จอภาพคอมพิวเตอร์ถือเป็นอีกอุปกรณ์ที่จำเป็นจะต้องใช้ความรอบคอบในการเลือกซื้อ เพื่อที่ถ้าต้องการจอภาพคอมคุณภาพดี มีภาพชัด สีสดใส และรูปภาพไม่สะดุดไม่ขาดตอนมาทำงานหนึ่งตัวจำเป็นต้องพิจารณาเหตุปัจจัยหลายอย่าง ที่มีผลกับการเลือกคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ซักตัว อย่างไรก็ตามสำคัญที่สุดเป็นลักษณะการทำงานสำหรับทุกคนว่าเอาจอภาพคอมไปใช้ร่วมกับการใช้งานไหน อย่างเช่น ทำงานเอกสาร ทำงานตัดต่อ หรือใช้เล่นเกมส์ โดยที่วัตถุประสงค์เพื่อทำงานที่ต่างกันก็ส่งผลให้เหตุผลที่มีผลกระทบสำหรับตัดสินใจซื้อไม่เหมือนกันเช่นกัน
เริ่มที่ที่จำเป็นต้องทราบเรื่องการเลือกซื้อหน้าจอคอม เป็น ประเภทของจอภาพคอมพิวเตอร์โดยจะมีอยู่ทั้งสิ้น 3 แบบตัวอย่างเช่น
- Cathode Ray Tube หรือว่าเรียกว่า CRT ถือเป็นจอภาพไซต์ใหญ่ที่มีหลอดสูญญากาศ อยู่ด้านใน โดยใช้การยิงแสงอิเล็กตรอนไปยังที่ผิวหน้าจอ มีฟอสฟอรัสทาอยู่ตรงพื้นที่เพื่อเกิดภาพออกมาเมื่อสารนี้มีการเรืองแสงขึ้นมา โดยปัจจุบันได้ล้มเลิกใช้งานจอนี้กันไปแล้ว เนื่องจาก มีสัดส่วนใหญ่ อุณหภูมิมากๆแล้วยังกินไฟอีกด้วย
- Liquid Crystal Display หรือที่เรียกกันว่า หน้าจอ LCD จอภาพแบบนี้ถูกการพัฒนามาจากจอแบบ CRT ที่ทุกวันนี้ไม่ได้ใช้กันไปแล้ว ได้รับดีไซน์ออกมาบาง พร้อมทั้งไซต์เล็ก มีความคมชัดและสีชัดหลักการทำงานคือ เกิดจากการที่ยิงแสงไฟ Black Light หรือว่าไฟที่อยู่หลังจอรับภาพทางชั้นกรองแสง หลังจากนั้นสู่ยังคริสตัลเหลวที่ถูกวางพร้อมกัน 3 เซลล์คือ แสงไฟสีแดง แสงสีเขียวพร้อมกับแสงไฟสีนํ้าเงิน จนเปลี่ยนเป็นพิกเซลที่เห็นบนจอแสดงผล หน้าจอ LCD ยังแบ่งออกได้ 2 ประเภทก็คือ Passive Matrix และ Active Matrix จุดแข็งสำหรับจอภาพ LCD คงจะเป็น เซฟไฟฟ้ามากกว่าหน้าจอแบบเก่า ด้านข้อเสียเป็น ภาพแคบเป็นเหตุให้ไม่สามารถมองได้รอบๆทาง
- Light Emitting Diode หรือว่า LED ที่ชื่อเรียกอีกชื่อว่า OLED (Organic Light Emitting Devices) คือการเอาหลอดไฟ LED มาจัดเรียงให้เป็นแถบ ก็เพราะว่ามีอัตราปฏิกิริยาจากรูปว่องไวกว่าประเภทอื่นเลยทำให้ได้สีพร้อมกับรูปที่ชัดอย่างมาก ตอนนี้จอภาพ OLED ใช้งานอย่างมากมายมากขึ้นเพราะคือจอรับภาพรุ่นใหม่มากกว่าจอภาพ LCD แล้วยังสันบสนุนให้ประหยัดพลังงาน พร้อมทั้งได้รูปในมุมมองกว้างกว่าจอแบบอื่นๆ
