775 กรัม ทางด้านหน้าจอนั้น ที่แตกต่างไปจากแต่ก่อนก็คือ รุ่น Yoga Book C930 ผนวกจอแสดงผลมาอีกจอด้วย กลับกลายเป็นกึ่ง Dual Screen หรือกึ่งหน้าจอคู่ ซึ่งจะประกอบด้วยจอ LCD IPS แบบทัชสกรีน สัดส่วน 10.8 นิ้ว (2560 x 1600 พิกเซล) และจอ E Ink ขนาด 10.8 นิ้ว (1920 x 1080 พิกเซล) มาพร้อมด้วยปากกา Wacom Active Pen กดได้ 4096 ระดับ หน่วยประมวลผล Intel m3-7Y30 เจนเนอเรชั่น 7 หรือว่า Intel i5-7Y54 เจนเนอเรชั่น 7 ระบบปฏิบัติการ Windows 10 แรม 4GB RAM ความจุสูงสุด 256 GB (SSD) สามารถใช้ได้สูงสุด 8.6 ชั่วโมง เนื่องจากมาพร้อมกับแบตความจุ 35.8 Wh สามารถให้ท่านพกติดตัวไปทำงานภายนอกในระหว่างวันได้อย่างง่าย นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายพิมพ์นิ้วมือมาช่วยปกป้องรักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยอีกด้วย
Yoga Book รุ่น C930 นี้ เขาว่ากันว่าจะมีจัดจำหน่ายเฉพาะรุ่นที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows 10 เท่านั้น ไม่มีรุ่น Android เหมือนก่อนแล้ว ซึ่งจะโหมโรงวางขายภายในตุลาคม 2018 นี้ ในราคาบ้านเราราว 32,700 บาท หรือราวๆ 999.99 เหรียญ ถ้าหากคนไหนสนใจแล้วละก็ เตรียมสตางค์ในกระเป๋าเฝ้ารอไว้ได้เลยฮะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
lenovo yogaTags : ํYoga,yoga book ราคา,lenovo yoga
