รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: สรรพคุณเเละประโชน์ ชุมเห็ดเทศ  (อ่าน 118 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

jacl598845

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
    • ดูรายละเอียด
สรรพคุณเเละประโชน์ ชุมเห็ดเทศ
« เมื่อ: ธันวาคม 20, 2018, 10:04:38 AM »

Permalink: สรรพคุณเเละประโชน์ ชุมเห็ดเทศ

ชุมเห็ดเทศ
ชื่อสมุนไพร  ชุมเห็ดเทศ
ชื่ออื่นๆ / ชื่อท้องถิ่น ขี้คาก , ลับมืนหลวง , หมากกะลิงเทศ ,หญ้าเล็บมือหลวง (ภาคเหนือ) , ส้มเห็ด (เชียงราย) ,จุมเห็ด (มหาสารคาม) , ชุมเห็ดใหญ่ (ภาคกลาง) , ตะสีพอ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) , ตุ๊ยเฮียะเต่า , ฮุยจิวบักทง (จีน) , ตุ้ยเย่โต้ว (จีนกลาง)
ชื่อวิทยาศาสตร์  Senna alata (L.) Roxb.
ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์  Cassia alata (L.) Roxb. , Cassia bracteata L.f.
ชื่อสามัญ  Acapulo, Candelabra bush, Candle bush, Ringworm bush
วงศ์  FABACEAE (LEGUMINOSAE ) - Caesalpinioideae
ถิ่นกำเนิด
ชุมเห็ดเทศ มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปแอฟริกา อเมริกาประเทศออสเตรเลีย และก็เขตร้อนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับในประเทศไทย สามารถพบได้บ่อยในประเทศไทย ดังที่เปียกชื้น ทุกภาวะดินแต่ว่าไม่ขอบที่ร่มมาก พบมากทั้งยังรอบๆที่ราบและบนเขาที่มีความสูงไม่เกิน 1500 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ลักษณะทั่วไป
ชุมเห็ดเทศจัดเป็นพุ่มขนาดกลาง สูง 1.5-3 เมตร ลำต้นแข็งมีเนื้อไม้ ลำต้นแตกกิ่งก้านเป็นแนวขนานกับพื้นดิน กิ่งจะแผ่ออกทางข้างๆ มีขนสั้นนุ่ม เปลือกลำต้นเรียบเป็นสีน้ำตาล ใบเป็นใบประกอบแบบขนปลายคู่ ออกเรียงสลับ ใบย่อย 8-20 คู่ ยาว 5-15 ซม. ใบย่อยรูปขอบขนาน ยาว5-15 ซม. แกมรูปรี โคนใบมน ปลายใบมน กลม หรือเว้าน้อย ไม่มีต่อม ฐานใบมนแตกต่างกันทั้งคู่ด้าน ขอบของใบเรียบมีสีแดง ศูนย์กลางใบหนา ยาวโดยประมาณ 30-60 เซนติเมตร ก้านใบประกอบยาวราวๆ 2 เซนติเมตร หูใบรูปติ่งหู สามเหลี่ยม ยาว 6-8 มิลลิเมตร ติดทน ดอกย่อยมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 เซนติเมตร ก้านดอกย่อยสั้นมากมาย ใบประดับประดาเป็นแผ่นบางๆกลีบเลี้ยงสีเขียวปลายแหลมมี 5 กลีบ กลีบดอกสีเหลืองปลายมนมี 5 กลีบ ลายเส้นที่กลีบเห็นได้ชัด เกสรตัวผู้ยาว ไม่เท่ากัน เกสรตัวเมียมี 1 อัน ผลมีลักษณะเป็นฝักรูปแถบ ยาว แบน รวมทั้งหมดจดไม่มีขน ฝักมีปริมาณยาวโดยประมาณ 10-20 เซนติเมตรรวมทั้งกว้างประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร มีสันหรือปีกกว้าง 4 ปีก ปีกกว้างประมาณ 5 มม.ตามความยาวของฝัก ฝักมีฝาผนังกัน ฝักเมื่อแก่จะเป็นสีดำรวมทั้งแตกตามยาว ภายในฝักมีเม็ดราวๆ 50-60 เมล็ด เมล็ดเป็นรูปสามเหลี่ยมสีดำ มีผิวตะปุ่มตะป่ำ มีขนาดกว้างราวๆ 5-8 มม.รวมทั้งยาวโดยประมาณ 7-10 มิลลิเมตร
