รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: มะม่วงหาว มะนาวโห่ สรรพคุณเเละประโยชน์  (อ่าน 145 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ำพ

  • บุคคลทั่วไป

Permalink: มะม่วงหาว มะนาวโห่ สรรพคุณเเละประโยชน์

มะม่วงหาว มะนาวโห่
ชื่อสมุนไพร  มะม่วงหาวมะนาวโห่
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น  มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่ , มะนาวไม่รู้โห่ , หนามแดง (ภาคกลาง) , หนามขี้แฮด (เชียงใหม่) , มะนาวโห่ (ภาคใต้)
ชื่อวิทยาศาสตร์    Carissa carandas L.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์  Carissa congesta Wight.
ชื่อสามัญ  Karanda, Carunda , Christ’s thorn , Bengal Currants.
วงศ์  APOCYNACEAE
ถิ่นกำเนิด
มะม่วงหาว มะนาวโห่ คือผลไม้ในกรุ๊ปเบอร์รี่ชนิดหนึ่งที่เชื่อว่าถิ่นเกิดอยู่แถบ Himalayas แม้กระนั้น นักพฤกษศาสตร์บางท่านกล่าวว่ามีถิ่นกำเนิดแถบ Java มะนาวโห่มีการกระจายตัวตั้งแต่เนปาลไปจนกระทั่งอัฟกานิสถาน และก็เจอได้ในหลายๆพื้นที่ในประเทศ อินเดีย มีการกระจายตัวในเขตอบอุ่นของประเทศ อินเดีย และศรีลังกา โดยธรรมชาติเจริญวัยในพื้นที่ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ตั้งแต่ 300 ถึง 1,800 เมตรจากระดับน้ำทะเล รวมถึง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ศรีลังกา พม่า จีน แล้วก็ไทย
ส่วนในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ส่วนในขณะนี้ค่อนข้างหามารับประทานได้ยาก เพราะว่าเป็นพันธุ์พืชมีหนาม ใครหลายๆคนไม่ทราบสรรพคุณจึงฟันทิ้งกันไปมาก นอกจากคนที่รู้ท่านั้นที่เอามาปลูกไว้ สำหรับคนสมัยก่อนแล้วผลไม้จำพวกนี้นับว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นมีฤทธิ์เป็นยาสมุนไพรซึ่งมีคุณประโยชน์ที่มากมาย
ลักษณะทั่วไป มะม่วงหาว มะนาวโห่ มีลักษณะเป็นไม้พุ่มรอเลื้อย หรือไม้ต้นขนาดเล็ก เป็น ไม้ไม่ผลัดใบ มีสีเขียวตลอดปี มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ คือ
ลำต้น : สูง 2-3 เมตร แต่ว่าบางทีอาจมากถึง 5 เมตร มียาง ขาวเปลือกมีสีเทาอ่อน
กิ่ง: มีกิ่งเยอะมากๆกิ่งมี ลักษณะแข็ง และก็กระจัดกระจายไปทั่วต้น การแตกกิ่งจะแตก ออกเป็น 2 กิ่งตรงคู่กัน มีหนามทั้งแบบหนามผู้เดียว หรือ เป็นคู่ อาจยาวได้ถึง 5 เซนติเมตร หนามจะพบบริเวณ มุมใบ หรือตามข้อของกิ่ง กิ่งกิ้งก้านชอบมีหนามที่แข็ง และก็คม
