เจ้าของแบรนด์ “ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์” กลับโฉมขนมไทยโบราณรูปแบบใหม่รับเทรนด์สุขภาพ ด้วยขนมครกประเทศสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) 100% ในราคาสบายๆกล่องละ 40 บาท พร้อมตั้งเป้าหมายขายแฟรนไชส์สไตล์แคะเพลินเงินล้นมือ มากยิ่งกว่า 10 สาขา ด้านในปี 2562 "
แป้งขนมครกสำเร็จรูป "
หลังจากขนมไทยโบราณภายใต้แบรนด์ “ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์” ที่เปิดให้คนประเทศไทยได้ลิ้มรสสัมผัสขนมครกประเทศสิงคโปร์ กว่า 10 รสที่แสนอร่อยมา 7 เดือนแล้ว ที่ซอกซอยพลเมืองบำเพ็ญ 23 แน่ๆว่าไม่ใช่แค่ลูกค้าสิ่งเดียวที่ตอบรับกับขนมครกสิงคโปร์ทุกรสชาติ แต่กลับมีผู้พึงพอใจติดต่อเข้ามาขอซื้อแฟรนไชส์กันอย่างล้นหลาม ทำให้ยอดจำหน่ายเติบโตขึ้นอย่างสม่ำเสมอ นับว่าประสบผลสำเร็จในตอน 5 เดือนแรกอย่างยิ่งจริงๆ " ขนมเขียวใบเตย "
เข้าชม Fanpage ของเราได้ที่นี่ >>
https://www.facebook.com/thachangthaidessert >> “หยอด-แคะ-รับตังค์” แฟรนไชส์ขนมครกเพื่อคนขี้คร้าน
ปัจจุบันคุณใบพัด-อธิษฐ์พัชร นิพิษฐางาม ผู้ครอบครองแบรนด์ ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์ ได้ต่อยอดขนมไทยด้วยการพัฒนาสูตร ครกประเทศสิงคโปร์เพื่อสุขภาพ หรือเรียกกันชินปากว่า Vegan (วีแกน) Sanook! Money จึงไม่พลาดที่จะอัพเดทเรื่องราวดีๆมาฝากกัน " ขนมครกสิงคโปร์ "
ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์ เปิดขายไม่ถึงปี สร้างยอดขายเดือนละแสน
คุณใบพัด-อธิษฐ์เพชร นิพิษฐาเจริญ เจ้าของแบรนด์ ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์ พูดว่า ภายหลังที่ขายขนมครกประเทศสิงคโปร์ในช่วง 5 เดือนแรก มียอดจำหน่ายมากขึ้น 20% อยู่ที่ราว 50,000 – 100,000 บาทต่อเดือน ซึ่งยอดขายดังกล่าวมาแล้วข้างต้นมาจากการซื้อทั้งยังหน้าร้าน, Line Man และงานอีเว้นท์ต่างๆโดยมีทั้งยังลูกค้าประจำแล้วก็ลูกค้าใหม่มากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย
ตอนนี้ ทางแบรนด์ได้ลงทุนแตกไลน์ขนมครกประเทศสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) เพื่อเจาะตลาดสุขภาพในไทยเยอะขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ท้าในฐานะผู้ประกอบกิจการขนาดเล็ก " ขนมไทย "
- ผุดไอเดีย ขนมครกสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) จากเสียงเรียกร้องของลูกค้า -
คุณใบพัด เล่าถึงแรงดลใจของขนมครกสิงคโปร์เพื่อสุขภาพนั้น มาจากความปรารถนาของกรุ๊ปลูกค้าขาประจำ รวมทั้งกลุ่มคนรักสุขภาพที่อยู่ในช่วง 25-40 ปี สอบถามหาขนมครกประเทศสิงคโปร์สูตรหวานน้อย เพราะว่ากลุ่มลูกค้าจะวิตกกังวลถึงน้ำหนัก ถ้าเกิดรับประทานในจำนวนมาก ประกอบกับหลายท่านเสนอแนะให้ทดลองทำขนมไทยเพื่อสุขภาพ ก็เลยตกลงใจไปหาผู้รู้และเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการโภชนาการมาเป็นที่ปรึกษา รอเปลี่ยนแปลงวัตถุดิบใหม่ทั้งหมด จากสูตรเดิมที่ใช้ น้ำตาล ไข่ น้ำกะทิ แป้ง แปลงมาตัดส่วนประกอบ อย่าง ไข่ ออกไป ส่วนแป้ง และกะทิ สั่งผลิตวัตถุดิบจากโรงงานที่มีการรับประกันมาตรฐาน Halal, GMP และก็ HACCP และน้ำตาลที่ใช้จะเป็นของที่มีคุณภาพสูง ผสมรวมกับวัตถุดิบอื่นๆในรูปร่างที่เหมาะสม ตามสูตรที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการโภชนาการได้คํานวนอีกทั้งรูปร่างไว้ โดยขนมครกสิงคโปร์ 1 คำควรมีเนื้อสัมผัสทั้งยัง กรอบ หวานน้อย เพื่อให้ขนมครกประเทศสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) ตามมาตรฐาน มีรสชาติเนื้อสัมผัสที่อร่อย รวมทั้งมีคุณค่าทางโภชนาการ ตอบโจทย์ฝูงชนรักสุขภาพเยอะขึ้นเรื่อยๆ " ขนม vegan "