หลังจากนั้นเป็นประเด็นที่ควรจะสังเกตสำหรับซื้อจอภาพคอม อย่างแรกเป็นขนาดหน้าจอ พร้อมด้วยความชัดเจนสำหรับภาพ ควรจะเลือกสัดส่วนจอภาพ 20 นิ้วขึ้นไปเพื่อที่จะสามารถทำงานแบบหลากหลายกว่า ส่วนความละเอียดควรดูในระดับ Full HD หรือว่า 1980x1080 ที่สามารถได้รูปสวยงามละเอียด ถัดมาคือการแลดูอัตราส่วนสำหรับจอ ครั้งนี้เกิดการผลิตหน้าจอไซต์ 16:9 16:10 รวมถึง 4:3 โดยที่มาตราส่วนพวกนี้คือมาตราส่วนสำหรับจอภาพลักษณะความยาวเทียบกับความสูง โดยที่กลุ่ม 16:9 รวมทั้ง 16:10 ถือเป็นหน้าจอ Wide Screen มุ่งเน้นความกว้าง เหมาะกับการทำงานที่นำมาใช้เนื้อที่ด้านข้างยิ่งกว่า อย่างเช่น โปรแกรมกราฟิก หรือว่าการเอาไว้ชมหนังด้วยอัตราส่วนของโรงภาพยนตร์ คือ ทัศนียภาพใหญ่มาก ในด้านมาตราส่วน 4:3 คือแบบจอภาพโทรทัศน์โดยปกติ ต่อมาคือประเด็นจาก Response Time กับ Refresh Rate ตัวเลข Response Time ควรซื้อประกอบด้วยค่าต่ำๆ ก็จะประสิทธิภาพดี ช่วงนี้ตัวเลขที่ชอบก็เป็น 5-2 ms ประเภท Refresh Rate ควรจะเลือกซื้อตัวเลขมากๆ ยิ่งสูงยิ่งดี ตอนนี้ตัวเลขทั่วๆ ไปที่นำมาใช้กันเป็น 60 Hz
ถัดจากนั้นก็คือเกี่ยวกับเกี่ยวกับการตรวจสอบจอรวมทั้งการรับรอง Dead Pixel คือบางคราวจอภาพเป็นไปได้ว่าเป็นจุดเสียหายจากการในส่วนที่ขึ้นสีสันไม่บริบูรณ์ทุกส่วนของจอภาพที่เรียกว่าการรับรองจุดพังบนจอแสดงผล ยิ่งการันตีที่ dot น้อยยิ่งดี หากว่าเกิด Dead Pixel เพียงจุดเดียวก็สามารถเคลมจอภาพอีกรอบได้ ก่อนจะเลือกซื้อควรจะตรวจดู Dead Pixel อย่างเรียบร้อยก่อน โดยที่วิธีเช็คก็เป็น ใช้หน้าจอแสดงสีสันทั่วทั้งหน้าจอกลายเป็นหนึ่งสี เช่น แดง น้ำเงิน เขียว เหลือง แล้วค่อยพิจารณาว่ามีจุดเสียหรือเปล่าถ้าหากพบให้รีบบอกพนักงานแล้วจึงสับเปลี่ยนตัวใหม่ตอนนี้ ในที่สุดมีเทคโนโลยีใหม่เกี่ยวกับจอภาพคอมคือ IPS หรือ In-Plane Switching เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยรูปและสีออกมาน่าเชื่อถือกว่าเก่าแล้วยังช่วยให้เป็นทัศนียภาพจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ดีขึ้นอีกด้วย เทคโนโลยี IPS สมัยนี้ทำให้ประสบได้กับหน้าจอโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือจอแสดงผลแท็บเล็ตอีกด้วย
จะเห็นว่า ถ้าหากคุณรู้ลักษณะการใช้งานเกี่ยวกับตัวเองจากนั้นนำมาเปรียบเทียบกับการตัดสินใจซื้อ
จอคอมพิวเตอร์มาเพื่อที่จะใช้ต่อจากนั้นการเลือกซื้อหน้าจอคอมที่เหมาะสมกับการใช้เลยไม่ใช่สิ่งที่ยากรวมทั้งระยะช่วงนี้หน้าจอคอมพิวเตอร์ได้โดนพัฒนาเพื่อจะออกมาใช้ความอยากของผู้ใช้ได้ดีมากอีกด้วย
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
จอคอมพิวเตอร์ ราคาTags : จอคอมพิวเตอร์,จอคอมพิวเตอร์ ราคา,จอคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อไหนดี