ใบ: เป็นใบลำพัง ออกตรงข้าม รูปขอบขนานหรือ รูปไข่ ไม่มีหูใบ กว้าง 1.5-4 เซนติเมตร ยาว 3-7 เซนติเมตร ปลายมน หรือเว้ายุบ มีก้านในผู้เดียว เส้นใบ เป็นแบบร่างแห ผิวใบเรียบ เป็นเงา มีสีเขียวเข้ม หรือ สีเขียวอมเทา
ช่อดอก: ออกเป็นช่อตามซอกใบ มีลักษณะเรียงเป็นแบบช่อเชิงหลั่นเป็นกระจุกกันอยู่ใบเสริมแต่งตรง
ดอก: ดอกมีกลิ่นหอมยวนใจ (คล้ายดอกมะลิ) ขนาด ยาว ประมาณ 3.5-5.5 ซม. กลีบสีขาว หรือ สีชมพู รวมกันเป็นช่อ 2-3 ดอก ไม่มีใบตกแต่งย่อย มีก้านดอกย่อย เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ดอกสมมาตรตามรัศมี มีกลับดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยงมีขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นขน โคนเชื่อมเป็นหลอด ยาว 16-21.5 มม. ปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก มีขนสั้นขนาด เล็ก วงกลีบดอกไม้: กลีบดอกไม้เชื่อมกัน 5 กลีบเป็นวง เป็น รูปใบหอก สีขาว มีขนสั้นขนาดเล็กนุ่ม หลอดมีลักษณะ ยาว และขยายตรงฐานรองดอก มีขนสั้นนุ่มเป็นต้นว่า เดียวกัน
เกสรตัวผู้: มีละอองเกสรตัวผู้เป็นจำนวนมากปลายยอดเกสรตัวผู้มีรยางค์ อับเรณูติดอยู่ตรงฐาน มีลักษณะหันเข้า อับเรณูแตกทางยาว
เกสรตัวเมีย: มี 1 อัน รังไข่มีลักษณะกลมรี มีวงเกสรตัวเมีย 2 วง เชื่อมกันอยู่ รังไข่เป็นsyncarpous มีหลาย locule placenta อยู่ที่ศูนย์กลาง (axis) ของรังไข่ มี carpel และก็ locule 2 อัน ยอดเกสรตัวเมียมีลักษณะเป็นเส้นใย ปลายแยกเป็น 2 แฉก
ผล: ผลไม้ที่มีเนื้อสด (fleshy fruit) มี pericarp เป็นเนื้อนุ่มรับประทานได้ ผลเป็นแบบdrupe (ผลไม้ ที่มีเม็ดแข็ง) ลักษณะรูปไข่ ขนาดกว้าง 12-17 มม. ยาว 15-23 มิลลิเมตร ผลสำเร็จผู้เดียวออก รวมกันเป็นช่อ ผลอ่อนจะมีสีชมพูอ่อนๆรวมทั้งเบาๆเข้มขึ้นเป็นสีแดง จนถึงสุกจึงแปลงเป็นสีดำมีรสชาติ เปรี้ยว
เมล็ด: เมื่อผลสุกจะมี 2-4 เม็ด เมล็ดมี ลักษณะแบน รูปไข่ เอนโดสเปิร์มเป็นแบบเนื้อ (fleshy endosperm) มีลักษณะเว้า
การขยายพันธุ์
โดยปกติแล้ว มะม่วงหาว มะนาวโห่ นิยมแพร่พันธุ์ด้วยเม็ด เม็ด มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็นเมล็ดที่แก่การรักษาสั้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวเมื่อ แยกเมล็ดออกมาจากผลแล้วจึงควรเพาะเม็ดโดยทันที (Patel, 2013) การเพาะเม็ดนิยมเพาะในโรงเรือนตอน เดือน สิงหาคม-กันยายน หรือเอามาเพาะใส่ในถุงพลาสติกเพาะชำ รดน้ำให้เปียกแฉะ วางเอาไว้ในที่แดดร่มๆซึ่งจะใช้เวลาเพาะประมาณ 6 เดือน แล้วนำมาปลูกภายในแปลง