การขยายพันธุ์ ชุมเห็ดเทศสามารถเพาะพันธุ์ได้ 2 วิธีเป็นการใช้เมล็ดรวมทั้งการปักชำ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมเพาะพันธุ์ด้วยเมล็ดมากกว่าซึ่งมีวิธีการปลูกดังต่อไปนี้
1. การเตรียมดินให้กำจัดวัชพืชและก็เศษสิ่งของ พร้อมกับไถลูกพรวนแล้วก็ตากดินไว้ 7-15 วัน จากนั้นให้ปุ๋ยคอกอัตรา 2 ตันต่อไร่
2. การเตรียมจำพวก คัดเลือดเม็ดที่แก่จัดแล้วเอามาแช่น้ำไว้ 1 คืน แล้วคลุกกับทรายในอัตรา 1: 1-2 แล้วห่อด้วยผ้าขาวบาง รดน้ำให้ชุ่ม เก็บในที่ร่ม 1-2 วัน เม็ดก็จะเริ่มแตกหน่อ
3. การปลูก ถ้าเกิดปลูกแบบหยอดหลุมด้วยเมล็ดที่เริ่มผลิออก ให้หยอดหลุมละ 5-6 เมล็ดให้มีระยะห่างระหว่างต้น และก็ระหว่างแถว 3x4 เมตร เมื่อปลูกเสร็จใช้ผางคลุมบางๆรดน้ำให้เปียกแฉะ หากปลูกแบบใช้ต้นกล้าให้น้ำต้นกล้าที่เพาะจากเมล็ดที่แก่ 30 วัน หรือมีใบจริง 5-7 ใบ มาปลูกลงแปลง รดน้ำให้เปียกแฉะ ปักไม้ค้ำยันไว้รวมทั้งผูกติดกับต้นกล้าแล้วคลุมโคนต้นด้วยผางแล้วก็ควรจะรดน้ำให้เปียกแฉะเสมอในช่าง 2 เดือนแรก
องค์ประกอบทางเคมี ชุมเห็ดเทศมีองค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญมีสารกลุ่ม Anthraquinone โดยในใบชุมเห็ดเทศ ควรมีสาระสำคัญ Hydroxy-anthracene derives ไม่น้อยกว่า 1.0% w/w (โดยคำนวณเป็น rhein-8-glucoside) อย่างเช่น Aloe-emodin, Chrysophanol , Chrysophanic acid, lsochrysophanol, Physcion glycoside, Terpenoids, Sennoside, Sitosterols, Lectin, Rhein.

ประโยชน์ / คุณประโยชน์

หนังสือเรียนยาไทย: ใช้ข้างในแก้อาการท้องผูก เป็นยาระบาย ไปกระตุ้นทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวดีขึ้น สมานธาตุรักษากระเพาะอาหารอักเสบ แก้กษัยเส้น ทำหัวใจให้ปกติขับปัสสาวะ ขับพยาธิ ใช้ภายนอก รักษาฝี รวมทั้งแผลพุพอง รักษาขี้กลาก โรคเกลื้อน โรคผิวหนัง อมบ้วนปาก รักษาผิวหนังอักเสบเป็นผื่นคัน เส้นประสาทอักเสบ โดยใช้ส่วนของ ใบ เป็นยาถ่าย ใช้ด้านนอกรักษาขี้กลาก แก้แมลงสัตว์กัดต่อย และก็โรคผิวหนังอื่นๆใช้ถ่ายพยาธิตัวตืด ใบสด ใช้รักษากลากโรคเกลื้อน ตำพอก รีบหัวฝี ใบและดอก ทำยาต้มรับประทาน เป็นยาระบายแก้ท้องผูกขับเสลดในรายที่หลอดลมอักเสบ และก็แก้โรคหืด เมล็ด มีกลิ่นเบื่อหน่าย รสเอียนนิดหน่อยใช้ขับพยาธิ แก้ตานซาง แก้ท้องอืด แก้นอนไม่หลับ ฝัก มีรสเอียนเบื่อ แก้พยาธิ เป็นยาระบาย ขับพยาธิตัวตืด พยาธิไส้เดือน ต้นและราก แก้กษัยเส้น แก้ท้องผูก บำรุงหัวใจเปลือกแล้วก็เนื้อไม้ ใช้ขับน้ำเหลืองเสีย ส่วนในทางการแพทย์แผนปัจจุบันบอกว่า ชุมเห็ดเทศเป็นยาระบายที่ดี ด้วยเหตุว่ามีทั้งยังแอนทราควิโนน ซึ่งเป็นยาระบาย แล้วก็แทนนิน ซึ่งเป็นยาฝาดสมาน ก็เลยเป็นยาระบายที่สมานธาตุในตัว แล้วก็ในชุมเห็ดเทศยังมีพฤกษเคมีที่เป็นยาและก็สารต้านทานนุมูลิอิสระสำคัญหลากหลายประเภท โดยมีการทดสอบสารสกัดหยาบจากใบ เปลือกลำต้น ดอก ผล สกัด โดยใช้เอทิลอะสิเตทรวมทั้งเมทานอล เจอสารฟลาโวนอยด์ แอนทราควิโนน คูมาริน