รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานกลุ่ม ร็อกแอนด์โรล ต้อง “Jim Marshall”  (อ่าน 63 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

honeylemon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3449
    • ดูรายละเอียด
ตำนานกลุ่ม ร็อกแอนด์โรล ต้อง “Jim Marshall”
« เมื่อ: ธันวาคม 06, 2018, 02:54:43 AM »

Permalink: ตำนานกลุ่ม ร็อกแอนด์โรล ต้อง “Jim Marshall”
                หากท่านเป็นคนที่ตกหลุมรักในเสียงดนตรี หรือเสียงเพลง เชื่อว่าท่านจะต้องรู้จักมักคุ้นยี่ห้อเครื่องเสียงยี่ห้อนี้เป็นอย่างดีแน่นอน เพราะเป็นยี่ห้อที่ได้รับความชื่นชมขนานใหญ่ ดังเช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องขยายเสียง และอื่นๆ อีกนานัปการ ซึ่งประวัติความเป็นมาของแบรนด์นี้ ถือได้ว่าเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของตำนานแวดวงเพลงRock and Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งยี่ห้อที่กำลังกล่าวขวัญอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง ซึ่งประวัติของ Marshall นั้น จักมีภูมิหลังยังไงบ้าง พร้อมกับด้วยเหตุใดถึงได้มาเป็นยี่ห้อระดับโลกเช่นนี้ เราจะมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้จัดตั้งโดย Jim Marshall ซึ่งจุดตั้งต้นอยู่ที่การเป็นนักดนตรีผู้เชี่ยวชาญมาก่อน ซึ่งเล่นในตำแหน่งมือกลอง ภายหลังก็ได้เปลี่ยนแปลงตนเองมาปฏิบัติงานกิจการร้านขายเครื่องดนตรี พร้อมด้วยอุปกรณ์หลายอย่าง โดยเริ่มจากการทำการค้ากลองชุดพร้อมทั้งกีตาร์ในลอนดอนแถว Hanwell ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จักเป็นนักดนตรีดนตรีRock and Roll ที่มีความเด่นในคราวนั้น ดังเช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือว่าเป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เป็นเหตุให้มีผู้ใช้มากขึ้น
                ภายหลังก็เริ่มมีนักดนตรีดัง หลายท่านเรียกร้องแอมป์ หรือว่าเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ พร้อมทั้งเสียงดังกว่าแต่ก่อน เนื่องด้วยอุปสรรคที่ประสบโดยมากค่อนข้างเป็นเรื่องความดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอดีในการบรรเลงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตัดสินใจลองทำออกมาวางขาย และดันบรรลุผลเหลือเกิน กลายเป็นการบอกเล่าปากต่อปาก จนวงดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงได้จัดการออกมาค้าขายอย่างเอาเป็นเอาตาย พร้อมกับได้จัดตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นณปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นต้นกำเนิดของยี่ห้อ Marshall อย่างแท้จริง
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายชอบ รวมถึงยังเอื้อนคือความเห็นเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่เสียงเยี่ยมเท่าที่เคยมีมา (ในยุคนั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และถัดไปมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาสร้างแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมกับตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความไว้วางใจจากมือกีตาร์สายบลูส์ แนวร็อก จากวงโด่งดัง ระดับประวัติศาสตร์ตัวอย่างเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมถึง AC/DC เป็นต้น
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในยุค 60 ของ Marshall อย่างสังเขป อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาได้ล่วงเข้าสู่ยุคดิจิตอล แบรนด์ Marshall ที่ชำนาญในวงการเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและหยิบยกเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมมือในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อให้ทันยุค ทันสมัย อีกทั้งตรงตามความปรารถนา หรือตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone โดยเป็นสินค้าประเภทหูฟัง เพื่อให้ผู้ใช้ หรือว่าคนธรรมดาให้ได้รับประสบการณ์การฟังเพลงในสไตล์ของ Marshall รวมไปถึงผลิตภัณฑ์พวกลำโพงที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้ โดยนั่นทำให้ Marshall เป็นที่นิยมอย่างมากมายก่ายกองเช่นเดียวกัน ด้วยสไตล์เสียงที่ไม่เหมือนใคร และดีไซน์ที่ดูเป็นย้อนยุค คลาสสิก สละสลวย ซึ่งรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าสนใจ พร้อมกับจักแนะนำนั่นก็คือ หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore โดยจะมีรายละเอียดปลีกย่อยดังนี้
 
หูฟังไร้สาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิคอยู่ในตัว การออกแบบสวยงาม งามตามีสไตล์ ขนาดกะทัดรัดสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้ง่าย มีการเชื่อมต่อโดยเร็วด้วย Bluetooth 4.0 แม้กระนั้นสามารถใช้ร่วมกับเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเช่นเดียวกัน  สามารถใช้งานได้นานมากถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) และกินเวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ส่วนของสุรเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เพราะว่าเบสแน่นๆ เสียงร้องกระจ่าง มีเสียงแหลมที่ไม่ขัดหู และเวทีเสียงที่สามารถแยกส่วนรายละเอียดของชิ้นส่วนเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีมาก สมกับการเป็นสุดยอดประวัติศาสตร์ยี่ห้อเครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกโดยแท้จริง ซึ่งหูฟังไร้สาย Marshall รุ่นนี้ มูลค่าจะอยู่ที่ไม่มากเกิน 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                เป็นลำโพงบลูทูธที่มีขนาดออกจะใหญ่ที่ได้ออกจัดจำหน่ายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นเดียวกัน เสียแต่ว่าเรื่องของคุณภาพนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเดิมเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้สุรเสียงที่ชัดครบถ้วนบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ด้านในทั้งหมด 3 ตัว ยิ่งกว่านั้นยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือแจ็คขนาด 3.5 มม. อีกทั้ง INPUT2 หรือ RCA นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการปรับน้ำเสียงทุ้มแหลมได้พร้อมด้วย ให้น้ำเสียงเสมือนคุณกำลังฟังเพลงจากการบรรเลงดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จักมีราคาถูกที่ไม่เกิน 15,900 บาท หากเทียบกับเสียงที่ได้มา นับว่าคุ้มมากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางข้าพเจ้าได้นำฝากกันในวันนี้ ซึ่งจักเห็นได้ว่าตั้งแต่อดีตยันสมัยปัจจุบันนั้น หมู่เรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์แบรนด์ Marshall เชื้อชาติอังกฤษนี้แทบจะทุกเวทีเลย รวมถึงหูฟัง และลำโพงที่มากมายหลายรุ่นที่ไม่ว่ายุคจะล่วงเลยนานเท่าใด แต่ Marshall ก็ยังดำรงความคลาสสิกตามสไตล์แบบ Marshall มิเคยเปลี่ยนแปลง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : หูฟัง marshall

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall



โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี

ตำนานกลุ่ม ร็อกแอนด์โรล ต้อง “Jim Marshall”
« เมื่อ: ธันวาคม 06, 2018, 02:54:43 AM »
SEO