หรือเมื่อต้น กล้าอายุได้ 1 ปี สำหรับแนวทางการตอน กิ่งและการชำ ในมะม่วงหาว มะนาวโห่ควรจะเริ่มทำ ในตอนมรสุมรากจะออกข้างหลังตอนโดยประมาณ 3 เดือน โดยการเลือกตอนในกิ่งที่ ไม่อ่อนหรือเปล่าแก่เดินไป อายุกิ่งไม่เกิน 1 ปี มีเส้นผ่าน ศูนย์กลางกิ่งไม่เกิน0.5 ซม.มะม่วงหาว มะนาวโห่จัดเป็นพืชที่ทนสภาพแล้งได้ดิบได้ดีจะก้าวหน้า เติบโตได้ดิบได้ดีในเขตร้อนเขตอบอุ่น สามารถเจริญวัย ก้าวหน้าในดินปนทราย แถบแนวเขาหินปูน และดินที่สลายตัว หรือดินเทือกเขา โดยสามารถเจริญเติบโตได้ในดินเกือบทุก จำพวก ตั้งแต่ดินเค็ม ไปจนถึงดินเปรี้ยว พืชจำพวกนี้จะ เติบโตได้ดิบได้ดีในพื้นที่ชายฝั่ง หรือพื้นที่ที่ไม่มีการใช้ ประโยชน์ และยังเป็นพืชที่ปรารถนาน้ำน้อยมาก การให้ น้ำมีความจำเป็นเฉพาะตอนข้างหลังย้ายปลูก หรือหลังให้ ปุ๋ยเพียงแค่นั้น
องค์ประกอบทางเคมี
ในผลของมะม่วงหาว มะนาวโห่ มีสาร anthocyanin สารประกอบฟีนอลิก แล้วก็ triterpenoid acid รวมทั้งสารชนิดพวกโปรตีน ดังเช่น alanine, glycine, glutamine และก็ยังพบคาร์โบไฮเดรต ฟลาโวนอยด์ ในลำต้นแล้วก็รากเป็นพวกลิกแนน ใบเป็นพวกตรีเทอร์ไต่ส์, สเตียรอยด์นอกเหนือจากนั้นการศึกษาเบื้องต้นพบว่า สารสกัดของมะม่วงไม่รู้จักหาว มะนาวไม่รู้จักโห่ยังมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆดังเช่นว่า สารโฟลีฟีนอลิก (polyphenolic) ฟลาโวนอยด์(flavonoid) ฟลาวาโนน (flavanone) วิตามิน ซีอัลคาลอยด์(alkaloid) ซาโปนิน (saponin) รวมทั้ง แทนนิน (tannins)
ส่วนค่าทางโภชนาการของมะม่วงหาว มะนาวโห่ ระบุว่าผลมะม่วงหาวมะนาวโห่สุก 100 กรัม ให้พลังงานโดยประมาณ 75 แคลอรี่ มีไขมัน 2-5 กรัม น้ำตาล 7-12 กรัม และก็วิตามินซี 9-11 มิลลิกรัม
ประโยชน์/สรรพคุณ
มะม่วงหาว มะนาวโห่ส่งผลแบบมีเนื้อหลายเม็ด (berry) นิยมประยุกต์ใช้บริโภคสดหรือนำมาใช้สำหรับในการทำกับข้าวดองในประเทศอินเดีย มีการบริโภค ภายในประเทศแล้วก็ส่งออกเมืองนอก มะม่วงหาว มะนาวโห่เป็น ผลไม้ที่จัดเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่รับประทานก่อนที่จะรับประทานอาหารจาน หลักได้อย่างดีเยี่ยม โดยส่วนใหญ่แล้วผลมักจะนำไปดองก่อนที่จะสุก ส่วนผลดิบชอบใช้เป็นเครื่องดื่มคลาย้อน ประยุกต์ใช้ทำเยลลี่ แยม น้ำผลไม้ น้ำเชื่อม ทาร์ต รวมทั้งเครื่องเคียง น้ำยางสีขาวในผลสุกใช้ใน อุตสาหกรรมแทนนินรวมทั้งสีผสมอาหาร ในผลสุกจะมี สารเหมือนยางเหนียวแม้กระนั้นเมื่อปรุงโดยการผ่านความร้อน แล้วทิ้งเอาไว้ให้เย็นจะได้น้ำผลไม้ที่มีสีแดงเข้มใส เอาไปใช้เป็นเครื่องดื่มดับร้อนได้ ผลสุกของมะม่วงหาว มะนาวโห่จะมี เพ็กติเตียนนจำนวนมาก ผลสุกจำพวกที่มีรสหวานสามารถ รับประทานได้ในทันที แม้กระนั้นประเภทที่มีรสเปรี้ยวจะต้องกวนด้วย น้ำตาลจำนวนหลายชิ้นก่อนจึงจะรับประทานได้ ในบาง ประเทศปรุงมะม่วงหาวมะนาวโห่ร่วมกับพริกเขียวเพื่อเป็นของกิน ที่รับประทานคู่กับแผ่นโรตี นอกจากนี้ยังมีการน้ำนำมาทำเป็นซอสเปรี้ยวใช้สำหรับกินคู่กับปลาและเนื้อวัวอีกด้วย
ส่วนสรรพคุณทางยาของมะม่วงหาว มะนาวโห่ตามตำรายาไทย
ระบุว่า แก่น บำรุงไขมัน เหมาะกับคนผอม บำรุงธาตุแก้เมื่อยล้า ใบสด ต้มน้ำดื่มแก้ท้องร่วง แก้ปวดหู ไข แก้เจ็บปากและคอ รากสดต้มน้ำ ขับพยาธิ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร ตำอย่างละเอียดผสมกับเหล้า ทาหรือพอกรักษารอยแผลแก้คัน เปลือกลำต้น บรรเทาอาการโรคผิวหนัง แก้บิด ขับน้ำเหลืองเสีย แก้ท้องเดินแก้กามโรค ทำยาอมรักษาแผลในปาก แก้ปวดฟัน พอกดับพิษ ผล ผลดิบ มีรสขมและก็เปรี้ยว ใช้เป็นยาสมาน แผล ดับหิวคลายร้อน ใช้เป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ที่รับประทานก่อนรับประทานอาหารจานหลัก แก้ท้องผูก ลดไข้ ละลายเสมหะและมีคุณประโยชน์สำหรับผู้มีอาการ หิวน้ำ ไม่อยากอาหาร ท้องร่วง ลักษณะของการมีไข้ขึ้นสมอง รวมทั้ง อาการคลื่นไส้เป็นเลือด ผลสุก มีรสหวานและมี คุณประโยชน์เย็น ใช้คือผลไม้เรียกน้ำย่อย ทุเลาอาการ ลักปิดลักเปิด และก็มีคุณประโยชน์ต่อผู้มีอาการอ้วกมีเสมหะ ภาวการณ์เบื่ออาหาร แผลไหม้ โรคหิด อาการคัน และก็อาการอื่นๆจากโรคผิวหนังนอกเหนือจากนี้ยังบรรเทา ภาวะโลหิตจาง แล้วก็ช่วยถอนพิษ และก็ในตำราแพทย์พื้น บ้านกล่าวว่าผลสุกสามารถเร้าอารมณ์ทางเพศของ ผู้หญิง รวมทั้งฆ่าพยาธิในไส้ได้ ผลสุกมีคุณสมบัติใน การฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ และเชื้อราได้ น้ำคั้นจากผลใช้ล้าง แผลเพื่อคุ้มครองการรับเชื้อ รวมทั้งบรรเทาอาการคันที่ ผิวหนัง และยังสามารถบรรเทาอาการบ้าได้อีก ด้วย เมล็ด แก้ขี้กลากโรคเกลื้อน แก้เนื้อหนังชาในโรคเรื้อน แก้โรคผิวหนัง แก้ตาปลา แก้เนื้องอก บำรุงไขข้อ บำรุงกระดูก บำรุงเอ็น ชูกำลัง บำรุงผิวหนัง น้ำยาง ทำลายตาปลา กัดทำลายเนื้อที่ด้านเป็นปุ่มโต แก้เลือดออกตามไรฟัน รักษาหูด รักษาขี้กลาก แผลเนื้องอก โรคเท้าช้าง ยอดอ่อน รักษาริดสีดวงทวาร
ส่วนในการศึกษาเรียนรู้ทางการแพทย์แผนปัจจุบันมีผลการศึกษากล่าวว่า สารออกฤทธิ์ในมะม่วงหาว มะนาวโห่สามารถต้านอนุมูลอิสระ สามารถปกป้องการเกิดเบาหวาน (antidiabetic) และคุ้มครองการเกิดโรคมะเร็งได้ (anticancer)