ซาโปนิน แทนนิน เทอร์ปินอยด์ สเตอร์รอยด์ และคาดิแอคไกลโคไซด์ แต่ว่าไม่เจอสารแอลคาลอยด์ ในทุกส่วนของชุมเห็ดเทศ และพบว่าสารสกัดทั้งยัง 8 ตัวอย่าง มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนั้น สารสกัดทั้งยัง 8 แบบอย่างสารมารถต่อต้านเชื้อ Bacillus subtilis รวมทั้ง Staphy-lococcus aureus ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารสกัดเมทานอลจากดอกชุมเห็ดเทศชนิดเดียวแค่นั้นที่ต่อต้านเชื้อ Pseudomonas auroginosa ได้ แม้กระนั้นไม่มีสารใดที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อ E.coli การศึกษาการออกฤทธิ์ของ Senna alata (L.) Roxb. หรือชุมเห็ดเทศสำหรับในการยับยั้งการเจริญของเชื้อก่อโรคพบว่าสารสกัดจากชุมเห็ดเทศสามารถยับยั้งการก้าวหน้าของเชื้อก่อโรคได้หลายชนิด ตัวอย่างเช่น เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต และก็ยังมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด ต้านทานการก่อยั้งเนื้องอก เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ ลดการอักเสบ แก้ปวดอีกด้วย
แบบ/ขนาดวิธีใช้

ท้องผูก ใช้ใบจำนวน 12-15 ใบย่อย ตากแห้ง คั่ว (ถ้าเกิดไม่คั่วซะก่อน จะเกิดอาการข้างเคียง คืออาจมีอาการอาเจียนคลื่นไส้ เมื่อคั่วความร้อนจะช่วยให้สารที่ออกฤทธิ์ทำให้อ้วกคลื่นไส้สลายไป) แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปต้มกับน้ำพอควร ดื่มครั้งเดียวก่อนกินอาหารช่วงเช้ามืด หรือก่อนนอน หรือใช้ผงใบ 3-6 กรัม ชงน้ำเดือด 120 มิลลิลิตร เป็นเวลา 10 นาที ดื่มก่อนนอน อาจทำเป็นยาลูกกลอนก็ได้ หรือใช้ช่อดอกสด 1-3 ช่อดอก ลวก จิ้มน้ำพริก หรือใช้ดอก 1 ช่อ กินสดๆเป็นยาระบาย รวมถึงใช้ใบและก้านขนาดใหญ่ โดยประมาณ 3-5 ช่อ นำมาต้มกับน้ำราว 2 ขัน(1500 ซี.ซี.) ต้มให้เดือดเหลือน้ำราว 1/2 ขัน ใส่เกลือเพียงพอมีรสเค็มบางส่วน ดื่มวันละ 1 แก้ว (250 ซี.ซี.)ครั้งต่อไป กินดอกครั้งละราว 1 ช่อ
การใช้ชุมเห็ดเทศรักษากลาก เกลื้อน นำใบสดมาตำให้ถี่ถ้วนใช้ทาบริเวณที่เป็นขี้กลากหรือผื่นคัน หรือบางทีอาจนำใบชุมเห็ดเทศ 3-4 ใบ มาตำอย่างระมัดระวังเพิ่มน้ำมะนาวบางส่วน ทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง หรือใช้ใบสดขยี้เช็ดนานๆรวมทั้งเสมอๆตรงรอบๆที่เป็น
รวมทั้งใช้ใบสด 4-5 ใบ ตำรวมกับกระเทียม 4-5 กลีบ แล้วเพิ่มปูนแดงน้อย ทาบริเวณที่เป็นซึ่งได้ใช้ไผ่บางๆฆ่าเชื้อแล้วขูดผิวรอบๆที่นั้นให้มีสีแดง(กรณีกลาก) ทาวันละ3-4 ครั้ง ตราบจนกระทั่งจะหาย รวมทั้งเมื่อหายแล้วให้ทาไปอีก 1 อาทิตย์ หรือจะใช้ใบสดตำแช่สุรา เอาส่วนเหล้าทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง ตราบจนกระทั่งจะหาย พบว่าได้ผลลัพธ์ที่ดี แม้กระนั้นไม่ค่อยได้ผลในขี้กลากที่ผมแล้วก็เล็บ
รักษาฝีแผลพุพอง ใช้ใบชุมเห็ดเทศ 1 กำมือ ต้มกับน้ำพอเพียงท่วม ต้มให้เหลือ 1 ใน 3 นำมาชะล้างฝีที่แตกแล้ว หรือแผลพุพอง วันละ 2 ครั้งเช้าตรู่ เย็น หากบริเวณที่เป็นกว้างมากใช้สมุนไพร 10-12 กำมือ ต้มกับน้ำใช้อาบยามเช้าเย็น จวบจนกระทั่งจะหาย
