ถ้าหากเผย ถึง ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อเด่นขั้น โลก ดั่ง Apple ก็ คงจะมิ มีใครไม่รู้จัก เนื่องด้วย เป็น ยี่ห้อ ที่ทำให้ ชาวเรารู้จักมักคุ้น กับ iPhone, iPod, iPad, iMac, Macbook, Apple Watch พร้อมด้วย Apple TV ซึ่งใครหลายๆ คน ที่ได้อ่าน เรียงความ นี้อยู่ ก็ต้องเป็น เจ้าของ อะไรสักอย่างหนึ่งจาก ยี่ห้อ Apple แน่แท้ นี่ อาจจะจะ ทำให้ Apple พบ ว่า ถึง คราว แล้วที่ จักเข้าไปลุยตลาดสยาม ได้แล้ว พร้อมด้วยล่าสุด นี้ ทาง Apple ได้รับประกัน มาแล้วว่าจะมาหา เปิดที่ แหลมทองแน่นอน พร้อมพูด ว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเริ่มรับสมัครทีมงานเพื่อเปิดให้บริการ Apple Store แห่งแรกในประเทศไทย กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชียด้วยงานออกแบบและสถาปัตยกรรมที่มีชีวิตชีวา เราตั้งตารอที่จะให้บริการแก่ลูกค้าในสถานที่อันน่าทึ่ง ให้ทุกคนได้สัมผัสกับสุดยอดผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรแกรมด้านการศึกษาที่ให้แรงบันดาลใจของเรา ที่ลูกค้า Apple ทั่วโลกต่างหลงรัก” เชื่อ ได้เลยว่า พวก สาวก Apple ในสยามทั้งหมด คงตื่นเต้นไม่ น้อยเลย เชียว ที่ Apple จะ มาเปิด Apple Store ที่ ไทย ซัก ที
ถึงกระนั้น ตอนนี้ เราจัก มา เล่า ถึง ความเป็นมา ของ Apple กันก่อนดีกว่า เผื่อใครยัง ไม่ รู้ ว่า โดยแท้จริง Apple นั้น จัดตั้งขึ้น มา ยาวนาน มาก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1976 เลย ทีเดียว ซึ่งเกิด จากการ พร้อมใจ ริเริ่มตั้งขึ้น ของ Steven Wozniak, Steven Jobs กับ Ronald Wayne โดย คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่วางจำหน่าย คือ Apple I แต่ผลประกอบการ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ จนมาถึง Apple II กลับได้รับความนิยมชมชอบอย่างอักโข พร้อมก่อเงินกำไรให้กับบริษัทได้ไม่เบาเลยเชียว ซึ่งภายหลังก็มีผลิตภัณฑ์ออกมาเรื่อยๆ ทั้งที่ได้รับความนิยมบ้าง หรือไม่ได้รับความนิยมบ้าง และมีปัญหามากมายในระหว่างทาง กว่าจะก้าวย่างสู่ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ได้ จนมาถึงยุครุ่งโรจน์ของ Apple คือช่วงปี 1996 เป็นต้นมา โดย Apple ได้มีการเปิดตัว Apple Store ร้านค้าออนไลน์เพื่อซื้อสินค้าของบริษัท และในปี 1998 เปิดตัว iMac คอมพิวเตอร์ที่เป็นจุดรวมความบันเทิง ซึ่งได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีจากผู้ซื้อ มีผลให้ยอดขายพุ่งสูงขึ้นฉับพลัน ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญของโลกคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว
และทันทีที่เข้าสู่สมัยปี 2000 “Apple” ก็ชักจะมองเห็นความสำคัญกับเครื่องมือที่ให้ความสำราญ โดยได้มีการเปิดตัว iPod ซึ่งเป็นสินค้าที่ก่อผลประโยชน์ให้กับบริษัทได้อย่างยอดเยี่ยม ต่อจากนั้นก็มี iTunes หรือร้านค้าเพลงออนไลน์ขึ้นมา ที่ภายในปีแรกนั้นก็สามารถทำยอดจำหน่ายได้มากกว่า 100 ล้านเพลง จึงทำให้มีส่วนแบ่งทางการตลาดมากถึง 70% เลยทีเดียว ถือว่า Apple นั้นเดินมาถูกทางแล้วละ เพราะเวลานั้นเป็นเวลาที่เศรษฐกิจโลกค่อนข้างจะเลวร้าย อาจทำให้เกิดสภาวะเคร่งเครียดขึ้น ทั้งหมดจึงเสาะแสวงหาความรื่นเริงเข้าใส่ตัว แล้ว Apple ก็สามารถเอาจุดอ่อนตรงส่วนนี้ มาทำให้เป็นจุดแข็งของตัวเองได้ ถือได้ว่าทำได้ดีมากๆ เลย