แบบอย่าง/ขนาดการใช้
รากสด ต้มกับน้ำใช้ดื่มเพิ่มความต้องการอาหาร เพิ่มแนวทางการทำงานของกระเพาะ เพิ่มการหลั่งกรด แก้ท้องเดิน ขับพยาธิ ใบต้มกับน้ำดื่ม ใช้ลดไข้ แก้ท้องร่วง แก้แผลอักเสบที่ปาก ผลสุดใช้กินสดหรือทำเป็นน้ำผลไม้ดื่ม แก้ลักปิดลักเปิด แก้โลหิตจาง ช่วยเจริญอาหารแก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ท้องร่วง แก่นไม้มะม่วงหาว มะนาวโห่ใช้ต้มกับน้ำใช้ดื่ม ช่วยบำรุงรักษาธาตุ ชูกำลัง แก้อ่อนเพลีบ น้ำยางใช้ทากัดตาปลา และเนื้อที่ด้านแข็ง รักษาหูด กลากโรคเกลื้อนการศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา ฤทธิ์สำหรับในการต้านอนุมูลอิสระ พบว่าในผลสุกที่มีสีม่วงจะมีฤทธิ์ในการต่อต้าน อนุมูลอิสระสูงกว่าผลดิบ (ผลสีชมพู) และผลกึ่งสุก (ผลสีแดง) และยังพบว่ามีปริมาณสารประกอบฟีนอลิก ทั้งปวงและก็จำนวนแอนโทไซยานินทั้งสิ้นในผลสุก สูงขึ้นมากยิ่งกว่าผลดิบและก็ผลครึ่งหนึ่งสุกด้วยด้วยเหมือนกัน แล้วก็ยังพบว่าในรากมีสารที่สามารถต้านทาน อนุมูลอิสระได้ โดยมีปริมาณฟีนอลิกทั้งผอง ตั้งแต่ 1.79-4.35 GAE มิลลิกรัม/กรัม ของตัวอย่างแห้งจำนวนฟลา โวนอยด์ทั้งผองระหว่าง 1.91-3.76 CE มิลลิกรัม/กรัม ของ แบบอย่างแห้ง มีฤทธิ์สำหรับเพื่อการต้านทานอนุมูลอิสระแบบ DPPH รวมทั้งเปอร์เซ็นต์การยับยั้งปฏิกิริยาperoxidation ของ linoleic acid ระหว่าง 12.53-84.82% และ 41.0- 89.21% เป็นลำดับฤทธิ์ในการต้านมะเร็ง การศึกษาถึง ผลของสารสกัดมะม่วงหาว มะนาวโห่ที่มีผลต่อเซลล์ของมะเร็งรังไข่ เซลล์มะเร็ง Caov-3 และเซลล์มะเร็งปอด โดยทำการสกัดจาก 3 องค์ประกอบ คือ ใบ ผลดิบ แล้วก็ผลสุก พบว่าสาร สกัดจากใบมะม่วงหาว มะนาวโห่ด้วย chloroform สามารถต้านทาน กิจกรรมของเซลล์ของโรคมะเร็ง Caov-3 ได้เป็นอย่างดี ในขณะ ที่สารสกัดจากผลดิบมะม่วงหาว มะนาวโห่ด้วย hexane สามารถ ต้านทานกิจกรรมของเซลล์ของมะเร็งปอดได้ นอกเหนือจากนี้ยังมีการศึกษาและทำการค้นพบสารตัวใหม่ที่มี อยู่ในใบของมะม่วงหาว มะนาวโห่ชื่อสาร carandinol ซึ่งเป็นสารในกรุ๊ปของ triterpene ซึ่งเมื่อนำมาประเมินความเป็น พิษต่อเซลล์(cytotoxicity) การผลิตภูมิต้านทาน (immunomodulatory) สารต้านไกลเคชั่น (antiglycation) ฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระ และก็ความ สามารถสำหรับในการยั้งรูปแบบการทำงานของโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี ในสภาพ ปลอดเชื้อโรค พบว่า สารจำพวกนี้สามารถก่อความเป็นพิษ กับเซลล์ของมะเร็งทุกจำพวกสำนักงานทดลอง ทั้งยัง HeLa, PC-3 และ 3T3 โดยจะมีความเป็นพิษกับเซลล์ของมะเร็งคอมดลูก (HeLa) เยอะที่สุด ซึ่งการศึกษานี้เป็นการ เล่าเรียนแรกที่ทำการแยกสารกลุ่ม isohopane triterpene จากใบมะม่วงหาว มะนาวโห่