ใช้ใบสดตำพอก เพื่อเร่งให้หัวฝีออกเร็วขึ้น หรือจะใช้ใบผสมกับน้ำปูนใสหรือเกลือหรือน้ำมันตำพอก รักษากลาก แมลงสัตว์กัดต่อย โรคผิวหนัง ยิ่งไปกว่านี้ยังคงใช้ใบตำพอกหรือคั้นเอาน้ำผสมน้ำปูนใสทาหรือผสมวาสลิน ใช้ทำเป็นยาขี้ผึ้งทาได้อีกด้วย
ส่วนยาจากสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติที่แนะนำให้ใช้เป็น รับประทานทีละ 1 – 2 ซอง (ใบชุมเห็ดเทศแห้งซองละ 3 กรัม) (3 – 6 กรัม) ชงในน้ำเดือด 120 มิลลิลิตร นาน 10 นาที วันละ 1 ครั้งกระโน้นนอน บรรเทาท้องผูก
การศึกษาทางเภสัชวิทยา
ฤทธิ์กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ สารสกัดจากใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำขนาดเท่ากันผงใบชุมเห็ดเทศแห้ง 5 กรัม/กิโลกรัม ทำให้ลำไส้เล็กส่วนปลายของหนูตะเภาหดตัวได้ปริมาณร้อยละ 25 ของฤทธิ์จากฮีสตามีน 1 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำขนาดเสมอกันผงใบชุมเห็ดเทศแห้ง 10 และ 20 กรัม/กิโลกรัม ส่งผลเพิ่มการเคลื่อนไหวของลำไส้ของหนูเม้าส์ได้มากกว่ากลุ่มควบคุมอย่างเป็นจริงเป็นจัง สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำในขนาด 15 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ทำให้ลำไส้เล็กส่วนปลายของหนูตะเภาหดตัวได้ในหลอดทดสอบ ตอนที่สารกลัยโคไซด์จากใบชุมเห็ดเทศมีฤทธิ์กระตุ้นกล้ามเนื้อเรียบในไส้
ฤทธิ์สำหรับการรักษาอาการท้องผูก เมื่อให้สารสกัดจากใบชุมเห็ดเทศแห้งด้วยน้ำร้อนกับหนูแรททางปากในขนาด 500 และก็ 800 มก./โล พบว่ามีฤทธิ์ช่วยระบาย รวมทั้งเมื่อให้สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำกับหนูเม้าส์ทางปากในขนาดเทียบเท่าผงใบชุมเห็ดเทศแห้ง 5, 10 แล้วก็ 20 กรัม/กก. จะมีผลให้หนูเม้าส์ถ่ายเหลว โดยการให้ในขนาดต่ำ (5 กรัม/กก.) จะออกฤทธิ์ช้ากว่าในขนาดสูง (10 และ 20 กรัม/โล) สาร anthraquinone glycoside จากใบอาทิเช่น isocrysophanol, physcion-l-glycoside, chrysophanol, emodine, rhein, แล้วก็ aloe-emodin มีฤทธิ์เป็นยาถ่าย
ฤทธิ์ต้านทานเชื้อจุลชีพ สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำ สารสกัดด้วยเอทานอล สารสกัดด้วยเมทานอล รวมทั้งสาร aloe-emodin, rhein emodol, 4,5-dihydroxy-1-hydroxymethylanthrone, 4,5-dihydroxymethylanthraquinone และก็ chrysophanol จากใบชุมเห็ดเทศ มีฤทธิ์ต้านทานเชื้อราที่ผิวหนังตัวอย่างเช่น Epidermophyton floccosum , Microsporium gypseum, Trichophyton rubrum , T. mentagrophytes แล้วก็ M. canis เมื่อเทียบกับยา tolnaftate สารสกัดด้วยน้ำและเอทานอลจากเปลือกต้นชุมเห็ดเทศสามารถยับยั้งเชื้อยีสต์ Candida albicans ได้ โดยที่ความเข้มข้น 30 ไมโครกรัม/ไมโครลิตร จะให้ผลดีเมื่อเปรียบเทียบกับยา ticonazole 30 ไมโครกรัม/ไมโครลิตร แต่สารสกัดจากใบด้วยน้ำแล้วก็เอทานอลไม่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อยีสต์ น้ำมันหอมระเหยจากใบชุมเห็ดเทศ สารสกัดจากเปลือกต้นด้วยเมทานอล มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย Bacillus subtilis ในจานเพาะเชื้อได้ปานกลาง สารสกัดด้วยน้ำจากใบชุมเห็ดเทศสามารถยับยั้งเชื้อ Escherichia coli ในจานเพาะเลี้ยงเชื้อได้ที่ความเข้มข้นมากกว่า 21.8 มก./มิลลิลิตร