แล้วก็เข้าคราวที่ทำให้แวดวงโทรศัพท์สั่นสะเทือนก็คือ เมื่อปี 2007 Apple ได้เปิดตัว iPhone อย่างเป็นทางการ ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้กระแสสมาร์ทโฟนรุ่นหลังๆ เริ่มตีตื้นขึ้นมา นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว App Store ที่เป็นแหล่งรวมแอพพลิชั่นเสริมต่างๆ ที่ให้สามารถโหลดใช้งานได้เพิ่มเติม และแล้วในปี 2010 iPad ก็ได้ออกตามมา และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคมากมายอีกด้วย
ย้อนกลับมาที่เรื่อง Apple Store กันบ้างดีกว่า Apple Store เป็นร้านค้าปลีกของบริษัท Apple สำหรับวางขายผลิตภัณฑ์ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPod, iPad, iMac, Macbook และยังมีบริการซ่อมบำรุง ทำการค้าอุปกรณ์เสริมต่างๆ พร้อมบริการ จีเนียสบาร์ ให้ข้อคิดเห็นการใช้งานและบริการของบริษัท ซึ่งเดี๋ยวนี้ ในเอเชียมีกันทั่วหน้า ทั้งฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น รวมทั้งที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานอย่าง Apple Store สาขา Orchard Road เมืองสิงคโปร์ และสาขาที่ตึก Taipei 101 ณไต้หวัน
หลายคนคงจะฉงนสนเท่ห์ว่าไฉนจำเป็นจะต้องตื่นเต้นกับการมาของ Apple Store ในบ้านเรา เหตุเพราะ Apple Store มีดีมากกว่าแค่การเลือกซื้อสินค้าของ Apple แค่นั้น เพราะมิมีบริการใด จะดีงามเท่ากับการซื้อผลิตภัณฑ์จากร้านของผู้ประกอบการเอง ไม่ว่าจะเรื่องรับประกัน การส่งเครื่องเครมที่ร้าน Apple Store เอง ค่อนข้างง่าย ไม่จำต้องส่งเครื่องไปเครมที่ประเทศสิงคโปร์ แล้วก็ต้องคอยท่าไปอีกนานสองนาน และข้อดีของ Apple Store อีกอย่างหนึ่งก็คือ ส่วนใหญ่เวลามีการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ของ Apple ก็มักวางจำหน่ายในกลุ่มมณฑลแรกก่อนที่มี Apple Store อยู่แล้ว นั้นหมายถึง เราอาจอยู่ในกลุ่มเมืองแรกๆ ที่วางขายสินค้า ของ Apple ทันทีที่มีการเปิดตัวก็เป็นได้
แต่ว่าเวลานี้ยังไม่มี Apple Store ที่เมืองไทย แต่เรายังมีแอพพลิเคชั่น Apple Store ที่จักช่วยให้ท่านเลือกจับจ่ายใช้สอยสินค้า Apple ราวกับว่าท่านกำลังเดินชมสินค้าที่ Apple Store อยู่ ถัดจากนั้นก็จ่ายเงินค่าผลิตภัณฑ์โดยผ่าน Apple Pay จาก iPhone ของท่าน ยิ่งไปกว่านี้ยังสามารถติดตามคำสั่งซื้อได้ ว่าสินค้าถึงไหนแล้ว จากนั้นก็รอผลิตภัณฑ์อยู่ที่บ้านได้เลย ยิ่งไปกว่านี้ท่านยังสามารถรับข้อมูลสินค้า ข้อแนะที่คัดสรรตามอุปกรณ์ Apple ที่คุณเป็นเจ้าของอยู่แล้ว รู้จักกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของคุณได้ เหมือนว่าคุณมีมืออาชีพคอยเสนอแนะทุกอย่างเกี่ยวกับสินค้าที่คุณต้องการ
แม้กระนั้น เชื่อได้เลยว่า Apple Store จะมาประเทศไทยอย่างแน่แท้ เพียงแต่แค่ยังไม่รู้วันเวลา และสถานที่ที่ชัดเจนเท่านั้นเอง ยังไงก็รอฟังข่าวกันอย่างใกล้ชิดกันด้วยนะคะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
appleTags : apple