ฤทธิ์ในการต่อต้านอาการอักเสบลักษณะของการปวด แล้วก็ลักษณะของการมีไข้มีการนำสาร สกัดจากผลแห้งมาทำทดลองความรู้ความเข้าใจสำหรับในการ ต้านอาการอักเสบในหนู พบว่า สารสกัดโดยใช้เมธา นอลเป็นตัวทำละลายมีความรู้และความเข้าใจสำหรับการต่อต้าน อาการอักเสบในหนูได้ โดยลดลงได้ถึง 76.12% จึง ทำให้สารสกัดนี้มีศักยภาพสำหรับเพื่อการใช้เป็นองค์ประกอบ ของยาที่ใช้ต่อต้านอาการอักเสบได้ ยิ่งไปกว่านี้ยังมีการศึกษาเล่าเรียนเพื่อนำสารสกัดจากใบ มะนาวโห่มาใช้เพื่อต่อต้านอาการอักเสบและก็ลดไข้ในหนู พบว่า สารสกัดที่ให้กับหนูที่ความเข้มข้น 200 มก./ น้ำหนักตัว 1 กก. สามารถต้านทานอาการอักเสบจากการ บวมที่อุ้งเท้าของหนูได้มากถึง 72.10% ในส่วนของ ความสามารถสำหรับในการลดลักษณะของการมีไข้ พบว่าที่ความเข้มข้น 100 และ 200 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม สามารถลดอุณหภูมิที่เกิดขึ้นจากลักษณะของการมีไข้ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้ง สามารถลดอาการได้นานถึง 4 ชั่วโมงภายหลังจากให้สารสกัดฤทธิ์สำหรับการต้านอาการชักจากการศึกษาฤทธิ์สำหรับการต้านอาการชักที่เกิดขึ้นจากการกระตุ้นสมองด้วยกระแสไฟ รวมทั้งการกระตุ้นด้วยสารเคมี (pentylenetetrazole, picrotoxin, bicuculline และก็ N-methyl-dl-aspartic acid) ในหนูโดยใช้สารสกัดจาก รากที่ความเข้มข้น 100, 200 รวมทั้ง 400 มิลลิกรัม/กก. พบว่า สารสกัดอีกทั้ง 4 ความเข้มข้นสามารถลดระยะเวลาการ ชักในหนูได้ แม้กระนั้นเฉพาะความเข้มข้นที่ 200 และก็ 400 มิลลิกรัม/กก. เพียงแค่นั้นที่คุ้มครองป้องกันอาการชักได้ รวมทั้งที่ความเข้มข้นนี้ยังสามารถคุ้มครองป้องกันอาการชักจากการกระตุ้นด้วย pentylenetetrazole รวมทั้งชะลอการเกิดอาการชักจากการกระตุ้นด้วยสาร picrotoxin แล้วก็ N-methyl-dlaspartic acid แต่ไม่มีผลคุ้มครองปกป้องอาการชักจากการกระตุ้นด้วยสาร bicuculline
ฤทธิ์ในการต้านโรคเบาหวาน จากการศึกษาเล่าเรียนในสารสกัดจากผลดิบ พบว่าการสกัดด้วยเมทานอลรวมทั้ง ethyl acetate ที่ความเข้มข้น400 มก./กิโลกรัม สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้อย่างมีนัยสำคัญถึง 48 และ 64.5% เป็นลำดับเมื่อเทียบกับ ยาต้านทานเบาหวานแผนปัจจุบัน