ผลของการวิจัยทางสถานพยาบาล (clinical pharmacology) การศึกษาฤทธิ์สำหรับการรักษาอาการท้องผูก การเรียนทางคลินิกแบบสุ่มมีกลุ่มควบคุมระหว่างชงชาชุมเห็ดเทศ มิสท์แอลบา และก็ยาหลอก ในโรงพยาบาลชุมชน 5 ที่ และโรงหมอทั่วไป 1 แห่ง ผู้ป่วยที่ไม่อึติดต่อกันเกิน 72 ชั่วโมง ปริมาณ 80 ราย แบ่งเป็น 3 กรุ๊ป กรุ๊ปแรก รับยาหลอกเป็นน้ำ เพิ่มสีคาราเมล 120 มิลลิลิตร ปริมาณ 28 ราย กรุ๊ปลำดับที่สองรับยามิสท์แอทบา 30 มิลลิลิตร น้ำ 90 มิลลิลิตร จำนวน 28 รายรวมทั้งกรุ๊ปลำดับที่สามรับน้ำละลายชุมเห็ดเทศ ได้จากการชงผงชุมเห็ดเทศปริมาณ 3-6 กรัม ในถุงที่ทำจากกระดาษ แช่ในน้ำเดือด 120 มล. นาน 10 นาที จำนวน 24 ราย คนไข้อีกทั้ง 3 กลุ่มมีลักษณะไม่แตกต่างกัน ได้รับยารับประทานก่อนนอนประเมินผลจากการขี้ไหมอึข้างใน 1 วัน พบว่า เห็นผลขี้ภายใน 24 ชั่วโมง ร้อยละ 18,86 รวมทั้ง 83 เป็นลำดับ ซึ่งพบว่าผลของกรุ๊ปชุมเห็ดเทศรวมทั้งมิสท์แอลบาดีกว่ายาหลอกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติแต่เจออาการท้องเสียในกลุ่มที่ได้รับมิสท์แอลบามากกว่า ผู้ป่วยกรุ๊ปที่ได้รับชุมเห็ดเทศมีความชอบใจมากยิ่งกว่ายาหลอก สรุป ยาชงชุมเห็ดเทศมีคุณภาพที่ดีสำหรับการรักษาอาการท้องผูก
ส่วนอีกการทดสอบหนึ่งพบว่าเมื่อผสมผงใบชุมเห็ดเทศในของกินในขนาดจำนวนร้อยละ 2 แล้วก็ 10 ของอาหาร แล้วให้หนูแรทรับประทานนาน 4 อาทิตย์ จะเจอแผลในลำไส้ ตับ รวมทั้งไต แล้วก็มีระดับฮีโมโกลบินและก็ packed cell volume (PCV) สูงขึ้น แม้กระนั้นจำนวนเม็ดเลือดแดงน้อยลงใน 2 สัปดาห์แรก เมื่อใส่สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยเอทานอลขนาด 100 มก.ในน้ำดื่มให้หนูแรทรับประทานนาน 14 วัน พบว่าเกิดแผลในตับ เซลล์ตับตายขจัดขจายและมีการคั่งของเลือดในเส้นเลือดดำ การฉีดสารemodin แล้วก็ kaemferol ขนาด
10 มก. เข้าท้องหนูแรทต่อเนื่องกัน 14 วัน หรือฉีดสาร aloe-emodin ขนาด 100 มิลลิกรัม สาร rhein ขนาด 70 มิลลิกรัม เข้าท้องนาน 4 วัน พบว่ากำเนิดแผลในตับของหนูทุกกรุ๊ป กรุ๊ปที่ได้รับ aloe-emodin จะพบเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย หนูทุกกรุ๊ปหรูหราฮีโมโกลบิน รวมทั้ง PCV ลดลงภายใน 14 วัน เมื่อป้อนสารสกัดจากใบด้วยน้ำขนาด 10, 50, 100 และก็ 250 มก./กิโลกรัม ให้หนูแรทนาน 14 วัน จะเจอระดับฮีโมโกลบินและ เม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้น ในเวลาเดียวกันหนูมีอาการไม่อยากอาหาร ผอมแห้งและน้ำหนักลด
