รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: ลูกซัด มีประโยชน์เเละสรรพคุณ  (อ่าน 53 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

tawattt005

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 18
    • ดูรายละเอียด
ลูกซัด มีประโยชน์เเละสรรพคุณ
« เมื่อ: ธันวาคม 27, 2018, 02:50:29 AM »

Permalink: ลูกซัด มีประโยชน์เเละสรรพคุณ

ลูกซัด
ชื่อสมุนไพร  ลูกซัด
ชื่ออื่นๆ / ชื่อท้องถิ่น  ไม่มีข้อมูล
ชื่อวิทยาศาสตร์   Trigonella foenum-graecum L.
ชื่อสามัญ  Fenugreek , Methi
วงศ์ LEGUMINOSAE (FABACEAE) - PAPILIONIODEAE
ถิ่นกำเนิด
ลูกซัดเป็นพืชที่มีบ้านเกิดในแถบเมติเตอร์เรเนียน และมีการกระจายพันธุ์ไปในอินเดีย จีน รวมทั้งประเทศในทวีปแอฟริกา อาทิเช่น อียิปต์ , เอธิโอเปีย ในขณะนี้สามารถ พบได้ในหลายพื้นที่ทั่วโลกทั้งในทวีปเอเชีย แอฟริกา และยุโรปโดยส่วนใหญ่นิยมใช้เมล็ดของลูกซัดซึ่งมีกลิ่น ส่วนตัว เป็นเครื่องเทศสำหรับเพื่อการทำอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาหรับและก็ประเทศอินเดีย ส่วนแหล่งปลูกเพื่อการพาณิชย์ที่สำคัญ เช่น ประเทศอินเดีย อียิปต์ ตูนีเซีย โมร็อกโก เอธิโอเปียฝรั่งเศส ตุรกี และ จีน
ลักษณะทั่วไป
ลูกซัดจัดเป็นไม้ล้มลุกอายุปีเดียว ลำต้นตั้งตรง สูงได้ถึง 60 เซนติเมตร รากแก้วขนาดใหญ่ใบประกอบแบบขน มีใบย่อย 3 ใบ เรียงสลับ หูใบขนาดเล็ก ก้านใบยาว 1-4 หรือ 1-6 ซม. ศูนย์กลางสั้น ใบย่อยรูปไข่กลับหรือขอบขนาด กว้าง 0.5-2 ซม. ยาว 1.5-4 เซนติเมตร ดอกโดดเดี่ยวออกที่ซอกใบ รูปดอกถั่ว สีเหลือง ยาว 1-1.5 ซม ฝักรูปขอบขนาน กว้าง 2-4 เซนติเมตร ยาว 5-19 ซม. ผิวเนียน ในฝักมีเมล็ด 10-20 เม็ด เมล็ดแก่สีน้ำตาลอ่อน หรือสีเหลืองทองคำ เมล็ดมีขนาดเล็ก ขนาดกว้าง 3 มิลลิเมตร ยาว 4 มิลลิเมตร หนา 1 มม. มีร่องกึ่งกลางเมล็ด มีกลิ่นแรงเฉพาะตัว เม็ดมีรสฝาด มีกลิ่นหอมหวน
การขยายพันธุ์
ลูกซัดสามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ด รวมทั้งการปักชำ โดยมีวิธีการเพาะเมล็ดรวมทั้งใช้กิ่งปักชำ รวมถึงกระบวนการปลูกเช่นเดียวกับพืชประเภทอื่นๆปกติ
องค์ประกอบทางเคมี
เมื่อศึกษาทางด้านส่วนประกอบทางเคมีพบว่าสาระสำคัญที่พบในลูกซัดมีgalactomannan จำนวนร้อยละ 14-15 น้ำมันระเหยยาก (fixed oil) มีรสขมและกลิ่นเหม็น น้ำมันระเหยง่ายจำนวนร้อยละ 0.02 เจอสารกลุ่มAlkaloids ดังเช่น trigonelline , สารกรุ๊ป saponin อย่างเช่น diosgenin, yamogenin, tigogenin, neotigogenin, Graecunin A-G sarsapogenin smilgenin trigofoenside A trigofoenoside B,C trigofoenoside D trigofoenoside F,G yuccagenin, gitogenin สารกรุ๊ปflaronoids ยกตัวอย่างเช่น vitexin, orientin, quercetin, luteolin kaempferol กรดอะมิโนชื่อ 4-hydroxyisoleucine