ฤทธิ์สำหรับการปกป้องรักษาความเป็นพิษต่อ ตับ สารสกัดด้วยเอทานอล จากรากมีฤทธิ์ในการ คุ้มครองความเป็นพิษต่อตับที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ยาพารา เซตตามอลได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการที่ สารสกัดนี้ไปยั้งกิจกรรมทางด้าน
ชีววิทยาของพิษที่ เกิดขึ้นกับตับ
ยิ่งไปกว่านี้การค้นคว้าวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของมะม่วงหาว มะนาวโห่ ที่ระบุว่ามีฤทธิ์ทำให้หัวใจบีบตัวน้อยลง กระตุ้นมดลูกทำให้หัวเต้นชา บำรุงหัวใจ ลดความดันเลือด เป็นต้น
การศึกษาเล่าเรียนทางพิษวิทยา
ในปัจจุบันยังไม่เจอรายงานการศึกษาเล่าเรียนพิษวิทยาของส่วนผล แต่ส่วนรากแสดงความเป็นพิษเมื่อให้สารสกัดเอทานอลของรากต้นมะม่วงหาว มะนาวโห่โดยฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ฉีดเข้าท้อง และให้ทางปากของแมวในขนาด 5 - 150 มิลลิกรัม/กก. พบว่ามีผลทำให้สัตว์ทดลองอาเจียน อ้วก เซื่องซึม น้ำมูกไหล ท้องร่วง หายใจหอบรวมทั้งเร็ว (tachypnea) ชัก แล้วก็ตายในที่สุด การให้ทางหลอดเลือดดำจะเกิดอาการอาเจียน อาเจียนเร็วที่สุด คือใช้เวลา 3 - 5 นาที ภายหลังให้สาร ส่วนการให้ทางช่องท้อง รวมทั้งทางปากใช้เวลา 10 - 20 และ 40 - 60 นาที ตามลำดับ แมวที่ได้รับสารสกัดทางเส้นเลือดดำทุกตัวตายภายในช่วงเวลา 1 - 2 ชั่วโมงหลังจากให้สาร เมื่อผ่าอวัยวะภายในพบว่าตับไม่ปกติ มีการบวมของเซลล์ตับ (liver congestion) มีจุดเลือด (petechial hemorrhages) ที่ปอดรวมทั้งผนังลำไส้เล็ก
ข้อแนะนำ/สิ่งที่จำเป็นต้องระมัดระวัง
ในการศึกษาเรียนรู้ทางเภสัชวิทยา รวมทั้งพิษวิทยา ของมะม่วงหาวมะนาวโห่ในปัจจุบันล้วนเป็นการศึกษาในสัตว์ทดลอง และผลของการทดลองแต่ว่ายังไม่ปรากฏผลการศึกษาเรียนรู้ที่ในคน ก็เลยทำให้ไม่อาจกำหนดคุณภาพและก็ความปลอดภัยสำหรับเพื่อการใช้รักษาโรคได้อย่างแน่ชัด โดยการใช้ในแบบที่ไม่เหมาะสมหรือใช้ในปริมาณมากเกินความจำเป็นอาจเสี่ยงก่อให้เกิดอันตรายได้ เพราะฉะนั้นก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆจากมะม่วงหาวมะนาวโห่ให้จึงขอความเห็นหมอก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคประจำตัว
เอกสารอ้างอิง

  • สกุลกานต์ สิมลา.มะนาวโห่ : พืชในวรรณคดีไทยที่มากด้วยประโยชน์ .วารสารแก่นเกษตร .ปีที่ 44 ฉบับที่3 .กรกฎาคม – กันยายน .2559.หน้า 557-566.
  • มะนาวไม่รู้โห่...ไม้ประดับกินได้.สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.