การเล่าเรียนในผู้ป่วยที่เป็นโรคกลากรวมทั้งเกลื้อนสารสกัดจากใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์และก็ครีมชุมเห็ดเทศเข้มข้นจำนวนร้อยละ 20 สามารถรักษาคนไข้โรคกลาก 30 ราย รวมทั้งโรคเกลื้อน 10 ราย ได้ดิบได้ดีเสมอกันกับยาขี้ผึ้ง whitfield แต่ว่าไม่เป็นผลรักษาราที่เล็บและก็หนังหัว ยาเตรียมชุมเห็ดเทศในแบบอย่างทิงเจอร์แล้วก็ครีม(ซึ่งมีสารสำคัญ rhein 600 ไมโครกรัม/กรัม) ให้ผลสำหรับเพื่อการรักษาผู้ป่วยโรคกลากเกลื้อนที่ผิวหนังได้เหมือนกันกับยาครีมวัวลไตรมาโซลปริมาณร้อยละ 1 สารสกัดใบชุมเห็ดเทศสดด้วยน้ำ (ใบสด 100 กรัมต่อน้ำ 50 มิลลิลิตร) ความเข้มข้นปริมาณร้อยละ 100 ทาบริเวณแขน และขา หรือความเข้มข้นจำนวนร้อยละ 90 ทาบริเวณคอ และก็มือ และความเข้มข้นจำนวนร้อยละ 80 ทาบริเวณหน้า วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน 2 ชั่วโมง ส่งผลรักษาโรคขี้กลากเกลื้อนชนิด Pityraisis versicolor ที่เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากเชื้อรา Malassezia furfur ในผู้ป่วยจำนวน200 คนได้
การเรียนทางพิษวิทยา การทดสอบความเป็นพิษ การทดสอบความเป็นพิษทันควัน พบว่าสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์จำนวนร้อยละ 50 ในขนาด 15 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโล ไม่มีพิษเมื่อให้หนูเม้าส์ทางปากและฉีดเข้าใต้ผิวหนัง แม้กระนั้นมีความเป็นพิษนิดหน่อยเมื่อฉีดเข้าทางท้องหนูเม้าส์ แล้วก็เมื่อฉีดสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์จำนวนร้อยละ85 เข้าทางช่องท้องหนูเม้าส์ในขนาด 2 กรัม/โลก็ไม่เจอความเป็นพิษ สารสกัดจากใบด้วยน้ำและก็สารสกัดจากส่วนเหนือดินของชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ปริมาณร้อยละ 50 มีความเป็นพิษปานกลางเมื่อฉีดเข้าทางช่องท้องหนูเม้าส์
โดยขนาดของสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ร้อยละ 50 ที่ทำให้หนูถีบจักรตายร้อยละ 50 (LD50) เป็น ขนาดที่ให้ทางปากและก็ทางผิวหนังมากยิ่งกว่า 15 กรัมต่อกก.รวมทั้งทางช่องท้อง 8.03 กรัมต่อกิโลกรัม
การทดลองพิษครึ่งหนึ่งเรื้อรังของผงใบชุมเห็ดเทศในหนูขาววิสตาร์ 4 กลุ่ม กรุ๊ปละ 24 ตัว (เพศผู้ 12 ตัว เพศเมีย 12 ตัว) เป็นกรุ๊ปควบคุมแล้วก็กรุ๊ปที่ได้รับยาทางปากขนาด 0.03 , 0.15 รวมทั้ง0.75 กรัมต่อกก.ต่อวัน (ซึ่งเทียบได้กับได้รับ 1 5 แล้วก็ 25 เท่า ของขนาดที่รักษาในคน) ผลเป็น ไม่พบพิษทุกกรุ๊ป มีการเจริญเติบโตปกติการตรวจทางโลหิตวิทยารวมทั้งชีวเคมีปกติ ไม่พบพยาธิสภาพและจุลพยาธิวิทยาของอวัยวะภายในที่แตกต่างจากปกติ
พิษต่อระบบขยายพันธุ์ เมื่อฉีดสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ปริมาณร้อยละ 50 เข้าท้องหนูแรทในขนาด 125 มิลลิกรัม/กิโล ไม่มีผลทำให้แท้งและไม่เจอพิษต่อตัวอ่อนแม้กระนั้นผลต่อการเปลี่ยนแปลงของรอบเดือนไม่ชัดแจ้ง ส่วนสารสกัดจากใบด้วยน้ำขนาด300ไมโครกรัม/มล. มีฤทธิ์ทำให้มดลูกหนูแรทหดตัวในหลอดทดลองและมีฤทธิ์เสริม oxytocin