ที่มา : Wikipedia
นอกเหนือจากนั้น ลูกซัดยังมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้ ค่าทางโภชนาการของเม็ดลูกซัดต่อ (100 กรัม) (3.5 ออนซ์)
พลังงาน 1,352 kJ (323 kcal)
คาร์โบไฮเดรต 58 กรัม
ใยอาหาร 25 กรัม
ไขมัน 6.4 กรัม
โปรตีน 23 กรัม
วิตามิน
Thiamine(B 1 ) ไทอะมีน (วิตามิน B1) 0.322 mg
Riboflavin (B 2 ) ไรโบฟลาวิน (วิตามิน B2) 0.366 มก
ไนอาซิน(B 3 ) (วิตามิน B3) 1.64 มก
ไพริดอกสิน (วิตามิน บี6) 0.6 มก
โฟเลต(B 9 ) (วิตามิน B9) 57 ไมโครกรัม
แอสคอบิดเอสิด (วิตามินซี) 3 มก
แร่ธาตุ
แคลเซียม 176 มิลลิกรัม
เหล็ก 34 มก
แมกนีเซียม 191 มก
แมงกานีส 1.23 mg
ฟอสฟอรัส 296 มก
โพแทสเซียม 770 มก
โซเดียม 67 มก
สังกะสี 2.5 มก
ส่วนประกอบอื่นๆ
น้ำ 8.8 กรัม
ผลดี/สรรพคุณ
ลูกซัดถูกนำมาใช้เป็นเครื่องเทศสำหรับในการทำอาหาร เนื่องจากให้กลิ่นหอมหวน แล้วก็มีรสขมเฉพาะบุคคล เป็นรสเสน่ห์ของกินอย่างหนึ่ง ซึ่งลูกซัดจะมีกลิ่นหอมเหมือนขึ้นฉ่ายแต่ว่าแรงกว่า รสออกขมนิดๆขื่นหน่อยๆเมื่อจะใช้เขานำไปคั่วไฟก่อน ไฟจำเป็นต้องอ่อนมากๆเพราะว่าลูกซัดบอบบาง ไหม้ง่าย เมื่อคั่วแล้วจะมีกลิ่นหอมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเกิดคั่วด้วยน้ำมันเม็ดจะพองตัว รสออกขมเข้มขึ้น เจือด้วยรสเผ็ดนิดๆและก็ด้วยคุณสมบัติกลิ่นและรสดังที่กล่าวถึงแล้ว ลูกซัดจึงเปลี่ยนเป็นส่วนประกอบที่สำคัญใน ?ผงกะหรี่? อันเป็นเครื่องเทศสากลที่ใช้กันทั่วทั้งโลก รวมทั้งที่คนประเทศอินเดียใช้ ลูกซัดสำหรับเพื่อการดองมะม่วง พริก กระเทียมและผักอื่นๆทำเป็น Achar (อาจาด) ที่ใช้เป็นเครื่องเคียงของสะเต๊ะ และในอีกหลายๆประเทศก็ยังมีการใช้ลูกซัดมาเป็นส่วนผสมของแป้งเพื่อจัดเตรียมเป็นอาหารประเภทต่างๆตัวอย่างเช่น ขนมปัง แป้งพิซซ่า มัฟฟิน และก็เค้ก แล้วก็มีการคิดค้นเพื่อปรับปรุงลูกซัดในรูปแบบของอาหารเพื่อคนที่รักสุขภาพ (functional food) รวมทั้ง สินค้าเสริมของกิน (dietary supplement) อีกด้วย ในอินเดียวมีการใช้เม็ดแก้ท้องเดิน รักษาเกาต์ โรคเบาหวานขับน้ำนม กระตุ้นกำหนัด รวมทั้งขับประจำเดือน ส่วนในประเทศทางแถบยุโรป จะใช้เมล็ดรักษาเบาหวาน รวมทั้งขับน้ำนม
สำหรับสรรพคุณทางยาตามตำรายาไทย: ใช้เมล็ด แก้ท้องเสีย กล่อมเสลดรวมทั้งอาจมแก้ธาตุพิการแก้ท้องขึ้นท้องเฟ้อ ขับลมในไส้ขับฉี่ บำรุงธาตุ ทำให้เจริญอาหาร บดแล้วประยุกต์ใช้พอก ฝี ลดอาการบวม ทาแผลต่างๆแก้อักเสบบวม แก้ไอเรื้อรัง ช่วยทำให้เมนส์มาเป็นปกติ
คุณประโยชน์แผนโบราณ ขับเสลด ทำให้เปียกชื้น ต้านการอักเสบ ขับเมนส์ ขับนมหลังคลอดบุตร รักษาเบาหวาน ส่วนคนประเทศไทยในโบราณกาลใช้น้ำต้มลูกซัดและเปลือกชะลูดต้มผ้า เพื่อผ้ามีกลิ่นหอมยวนใจแล้วก็แข็งจับกลีบได้ ซึ่งสารเมือกที่มีในลูกซัดนั่นเองที่ทำให้ผ้าแข็งตัวเป็นเงาสวย ปัจจุบันนี้ได้มีการใช้มูกของลูกซัดสำหรับเพื่อการอาบกระดาษมัน และผสมสำหรับเพื่อการทำยาเม็ดเพื่อให้การแตกตัวของยาดีขึ้น
แบบอย่าง/ขนาดวิธีใช้
การใช้ลูกซัดในปัจจุบันเป็นการใช้สำหรับการบริโภคในลักษณะของเครื่องเทศ รวมทั้งของกินมากกว่า การใช้ในการเป็นยารักษาโรคเพราะขนาดสำหรับเพื่อการใช้ยารักษาโรคนั้นก็ยังไม่มีรายงานการศึกษาเรียนรู้ที่ชี้ชัดถึงขนาดการใช้ที่สมควรรวมทั้งมีความปลอดภัยที่แน่ๆ
การศึกษาเล่าเรียนทางเภสัชวิทยา
มีการเรียนรู้ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในสัตว์ทดสอบ ทั้งปกติแล้วก็ถูกรั้งนำให้เป็นเบาหวาน โดยพบว่าในหนูแรทที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นโรคเบาหวานด้วย alloxan เมื่อฉีดสารสกัดน้ำจากใบ ขนาด 0.06 0.2 0.5 แล้วก็ 1 กรัม/กก. แล้วก็สารสกัด 70% เอทานอลจากใบ ขนาด 0.8 ก./กก. เข้าทางท้อง แล้วก็ป้อนสารสกัดน้ำจากใบ ขนาด 1 2 แล้วก็ 8 กรัม/กก. มีผลลดน้ำตาลในเลือดของหนู ยาต้มแล้วก็สารสกัด 95% เอทานอลจากเมล็ด ขนาด 0.5 มิลลิลิตร/ตัว สารสกัด 95% เอทานอลจากเมล็ด ขนาด 250 มก./กิโลกรัม และก็สารสกัดอัลกอฮอล์จากเม็ด ขนาด1 2 และก็ 4 กรัม/กก. มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้บาหวานด้วย alloxan ได้ด้วยเหมือนกัน
ลูกซัดมีผลเสริมฤทธิ์ของยารักษาเบาหวานโดยเมื่อให้ผงเม็ดลูกซัดร่วมกับยา glicazide พบว่าลูกซัดจะเสริมรวมทั้งเพิ่มช่วงเวลาการออกฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดของยาในหนูแรทปกติ หนูที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นเบาหวานด้วย alloxan monohydrate และก็ในกระต่ายปกติ โดยไม่ทำให้มีการเกิดการชักเพราะเหตุว่าน้ำตาลในเลือดต่ำ สารสกัดเอทานอล ขนาด 500 มิลลิกรัม/กิโลกรัม เมื่อให้ร่วมกับยาglibenclamide แก่หนูแรทปกติและก็หนูที่ถูกรั้งนำให้เป็นเบาหวานด้วย streptozotocin จะส่งผลเสริมฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดเหมือนกันผงเม็ด ขนาด 15 กิโลกรัม มีผลลดน้ำตาลในเลือดและอินซูลินของคนเจ็บ เมื่อทดลองด้วยแนวทางวัดระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร (Meal tolerance test) เมื่อให้คนป่วย ปริมาณ 15 คน รับประทานอาหารที่ผสมผงเมล็ดลูกซัดที่กำจัดไขมัน จำนวน 100 กรัมนาน 10 วัน พบว่าระดับน้ำตาลรวมทั้งอินซูลินในเลือดลดน้อยลง คนป่วย อายุระหว่าง38-54 ปี ปริมาณ 10 คน ที่ทานอาหารซึ่งผสมผงเมล็ดลูกซัด ขนาด 25 ก. โดยแบ่งเป็นขนาดเท่าๆกัน กินวันละ2 มื้อ คือ ช่วงกลางวันและเย็น นาน 15 วัน พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลง โดยลูกซัดส่งผลลดระดับน้ำตาลในพลาสมา เพิ่มการใช้เดกซ์โทรส รวมทั้งเพิ่ม insulin receptor บนเม็ดเลือดแดง ทำให้เพิ่มความต้านทานต่อเดกซ์โทรส แล้วก็เมื่อให้คนป่วย จำนวน 60 คน รับประทานอาหารที่ผสมผงเม็ดลูกซัดในขนาดเดียวกันนี้ นาน 24 อาทิตย์ พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินในผู้เจ็บป่วยลดน้อยลงเช่นกัน
การศึกษาเล่าเรียน
 
ในอาสาสมัครสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงที่กินแคปซูลผงใบลูกซัดขนาด 2.5 ก. วันละ 2 ครั้ง นาน 3 เดือน พบว่าไม่มีผลลดน้ำตาลในเลือด เมื่อให้คนธรรมดา จำนวน 6 คน รับประทานตำรับอาหารที่ผสมผงเม็ดลูกซัดดิบ เม็ดต้น และก็เม็ดกำลังงอก ปริมาณ 12.5 ก. วันละครั้งเป็นข้าวเช้า หรือให้กินตำรับยาซึ่งมีลูกซัด แล้วก็ guar gum พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดลงเม็ด ขนาด 25 กรัม ยางที่สกัดจากเม็ด (gum) ขนาด 5 กรัม และก็ใบ ขนาด 150 ก. ส่งผลลดน้ำตาลในเลือดของคนธรรมดาได้ เมื่อให้อาสาสมัครชายร่างกายแข็งแรงอายุ 20-30 ปี ปริมาณ 20 คน รับประทานสารสกัดน้ำจากใบ ขนาด 40 มิลลิกรัม/กก.พบว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลง 13.4 ภายหลังจากได้รับสารสกัด 4 เซนติเมตร โดยส่งผลข้างๆบางส่วน ยกตัวอย่างเช่น รู้สึกหิวเยี่ยวบ่อย และเวียนหัว
 
นอกจากนี้ยังมีงานค้นคว้า
 
จำนวนหนึ่งกระทำทดลองโดยให้สตรี ที่อยู่ในตอนให้นมลูกดื่มชาที่มีส่วนผสมของลูกซัด ผลลัพธ์ที่ได้ คือ มีสัญญาณบ่งชี้ถึงปริมาณนมที่มากขึ้นของคุณแม่ในกลุ่มทดลองอย่างเป็นจริงเป็นจัง เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่มิได้บริโภคชาที่มีส่วนผสมของลูกซัด จึงอาจกล่าวได้ว่า ของกินเพิ่มน้ำนมที่มีส่วนผสมของลูกซัดอาจช่วยกระตุ้นการสร้างนม และมีส่วนช่วยเพิ่มน้ำหนักตัวเด็กในระยะหลังคลอดได้ด้วย แต่ หลักฐานที่แจ่มแจ้งด้านการแพทย์เกี่ยวกับลูกซัดที่สัมพันธ์กับการเพิ่มจำนวนนมในสตรีที่ให้นมลูกยังคงมีจำกัดและก็นักวิจัยยังบอกว่าควรจะมีการศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมถัดไป
 
การเล่าเรียนทางพิษวิทยา
ลูกซัด การทดลองความเป็นพิษ ยาต้มจากใบ สารสกัดน้ำจากใบ หรือสารสกัดเอทานอล:น้ำจากเมล็ดเมื่อฉีดเข้าทางท้องหนูแรท แล้วก็หนูเม้าส์ มีค่าLD50 เท่ากับ 4 ก./กก. 1.9 ก./กิโลกรัม และ 1ก/กิโลกรัม เป็นลำดับ เมื่อป้อนหนูแรทด้วยสารกสัดน้ำจากใบพบว่ามีค่า LD50 พอๆกับ 10 กรัม/กก. สารสกัดปิโตรเลียมอีเทอร์จากเมล็ด เมื่อทดลองในกระต่ายและก็หนูแรทมีค่า LD50 มากยิ่งกว่า 2 รวมทั้ง 5กรัม/กิโลกรัม ตามลำดับ
การกินเมล็ดลูกซัด ขนาด 25 ก./วัน ไม่นำไปสู่พิษ การศึกษาความเป็นพิษในคนป่วยที่เป็นโรคเบาหวานจำพวกที่ 2 จำนวน 60 คน โดยให้ทานอาหารที่เสริมผงเม็ดลูกซัด 25 ก. นาน 24 อาทิตย์ พบว่าไม่เป็นพิษต่อตับและไต และไม่พบความผิดแปลกของค่าทางโลหิตวิทยา แต่ว่าหรูหรายูเรียในเลือดลดน้อยลงภายหลังจากกิน 12 สัปดาห์
พิษต่อเซลล์ สารสกัดน้ำจากเม็ด ความเข้มข้น 0.3 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร เป็นพิษต่อเซลล์ตับของหนูแรท โดยการทำให้กำเนิดความไม่ดีเหมือนปกติของไครโมโซม
พิษต่อตัวอ่อน ไม่เจอความเป็นพิษต่อตัวอ่อน เมื่อป้องผงเมล็ดแห้ง ขนาด 175 มก./กิโลกรัม ให้แก่หนูแรทที่ตั้งท้อง เมล็ด ขนาด 2 กรัม/ตัว ไม่เป็นผลทำให้หนูแรทแท้ง
มีรายงานคนเจ็บที่การเกิดอาการแพ้จากการสูดดมผงเมล็ดลูกซัด โดยทำให้น้ำมูกไหลมาก หอบและหมดสติ รวมทั้งคนไข้ที่เกิดอาการแพ้จากการรับประทานเครื่องแกง ที่มีลูกซัดเป็นส่วนประกอบ โดยมีลักษณะอาการหลอดลมบีบเกร็ง หอบ แล้วก็ท้องร่วง และจะเสริมให้แพ้มากในคนไข้ที่แพ้ถั่วลิสงด้วย ในคนไข้ที่เป็นโรคหอบหืดเรื้อรังซึ่งใช้ผลเมล็ดลูกซัดสำหรับแก้รังแค พบว่าทำให้หนังศีรษะหมดความรู้สึก หน้าบวม และก็หอบ
 