  • ธงชัย พุ่มพวง.ประพันธ์ ชานนท์.พิมพ์ใจ ทรงประโคน. กัลยาณี วรรณศรี. ดำรงเกียรติ มาลา และ พรประภา รัตนแดง 2556.มะม่วงหาว มะนาวโห่ ผลไม้ในวรรณคดีไทยที่มากมายด้วยคุณค่าและราคาดี.นิตยสารเกษตรโฟกัส.2(20):24-39.https://www.disthai.com/
  • ณัฏฐินี อนันตโชค.มะนาวไม่รู้โห่.จุลสารข้อมูลสมุนไพร.คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.ปีที่29.ฉบับที่ 1.ตุลาคม.2554.หน้า2-6
  • ณนัฐอร บัวฉุน.ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบฟีนอลิกของเมล็ดและเนื้อมะม่วงไม่รู้โห่.วานสารวิจัยและพัฒนะ วไลขอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์.ปีที่ 13 ฉบับที่2.พฤษภาคม-สิงหาคม 2561.หน้า 53-63
  • มะม่วงหาวมะนาวโห่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
  • สกุลกานต์ สิมลา.สุรศักดิ์ บุญแต่ง และพัชรี สิริตระกูลศักดิ์.(2556).การประเมินปริมาณสารพฤษเคมีบางประการและกิจกรรมของสารต้านอนุมูลอิสระใน Carissa carandas L. แก่นเกษตร 41 ฉบับพิเศษ:602-606.
  • มะม่วงหาว มะนาวโห่.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
  • Itankar, P.R., S.J. Lokhande1, P.R. Verma, S.K. Arora, R.A. Sahu, and A.T. Patil. 2011. Antidiabetic potential of unripe Carissa carandas Linn. fruit extract. J. Ethnopharmacol. 135: 430-433.
  • Philippine Medicinal Plants. 2012. Caranda. Available: http://goo.gl/kBShxE. Accessed Aug. 6, 2014.
  • Begum, S., S.A. Syed, B.S. Siddiqui, S.A. Sattar, and M.I. Choudhary. 2013. Carandinol: First isohopane triterpene from the leaves of Carissa carandas L. and its cytotoxicity against cancer cell lines. Phytochem Lett. 6: 91-95
  • หนามแดง.กระดานถาม-ตอบ.สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  • Hati, M., B.K. Jena, S. Kar, and A.K. Nayak. 2014. Evaluation of anti-inflammatory and anti-pyretic activity of Carissa carandas L. leaf extract in rats. J. Pharm Chem Bio Sci. 1(1): 18-25.
  • Gupta, P., I. Bhatnagar, S-K. Kim, A. K. Verma, and A. Sharma. 2014. In-vitro cancer cell cytotoxicity and alpha amylase inhibition effect of seven tropical fruit residues. Asian Pac J Trop Biomed. 4(2), S665-S671.
  • Kumar, S., P. Gupta, and V. Gupta K.L. 2013. A critical review on Karamarda (Carissa carandas Linn.). Int J Pharm Bio Arch. 4(4): 637 -642.
  • Kubola, J., S. Siriamornpun, and N. Meeso. 2011. Phytochemicals, vitamin C and sugar content of Thai wild fruits. Food Chemistry. 126, 972-981.
  • Sulaiman, S.F., W.S. Teng, O.K. Leong, S.R. Yusof, and T.S.T. Muhammad. (n.d.). Anticancer study of Carissa carandas extracts. Available: http://goo.gl/ W2WjSG. Accessed May 16, 2014
  • Aslam, F., N. Rasool, M. Riaz, M. Zubair, K. Rizwan, M. Abbas, T.H. Bukhari, and I.H. Bukhari. 2011. Antioxidant, haemolytic activities and GC-MS profiling of Carissa carandas roots. Int J Phytomedicine. 3: 567-578
  • Patel, S. 2013. Food, pharmaceutical and industrial potential of Carissa genus: an overview. Rev Environ Science Biotech. 12(3): 201-208


คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : มะม่วงหาว มะนาวโน่หาว



โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี