ในการถ่ายรูปนั้นเลนส์ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญ โดยเลนส์แต่ละตัวก็มีคุณสมบัติเฉพาะเฉพาะที่ผิดแผกแตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่นเลนส์Landscapeใช้ในการถ่ายภาพภูมิทัศน์, เลนส์Macroใช้ถ่ายรายละเอียดไม่ก็สัตว์ขนาดย่อม เป็นต้น
ปมปัญหาปวดกบาลสิ่งหนึ่งของนักถ่ายรูปเริ่มหัดหรือว่ามือสมัครเล่นเกือบทุกคนก็คือการคัดเลือกเลนส์ให้ประทับใจ และถูกต้องกับการใช้งาน เพราะว่าจากประเภทพร้อมด้วยจำนวนรุ่นที่มีออกมามากหลายในท้องตลาด เป็นเหตุให้จำต้องดูกันดี ๆ ผมจึงมีพื้นฐานการเลือกเลนส์มาฝากทุกท่านกันขอรับกระผม
ก่อนอื่นพวกเรามารู้จักกับเลนส์กล้องถ่ายภาพชนิดต่างๆ ก่อนซึ่งแบ่งแยกเป็นระยะห่างได้ดังนี้
สำหรับวิถีสตรีท ที่ชื่นชอบถ่ายรูปบนถนน เลนส์ในระยะนี้โดยมากจักนิยมใช้ระยะเท่าที่สายตาปกติธรรมดาเห็น คือมิได้ใกล้หรือว่าไกลเป็นพิเศษ (ระยะประมาณ 28-40 มิลลิเมตร)
เหมาะสมกับคนไหนที่หลงใหลฉายรูปบุคคล เนื่องจากสามารถทำหน้าชัดหลังเบลอหรือโบเก้ได้ดี (ระยะราวๆ 50-135 มม.) โดยเลนส์ประเภทนี้เป็นส่วนใหญ่จะใช้ f/1.4 - f/2.0 กันในการถ่าย
เป็นเลนส์ซูม มีมุมมองภาพที่ค่อนข้างจำกัด หากคนไหนชอบถ่ายภาพนก จับภาพดาว ระยะนี้กำลังพอเหมาะเลยเชียว (ระยะโดยประมาณ 70-300 มม.)
สำหรับคนไหนที่โปรดปรานฉายรูปวิว ทัศนียภาพกว้างๆ ทำเลที่ตั้งใหญ่ๆ เรียกว่ามีเลนส์นี้ได้ความอลังการแน่ (ระยะประมาณ 10-24 มม.)
รูปภาพจักมีระยะห่างที่กว้างไกล แต่กลับมีความบิดโค้งของภาพสูงมาก ส่วนมากใช้เฉพาะทางครั้นต้องการเนรมิตภาพมุมมองแปลกๆ (ระยะห่างพอๆ กับเลนส์มุมกว้างสาย Landscape หรืออาจน้อยกว่า)
เลนส์แบบนี้สามารถโฟกัสสิ่งของได้ในระยะแค่เอื้อมเก็บรายละเอียดได้น่าพอใจ เหมาะกับการถ่าย ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้, แมลง หรือว่าสิ่งของที่มีรายละเอียดปลีกย่อยขนาดเล็กๆ (เลนส์แบบนี้จะมีระยะให้เลือกสรรใช้งานมากมายมีผลกระทบแก่ระยะห่างเวลาถ่ายรูประหว่างกล้องกับวัตถุ ตัวอย่างเช่นในรูปภาพดอกไม้ที่องค์ประกอบเท่ากัน เลนส์มาโคร 35 มม. จำเป็นต้องอยู่ห่างจากตัวดอกไม้ 10 เซนติเมตร ส่วนหากว่าใช้เลนส์มาโคร 105 มม. ควรอยู่ห่างจากตัวแบบ 1 เมตร เป็นอาทิ)
เมื่อหยั่งรู้ถึงลักษณะของเลนส์ไปแล้วมาดูกันดีกว่าว่า
เลนส์อย่างไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด
แน่นอนว่าความชอบในการถ่ายภาพของแต่ละคนไม่เหมือนกันด้วยเหตุนั้นถามตัวเองก่อนว่าชอบถ่ายภาพแบบไหนเป็นพื้น และเลือกตามลักษณะเลนส์ที่ได้แนะนำไป
สำหรับผู้ที่มีงบเยอะแยะก็สามารถเลือกสรรเลนส์ได้ตามที่ต้องการ แต่ถ้าใครมีงบประมาณจำกัดก็แนะนำให้ใช้เลนส์ Kit ที่มากับกล้องก่อนก็ได้และถามคำถามตัวคุณเองว่าติดใจชักรูปอย่างไหนไปก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการ
รูรับแสงหรือว่า f-stop คือระบบที่คุมความสว่างของแสงไฟที่เข้าสู่เลนส์ ซึ่งหากว่าถ่ายภายในที่แสงสว่างน้อยควรมีค่ารูรับแสงที่ค่อนข้างจะกว้าง และหากดินแดนใดที่มีแสงไฟมากการกำหนดรูรับแสงควรจะให้เล็กลง
- คัดเลือกเลนส์ของผู้ประกอบการอิสระ
ผู้ประดิษฐ์เลนส์อิสระคือผู้ประดิษฐ์ที่มิใช่บริษัทเดียวกับกล้องบางแห่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างน่าพอใจ ดังเช่น Sigma, Tamron และ Zeiss ซึ่งสนนราคาแสนจะถูก พร้อมกับสามารถทดแทนรวมถึงสนองการใช้งานของมือสมัครเล่นได้
- เลนส์ที่มีระบบลดความสะเทือน
หากใช้ขาตั้งกล้องถ่ายรูปก็มิจำเป็นจะต้องใช้ฟังก์ชั่นนี้ อย่างไรก็ตามสำหรับเลนส์กล้องถ่ายภาพที่มีระบบลดการสั่นไหวจักช่วยให้สามารถใช้มือจับกล้องได้อย่างนิ่งๆ ภาพถ่ายมีคุณภาพเพิ่มขึ้นแม้กระทั่งมือสมัครเล่นหัดถ่าย
- เลนส์มือสอง
สำหรับผู้ที่เป็นมือสมัครเล่นหรือผู้ที่มีงบนิดหน่อยนั้น การซื้อหาเลนส์มือ 2 ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แม้กระนั้นก็จำเป็นจะต้องทำความเข้าใจแสวงข้อมูลให้ดี ดังเช่น ความชัดอาจจะเบาบางลงจากการใช้เลนส์มิตรงกับระบบของกล้องหรือว่าการชำรุดจากการใช้งานจากเจ้าของที่ผ่านมา
- ทดลองเลนส์ก่อนซื้อ
หัวเรื่องนี้ถือว่าสำคัญมากโดยเมื่อปลงใจได้แล้วว่าจักซื้อเลนส์อย่างไหน ท่านควรที่จะเอากล้องถ่ายภาพที่จักใช้งานไปขออนุญาตตรวจสอบดูให้แน่ใจว่าถูกใจระยะนี้จริงๆหรือเปล่า ควรจะทำความเข้าใจเป้าประสงค์ของเลนส์ กล้องที่นำพาไปใช้งานสภาพจำต้องพร้อมตรวจสอบระบบการซูมอีกทั้งระบบโฟกัสของเลนส์ว่าการทำงานเป็นปกติ และปราศจากเสียงดังที่เพี้ยน ทดสอบการทำงานของรูรับแสงโดยการปรับค่า f-stop ในค่าต่างๆ สำหรับพิจารณาการสั่งงานของเลนส์ว่ามีอุปสรรคไหม รวมทั้งตรวจค้นดูรอยขีดข่วนหรือว่ามีเชื้อราเลนส์ชิ้นหน้าสุดหรือไม่ เป็นอาทิ
และนี่เป็นขั้นแรกการเลือกซื้อเลนส์กล้องถ่ายภาพสำหรับมือใหม่ และมือสมัครเล่น จักเห็นได้ว่ามีจุดที่ควรสังเกตนานัปการเลยใช่ไหมฮะ คาดว่าข้อมูลเท่าที่มีจักเป็นผลดีให้กับผู้ที่ใส่ใจนะขอรับ
Tags : ราคาเลนส์