พิษต่อเซลล์ การทดสอบความเป็นพิษต่อเซลล์โดยใช้ brine shrimp พบว่าสารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยน้ำในขนาด 7.74 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ทำให้ brine shrimp ตายไปกึ่งหนึ่ง รวมทั้งสารสกัดนี้มีความเป็นพิษต่อเซลล์ Vero โดยความเข้มข้น 1,414 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ทำให้เซลล์ Vero ตายไปกึ่งหนึ่ง
ฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ สารสกัดใบชุมเห็ดเทศด้วยเอทานอล มีผลก่อกลายพันธุ์ในSalmonella typhimurium strain TA98 และพบว่าสารสกัดชุมเห็ดเทศด้วยแอลกอฮอล์ มีฤทธิ์ก่อกลายพันธุ์ S. typhimurium strain TA98 และTA100 โดยสำหรับการออกฤทธิ์ต้องการโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีจากตับหนูกระตุ้นการออกฤทธิ์
ข้อเสนอ/ข้อพึงระวัง

1. ระมัดระวังการใช้ในเด็กอายุต่ำลงยิ่งกว่า 12 ปี คนป่วย inflammatory bowel disease แล้วก็ภาวะทางเดินอาหารตัน คนวัยชรา หญิงให้นมลูก เนื่องด้วยสารmetabolite บางตัวอย่างเช่น rhein ถูกคัดเลือกหลั่งทางทะเลนม
2. ควรใช้ยาระบายเป็นครั้งเป็นคราว ไม่สมควรใช้ต่อเนื่องกัน เนื่องจากสารแอนทราควิโนนในใบชุมเห็ดเทศ มีฤทธิ์ทำให้ไส้บีบตัวและก็ขยับเขยื้อนเร็ว ใช้ติดต่อนานจะทำให้ไส้คุ้นชินต่อการใช้ยา ต่อไปหากไม่ใช้จะก่อให้ไส้ไม่บีบตัวไม่เคลื่อนกำเนิดอาการท้องผูกhttps://www.disthai.com/
3. การรับประทานยาในขนาดสูงอาจจะส่งผลให้เกิดไตอักเสบ มีเลือดหรือโปรตีนในฉี่มากยิ่งกว่าธรรมดา
4. การใช้ตลอดนานๆอาจมีผลลดปริมาณเม็ดเลือดแดง และก็ฮีโมโกลบิตและก็อาจก่อให้กำเนิดแผลที่ตับ
5. การใช้สม่ำเสมอในขนาดสูงนานๆบางทีอาจกำเนิดระบบการดูดซึมผิดปกติ มีการดูดกลับของเหลวต่ำลง เกิดภาวะระดับโพเทสเซียมและก็แคลเซียมในเลือดต่ำ
6. ห้ามใช้ในสตรีตั้งท้อง
7. การใช้ชุมเห็ดเทศในขั้นแรกๆอาจก่อให้เกิดอาการไม่ประสงค์ เช่น ลักษณะของการปวดมวนท้องเพราะว่าการบีบตัวของลำไส้ใหญ่และอาจมีอาการอ้วก อาหารไม่ย่อยรวมทั้งปวดท้องได้
เอกสารอ้างอิง
1. เภสัชกรชัยโย ชัยชาญทิพยุทธ.ชุมเห็ดไทย/ชุมเห็ดเทศ.คอลัมน์ สมุนไพรน่าสนใจ.แมกกาซีนหมอประชาชน.เล่มที่ 26 .กรกฎาคม .2524
2. ฉัตรโย สวัสดิไชย,สุรศักดิ์ อิ่มใหม่.ชุมเห็ดเทศ.ยาน่ารู้.นิตยสารศูนย์การเล่าเรียนแพทยศาสตร์สถานพยาบาล โรงพยาบาลพระปกเกล้า.ปีที่ 34 ฉบับที่4.เดือนตุลาคม-ธันวาคม.2560 หน้า.352-355
3. ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม.“ชุมเห็ดเทศ”. หนังสือพจนานุกรมสมุนไพรไทย, ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 5. หน้า 271-274.
4. เปี่ยม บุณยะโชติ. หนังสือเรียนโบราณว่าด้วยโรคเด็กและก็คุณผู้หญิง. กรุงเทพฯ: สถานที่พิมพ์เฟื่องอักษร, 2514. หน้า 39.
5. กองศึกษาค้นคว้าด้านการแพทย์. สมุนไพรท้องถิ่น ในตอนที่ 1. กรุงเทพมหานคร: กรมวิทยาศาตร์การแพทย์. กระทรวงสาธารณสุข, 2526. หน้า 34.
6. ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละระอุปต์. “ชุมเห็ดเทศChumhet Tet)”. หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1 หน้า 108.
7. พระเทวดาใสจอม. ตำราเรียนยากลางบ้าน. จังหวัดกรุงเทพมหานคร: สถานที่พิมพ์มงกุฏราชวิทยาลัย, 2524. หน้า 140.
8. ชุมเห็ดเทศ.ฐานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
9. วิทยา บุญวรพัฒน์. “ชุมเห็ดเทศ”. หนังสือสารานุกรมสมุนไพรไทย-จีนที่ใช้บ่อยในประเทศไทย. หน้า 208.
10. เภสัชกรหญิง จุไรรัตน์ เกิดดอนแฝก. “ชุมเห็ดเทศ”. หนังสือสมุนไพรบรรเทาโรคเบาหวาน 150 ประเภท. หน้า 74-75.
11. (คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล). “ชุมเห็ดเทศ Ringworm Bush”. หนังสือสมุนไพรสวนสิรีต้นไม้. หน้า 75.
12. ชุมเห็ดเทศ.ฐานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
13. คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา. บัญชียาจากสมุนไพร พ.ศ. 2549 ตามประกาศคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2549 เรื่องบัญชียาหลักแห่งชาติพ.ศ. 2547 (ฉบับที่ 4). จังหวัดกรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์รวมกันสหกรณ์การกสิกรรมแห่งเมืองไทยจำกัด, 2549
14. วันดี กฤษณพันธ์ แม้สรวง วุฒิอุดมยอดเยี่ยม มัลลิกา ตรีเดช สุภาวี อาชวาคม. การศึกษาฤทธิ์ต่อต้านเชื้อราของสารแอนทราควิโนนจากใบชุมเห็ดเทศ. การสัมมนาวิชาการวิทยาศาสตร์และก็เทคโนโลยีแห่งเมืองไทย ครั้งที่ 24, 19-21 เดือนตุลาคม ณ. ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ กรุงเทพฯ, 2541.
15. Harrison J, Garro CV. Study on anthraquinone derivatives from Cassia alata L. (Leguminosae). Rev Peru Bioquim 1977;(1):31-2.
16. จินตนาการ สุทธชนาความรื่นเริง แล้วก็ภาควิชา. ฤทธิ์ต้านเชื้อราของใบชุมเห็ดเทศ. รวมข้อคัดย่อการวิจัยการแพทย์แผนไทยและทิศทางการศึกษาเรียนรู้ในอนาคต สถาบันการแพทย์แผนไทย, 2543.
17. Akah PA. Abortifacient activity of some Nigerian medicinal plants. Phytother Res 1994;8(2):106-8.
18. Plengvidhya P, Suvagondha C. A study of diagnostic contents of leaves of some members in genus Cassia. J Pharm Assoc Siam, Third series 1957;10(1):10-2.
19. เกษร นันทจิต. ฤทธิ์ต่อต้านจุลินทรีย์ของใบชุมเห็ดเทศ (Cassia alata Linn.). รายงานการวิจัย ที่ทำการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ, 2538.
20. เสาวลักษณ์ พงษ์งดงาม. ฤทธิ์ต่อต้านจุลชีวันของสารสกัดจากพืชสกุล Cassia sp. รายงานการวิจัย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ, 2543.
21. Thamlikitkul V, Dechatiwonges T, Chantrakul C, et al. Randomized controlled trial of Cassia Alata Linn. for constipation. J Med Assoc Thai 1990;73(4):217-21.
22. Mokkhasmit M, Swatdimongkol K, Satrawaha P. Study on toxicity of Thai medicinal plants. Bull Dept Med Sci 1971;12(2/4):36-65.
23. Rao JVLN, Sastry PSR, Poa RVK, Vimaladevi M. Occurrence of kaempferol and aloe-emodin in the leaves of Cassia alata. Curr Sci 1975;44(20):736-7.
24. ท้องนาถฤดี สิทธิสมตระกูล ทรงพล ชีวะพัฒน์ เอมใจ หวังหมัด สุลูกหญิง ไชยราช พัชรินทร์ รักษามั่น จรินทร์ จันทรฉายะ. พิษของใบชุมเห็ดเทศ. นิตยสารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์2534;33(4):145-54.
25. Somchit MN, Reezal I, Nur



โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี

สรรพคุณเเละประโชน์ ชุมเห็ดเทศ
« เมื่อ: ธันวาคม 20, 2018, 10:04:38 AM »
SEO