หากว่ากล่าวถึงแกนนำด้านเครื่องปริ้นแล้วชื่อของ HP คงจะต้องอยู่ลำดับแรกๆ ซึ่งสินค้าในหมวดหมู่ดังกล่าวได้รับการตอบรับมาตั้งแต่ปี 1984 เลยทีเดียว ในทุกวันนี้ก็ยังอาจขยายเครื่องปริ้นที่มีนานาประการฟังก์ชั่นออกมา อาทิการเชื่อมกับมือถือหรือแม้แต่เชื่อมต่อ Wi-Fiเรียกได้ว่าเติมความง่ายดายความสุขสบายให้กับผู้ใช้เป็นอย่างมาก ซึ่งเครื่องปริ้น HPสนนราคานั้นก็ถูกลงตลอด สวนทางกับเทคโนโลยี โดยหลายท่านที่ให้ความสนใจเครื่องปริ้น HP คงจะกำลังพิจารณาอยู่ว่ารุ่นอะไรนั้นเหมาะกับการใช้งานของตัวเอง กระผมจะมาแนะนำกันครับ
ก่อนอื่นพวกเรามาดูชนิดหลักๆ ของเครื่องปริ้นกันก่อน
คือประเภทเครื่องปริ้นที่ได้ความชื่นชมเป็นอันมากก็เพราะว่าสนนราคาที่ไม่แพง มีรุ่นให้เลือกสรรใช้เป็นก่ายเป็นกอง คุณภาพสิ่งพิมพ์ตามมาตรฐาน ประเภทการพิมพ์คือการพ่นหมึกเป็นหยดๆ ลงบนกระดาษ สามารถใช้งานได้ต่างๆนาๆไม่ว่าจะเป็น สิ่งพิมพ์ รูป โปสการ์ดไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการวอร์มอัพก่อนปริ้น ตลับน้ำหมึกพอใช้งานหมดแล้วสามารถนำกลับมาเพิ่มเติมและใช้งานใหม่ได้ เครื่องย่อมดูแลรักษาออกจะสบาย อย่างไรก็ตามมักรองรับขนาดกระดาษที่ไม่เกิน A3 และเปลืองเวลาการปริ้นในจำนวนมากๆ พอตัว
2. เครื่องปริ้นเลเซอร์
ใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสารคือยิงเลเซอร์ไปบนกระดาษในการสร้างตัวอักษรพร้อมกับรูปถ่าย ซึ่งผลงานที่ออกมาจะมีคุณภาพที่สูงยิ่งกว่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทเหมาะสำหรับการพิมพ์ที่ปรารถนาคุณภาพที่สูงเยอะขึ้นทั้งนี้ยังสามารถพิมพ์งานที่มีปริมาณมากๆ ได้รวดเร็วทันใจทั้งนี้ต้องใช้เวลาในการวอร์มอัพเครื่องมือพร้อมกับมีราคาพร้อมกับต้นทุนในการดูแลรักษาสูงเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
3. เครื่องปริ้นรูป
จุดเด่นคือมิจำเป็นต้องต่อเข้ากับคอมแต่เชื่อมเข้ากับโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือว่ากล้องดิจิตอลและปริ้นได้โดยตรงเลย และที่สำคัญสามารถพกพาไปนอกสถานที่ได้ เนื่องด้วยมีสัดส่วนเล็ก แต่ทว่าก็มิสามารถพิมพ์ภาพหรือว่าเอกสารขนาดใหญ่เช่นขนาด A4 หรือ B5 ได้
ครั้นเมื่อรู้จักเครื่องปริ้นชนิดต่างๆ กันไปแล้วพวกเรามาดูเครื่องปริ้น HP ที่เราหามาแนะนำกันเหอะ
1. HP Sprocket
ในช่วงปัจจุบันเครื่องปริ้นรูปภาพประเภทพกพากำลังเป็นที่นิยมมาก เพราะว่าสามารถเชื่อมต่อจากโทรศัพท์เคลื่อนที่สำหรับนำรูปภาพออกมาได้ทันทีทันควัน โดย HP Sprocket ใช้เทคโนโลยีอิงค์เจ็ทรุ่นใหม่ ที่ใช้ความร้อนกำหนดน้ำหมึกให้เป็นสีต่างๆ บนกระดาษ Zink Photo สั่งงานผ่านบลูทูธได้จากมือถือทั้งระบบ iOS และ Android