คำแนะนำ/ข้อควรตรึกตรอง

1. ไม่เสนอแนะให้ผู้ที่แพ้อาหารประเภทถั่วทานลูกซัด ด้วยเหตุว่าถั่วลูกซัดเป็นพืชเชื้อสายถั่ว หากแม้จะจัดเป็นเครื่องเทศก็ตาม
2. หญิงมีครรภ์ไม่สมควรทานถั่วลูกซัด เนื่องจากว่าถั่วลูกซัดอาจเข้าไปกระตุ้นการหดตัวของมดลูกได้
3. ต้องระวังการใช้ลูกซัดร่วมกับยารักษาเบาหวาน อย่างเช่น ยาในกรุ๊ป sulfonylureas อาทิเช่น chlorpropamide, glibencamide, glipizide, gliclazide, gliquidone และ glimepiride เนื่องจากว่าลูกซัด บางทีอาจไปเสริมฤทธิ์ของยา
4. อาจมีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลงมากเกินความจำเป็น เพราะฉะนั้นถ้าคนป่วยเบาหวาน จะกินลูกซัด ควรขอความเห็นหมอรวมทั้งอยู่ภายใต้ข้อแนะนำของหมออย่างใกล้ชิด
5. ควรระมัดระวังสำหรับเพื่อการใช้ร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด ดังเช่น warfarin หรือสมุนไพรที่มีฤทธิ์ต้านทานการรวมตัวของเกร็ดเลือด ดังเช่น กระเทียม หรือแปะก๊วย เนื่องจากว่าบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงต่อการตกเลือดได้
6. ลูกซัดอาจส่งผลส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น ท้องเสีย ท้องไส้ป่วนปั่น เรอ มีก๊าซในท้อง หรือปัสสาวะมีกลิ่นคล้ายเมเปิลไซรัป
7. ถึงแม้ว่ายังไม่มีรายงานการใช้ในสตรีตั้งท้องรวมทั้งให้นมลูก แม้กระนั้นสตรีมีท้องและให้นมลูก แต่สตรีมีครรภ์ควรระมัดระวังสำหรับเพื่อการใช้ เนื่องจากว่าลูกซัดมีผลลดน้ำตาลในเลือด นอกนั้นยังมีรายงานศึกษาเรียนรู้ว่า สารสกัดน้ำ 95% เอทานอล แล้วก็เมทานอลจากเม็ด มีฤทธิ์กระตุ้นมดลูกของหนูที่กำลังมีท้อง ด้วยเหตุผลดังกล่าว อาจมีผลกระตุ้นให้เกิดแท้งลูกได้ ด้วยเหตุดังกล่าวควรจะขอคำแนะนำแพทย์รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้รวมถึงไม่ควรใช้ในจำนวนมาก และสม่ำเสมอเป็นระยะเวลาที่ยาวนานๆ
 
เอกสารอ้างอิง

  • ธิดารัตน์ จันทร์ดอน.ลูกซัด...เครื่องเทศมีประโยชน์.จุลสารข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.ปีที่35.ฉบับที่1 ตุลาคม.2560
  • Chan HT, So LT, Li SW, Siu CW, Lau CP, Tse HF. Effect of herbal consumption on time in therapeutic range of warfarin therapy in patients with atrial fibrillation. J Cardiovasc Pharmacol. 2011;58(1):87-90.
  • นันทวัน บุณยะประภัศร อรนุช โชคชัยเจริญพร.บรรณาธิการ.สมุนไพรไม้พื้นบ้าน เล่ม 4 กรุงเทพฯ:บริษัท ประชาชน จำกัด,2543:740 หน้าhttps://www.disthai.com/
  • นิจศิริ เรืองรังสี เครื่องเทศ.กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.2542:206 หน้า.
  • อรัญญา ศรีบุศราคัม.ลูกซัด...แก้เบาหวาน.จุลสารข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.ปีที่ 27.ฉบับที่1 ตุลาคม.2552.หน้า4-11
  • El Bairi K, Ouzir M, Agnieszka N, Khalki L. Anticancer potential of Trigonella foenum graecum: cellular and molecular targets. Biomed Pharmacother 2017;90:479-91.
  • ลูกซัด..ฐานข้อมูลเครื่องยา คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีEthan M. Natural standard herb and supplement reference: evidence-based clinical reviews. New York: Elsevier Mosby; 2005.
  • Lu FR, Shen L, Qin Y, Gao L, Li H, Dai Y. Clinical observation on Trigonella foenum-graecum L. total saponins in combination with sulfonylureas in the treatment of type 2 diabetes mellitus. Chin J Integr Med. 2008;14(1):56-60.
  • Nagulapalli VKC, Swaroop A, Bagchi D, Bishayee A. A small plant with big benefits: fenugreek (Trigonella foenum-graecum Linn.) for disease prevention and health promotion. Mol Nutr Food Res. 2017;61(6):1-26.
  • Izzo AA, Di Carlo G, Borrelli F, Ernst E. Cardiovascular pharmacotherapy and herbal medicines: the risk of drug interaction. Int J Cardiol. 2005;98(1):1-14.
  • Lambert JP, Cormier J. Potential interaction between warfarin and boldo-fenugreek. Pharmacotherapy. 2001;21(4):509-12.




โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี

ลูกซัด มีประโยชน์เเละสรรพคุณ
« เมื่อ: ธันวาคม 27, 2018, 02:50:29 AM »
SEO