นอกจากนั้น คุณใบพัด คิดว่า เมื่อขนมครกสิงคโปร์เข้าสู่กรรมวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐานจะตัดปัญหาหัวข้อการจัดส่งแล้วก็การรักษาวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี เพราะเหตุว่ามีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้น และก็จัดเตรียมที่จะลงบัญชี Halal ในเร็วๆ
“ของหวานสูตรวีแกน (Vegan) ทำได้ยากกว่าขนมสูตรทั่วๆไป ด้วยเหตุว่าควรมีการลงทุน อีกทั้งเนื้อหาออกจะมากมาย ที่สำคัญ ตัวขนมไทยโบราณต้องมีค่าทางโภชนาการและได้มาตรฐานอีกด้วย ถึงจะยืนยันได้ว่าเป็นขนมไทยโบราณเพื่อสุขภาพ 100% อย่างแท้จริง” ใบพัด กล่าว
“หวานน้อย กรอบนอก นุ่มใน” กลเม็ดความอร่อยของขนมครกประเทศสิงคโปร์เพื่อสุขภาพ
คุณใบพัด บอกว่า ทางแบรนด์ได้เริ่มทดลองขนมครกประเทศสิงคโปร์เพื่อสุขภาพเมื่อก.ย.ก่อนหน้าที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ได้สูตรขนมครกสิงคโปร์ที่ลงตัวซึ่งก็คือ หวานน้อย กรอบนอก นุ่มใน และก็เริ่มขายในเดือนตุลาคมในปีเดียวกัน ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับมากกว่าเดิม เนื่องจากว่ามีการปรับของหวานให้ดูมีสีสันและประหลาดตาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญยังเป็นการแชร์ความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพให้กับลูกค้าอีกด้วย ตอนนี้ทางแบรนด์มีขนมครกประเทศสิงคโปร์ทั้งหมดทั้งปวง 6 รสชาติ เช่น ใบเตย, มะพร้าว, ชาเขียว, มันม่วง, ช็อกโกแลต และก็ชาไทย ส่วนรสเดิมที่มีความหวานอย่าง สตอร์เบอร์ปรี่ ถูกเอาออกไป ทั้งยังยังมีการเพิ่มเนื้อสัมผัสของของหวานด้วยหน้าต่างๆซึ่งมีมากกว่า 10 จำพวก อาทิเช่น เมล็ดแฟลกซ์ (Flax seed), อัลมอนด์, ข้าวโอ๊ต, ถั่วแดง, ถั่วทอง, งาดำ, แปะก๊วย, ข้าวโพด, ลูกเกด, ข้าวบาเลย์, เผือก, มันม่วง,ข้าวเหนียวดำ, ลูกเดือย, กราโนล่า และข้าวเหนียวมะม่วง เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเสริมให้ขนมครกสิงคโปร์มีรสชาติที่อร่อยลงตัวพอดี
ซึ่งถัดไปลูกค้าจะสามารถเลือกผสมหน้า Topping ในขนมครกประเทศสิงคโปร์ต่างๆได้ด้วยตนเอง ส่วนราคาขายยังเท่าเดิม โน่นเป็น กล่องละ 40 บาท แต่เป็นการเพิ่มลู่ทางให้กับลูกค้าได้ประโยชน์เยอะขึ้นเรื่อยๆ
“ส่วนสำคัญของการพัฒนาขนมครกสิงคโปร์สูตรวีแกน (Vegan) คือไม่หวาน ไม่มีไขมันทรานส์ แล้วก็ต้องอร่อย” ใบพัด กล่าว
ยิ่งไปกว่านี้ ยังมีขนมครกสิงคโปร์หน้า ณ หน้าทองคำ โดยใช้ทองคำบริสุทธ์ใช้ทองคำแท้บริสุทธิ์ 100% (Food grade) ในการเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ไทย และก็ความงดงาม ก็เลยสามารถกินได้ การเลือกใช้ทองคำแท้ จะไม่มีปฏิกิริยากับสารเคมีใดๆหรือต่อเซลของร่างกายเมื่อเข้าสู่ร่างกาย ก็เลยไม่เป็นอันตราย แถมทองยังเอามาพอกหน้าเพิ่มความสวยสดงดงามได้อีกด้วย
“ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์” เนื้อหอม โดนรุมจีบทั้งยังไทยและเทศ