การออกแบบของตัวเครื่องจัดว่าออกแบบมาได้ดี มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว-โรสโกลด์ สีดำ-เงิน และสีแดง-เงิน พกติดตัวไม่ยาก ใช้วัสดุเป็นพลาสติกทั้งหมด มีรูปร่างหน้าตาเช่นเดียวกับแบตสำรอง (Powerbank)มีน้ำหนัก 172 กรัม
การทำงานของ HP Sprocket นั้นจะต่อกับสมาร์ทโฟนด้วย Bluetooth เพื่อสั่งงานพิมพ์ โดยคุณภาพของรูปภาพก็สีซีดจางกว่าที่ควรเป็นเล็กน้อย โดย HP แนะนำให้รูปที่พิมพ์ต้องมีความละเอียด 818 x 1258 pixels ขึ้นไปถึงจะพิมพ์ได้ละเอียดที่สุดกินเวลาพิมพ์ต่อรูปราวๆ 42 วินาที HP Sprocket มาพร้อมด้วยกระดาษZink Photo10 แผ่น ในมูลค่า 5,380 บาท
เครื่องปริ้น HP อีกรุ่นที่นับว่าเหมาะกับออฟฟิศมาก ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพและการดีไซน์ ซึ่ง HP LaserJet Pro M12w มากับเทคโนโลยี Laser ที่ส่งมอบความกระจ่างรองรับการสั่งการผ่านแอพพลิเคชั่นอย่าง HP ePrintเพื่อการใช้งานบนมือถือได้นอกเหนือจากนั้นยังต่อ WiFi ได้อีกด้วย
ดีไซน์ของ HP LaserJet Pro M12w มาในสีขาวสัดส่วนเล็กกะทัดรัด สามารถจัดวางไว้ในสำนักงานขนาดย่อมใช้ร่วมกันหรือจะใช้เป็นเครื่องปริ้นแยกแยะแผนกในหน่วยงานก็ได้เหมือนกัน สามารถวางไว้ในมุมต่าง ๆ ของห้องหับได้อย่างสบายๆ ไม่เปลืองเนื้อที่ น้ำหนัก 5.2 กก.
ความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 600 x 600 dpi และความเร็วในการทำงานอยู่ที่ 18 แผ่นต่อนาทีสำหรับการทำงานเอกสารทั่วไป มาพร้อมถาดกระดาษขนาดใหญ่ เพื่อให้การพิมพ์ไม่ว่างเว้นกับถาดขาเข้ามากถึง 150 แผ่น และถาดขาออก 100 แผ่นและเทคโนโลยี HP Auto-On/Auto-Off Technology ที่ช่วยในการสะสมพลังงานอีกด้วย ในเรื่องของการทำนุบำรุงก็ง่ายๆแค่เพียงยกฝาปิดที่เป็นถาดรองรับกระดาษส่วนบนออก จากนั้นดึงโทนเนอร์ออกมาตรงๆ แค่นั้น ใช้ได้ทั้งการแก้ไขกระดาษติดหรือว่าการสับเปลี่ยน Cartridge เช่นกันซึ่งสนนราคาอยู่ที่ 3,890 บาท
และนี่คือ
เครื่องปริ้น HP ทั้ง 2 รุ่นที่ผมเอามาแนะนำ นึกหวังว่าจะถูกอกถูกใจคนที่กำลังเล็งเครื่องปริ้นแบรนด์นี้อยู่แน่ ๆ อย่าเผลอลืมว่าเครื่องปริ้นที่น่าพอใจยิ่งไม่ใช่เครื่องที่มีราคาที่สุดแต่เป็นเครื่องปริ้นที่เหมาะสำหรับการใช้งานของคุณมากที่สุดนะครับผม
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
เครื่องปริ้น hp ราคาTags : เครื่องปริ้น HP,เครื่องปริ้น hp ราคา,ปริ้นเตอร์ hp