คุณใบพัด เล่าว่า ทางแบรนด์ได้รับการกาความกำหนัดดต่อจากคนที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ 3 กรุ๊ปใหญ่ ได้แก่ ตลาดนัดค่ำคืน หรือถนนคนเดิน เนื่องจากมีปริมาณผู้คนขวักไขว่, ปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ ที่มียอดหญิงรับใช้บริการ 1,000 คนต่อวัน เช่น ปั๊มน้ำมันที่จังหวัดชลบุรี รวมทั้งสุพรรณ ฯลฯ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดเล็กของคนขับ รวมทั้งห้าง เป็นต้น
ในตอนที่ตลาดในต่างแดนก็มี อังกฤษ, ฟิลิปปินส์, สหรัฐฯ แล้วก็กัมพูชา ติดต่อเข้ามาขอซื้อแฟรนไชส์ด้วยเช่นกัน
- ทางแบรนด์ฯ มองหาพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่าแนวทางการขายทิ้ง -
ส่วนความคืบหน้าแนวทางการขายแฟรนไชส์ให้กับคนที่พึงพอใจและติดต่อเข้ามานั้น คุณใบพัด ระบุว่า ทางแบรนด์ได้นำร่องแฟรนไชส์สาขาแรกที่ ไอคอนไทย (ICONSIAM) แล้วข้างในปี 2562 จะขายแฟรนไชส์โดยระบุโควต้าไว้ 20 สาขา ด้วยเหตุว่าทางแบรนด์จะเน้นย้ำผู้สนับสนุนทางธุรกิจมากยิ่งกว่าจำนวนแฟรนไชส์ ซึ่งจะมีการแบ่งเป็นโซนตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดเป็นหลักก่อน โดยพื้นฐานจะมองหาผู้ที่อยู่ในแคว้นนั้น เนื่องจากว่ามีความรู้ความสามารถเรื่องประชากรศาสตร์เป็นอย่างดี
ด้านในปี 2562 แบรนด์ ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์ จะมีต้นแบบสาขา 3 แห่ง ซึ่งเป็นที่มาของแบรนด์ ท่าช้าง ขนมครกสิงคโปร์ ดังเช่นว่า ท่าช้าง, ท่ามหาราช และท่าดวงจันทร์ เพื่อจับกลุ่มนักท่องเที่ยวฝรั่งให้เยอะขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับคุณสมบัติของคนที่จะมาซื้อแฟรนไชส์ ทางแบรนด์จะไตร่ตรอง 3 ส่วนร่วมกัน เป็น เรื่อง Passion สำหรับเพื่อการทำธุรกิจ , สถานที่ของแฟรนไชส์ รวมทั้งระยะความห่างของแฟรนไชส์ในแต่ละสาขา เป็นต้น โดยจะมีการสอบสัมภาษณ์ เพื่อพินิจพิเคราะห์อีกทั้งความพร้อมสำหรับเพื่อการทำธุรกิจ ให้ตรงกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ “อร่อย บันเทิงใจ สบาย” โดยพิจารณาถึงหัวข้อการบริการ (Service), ประสิทธิภาพ (Quality) และก็สะอาด (Clean) อีกด้วย ส่วนค่าแฟรนไชส์อยู่ที่ประมาณ 30,000++ บาท
“สิ่งที่เราทำขายไม่ออกทำร้ายคนรับประทาน พวกเราสุขสบายที่ได้นำเทรนด์ขนมไทยให้มาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากเพิ่มขึ้น” ใบพัด กล่าว
อย่างไรก็แล้วแต่ คุณใบพัด กล่าวว่า ตลาดสุขภาพมีอัตราการเติบโตโดยตลอด โดยส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ราวหมื่นล้านบาท ซึ่งการที่ Street food จะเข้ามาจับตลาดสุขภาพนั้นสามารถทำได้ ถ้าหากรู้จักปรับนิสัยให้ รู้จักนำเทรนด์ และพัฒนาแบรนด์อย่างไม่หยุดยั้ง ก็จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของตนเองได้อย่างยั่งยืน ถึงแม้ ท่าช้าง ขนมครกประเทศสิงคโปร์ จะเป็นแบรนด์ขนาดเล็กแต่ว่าก็ต้องการจะเป็นต้นแบบให้กับ Street food ได้มองเห็นเป็นแบบอย่าง สำหรับในการสร้างแบรนด์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ ว่าสามารถเติบโตได้จริง และในอนาคตทางแบรนด์ฯ มีแผนสำหรับการที่จะพัฒนาสินค้าเป็น “ขนมครกอบแห้ง” เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกด้วยนะ " แฟรนไชส์ขนมไทย "
ขอบคุณบทความจาก :
https://www.facebook.com/thachangthaidessertTags : ขนมเขียวใบเตย
