การที่คุณมีมือถือเอาไว้ข้าง ตัว ถือว่าทำให้มนุษย์เราอุ่นใจได้มากใช่ไหม และแน่นอนว่าสิ่งที่จักช่วยให้พวกเราอุ่นใจได้มากยิ่งขึ้นก็คือแบตเตอรี่ที่เต็มอัตราอยู่ทุกเวลานั้นเอง ซึ่งการที่มีสายชาร์จที่ถูกใจมีคุณภาพถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะว่านอกจากจะเป็นสิ่งสำคัญในการเติมเต็มกำลังไฟให้แบตได้อย่างมีศักยภาพแล้ว ยังอาจจะเกี่ยวข้องถึงความสะดวกของผู้บริโภคด้วย
เพราะว่าความที่สายชาร์จณยุคปัจจุบันนี้มีออกมาหลากหลายรุ่นหลายแบรนด์ เรียกได้ว่ามากมายเลยทีเดียว จนบางขณะผู้บริโภคคงจะเกิดความหนักอกหนักใจในการเลือกซื้อ พวกเรามาดูกันดีกว่าว่ากลยุทธ์การเลือกซื้อ
สายชาร์จที่ถูกใจและเรื่องน่าสนใจต่างๆ ที่ควรจะทำความเข้าใจนั้นมีอะไรบ้าง
ล่าสุด
สายชาร์จสมาร์ทโฟน ที่ขายในตลาดมีถึง 3 แบบใหญ่ ๆ คือ
- สาย Lightning สำหรับอุปกรณ์ iOS ที่ใช้ตั้งแต่ iPhone 5 กระทั่งมาถึง iPhone รุ่นล่าสุด รวมไปถึง iPod Touch และ iPad รุ่นปัจจุบันอีกด้วย
- สาย Micro USB ซึ่งนิยมอย่างมากในsmartphone Android ทั่วไป หรือว่า Windows Phone และทุกวันนี้เป็นพอร์ตที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุด
- สาย USB-C ( USB Type-c ) ที่ออกแบบเพื่อให้ส่งข้อมูลได้รวดเร็วแล้ว การชาร์จไฟก็รวดเร็วทันใจอีกด้วย รองรับกระแสไฟได้สูงสุดถึง 5 mAh เลยทีเดียว
นอกจากประเภทต่างๆ ของสายชาร์จแล้ว ปัจจัยของการเลือกซื้อยังมีอีกหลายหลากดังนี้
คัดความยาวที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน
ตอนนี้สายชาร์จมักจะมีให้เลือกสรร 2 อย่างไม่ว่าจะเป็นอย่างยาวราวๆ 1 - 5 เมตร หรือว่าจะเป็นแบบสั้นระดับ 10 ซม. โดยการเลือกนั้นจำเป็นจะต้องดูการใช้งานของคุณด้วยว่าเป็นแบบไหน ส่วนใหญ่ถ้าหากใช้สายบนโต๊ะทำงานหรือใช้ทั่วๆ ไป เลือกสายยาวไว้พอเหมาะเพราะมีความคล่องแคล่วกว่ามาก ไม่จำเป็นจะต้องหวั่นใจว่าจะรั้งสายจนหลุด
ถึงกระนั้นถ้าหากคุณเป็นคนที่เดินทางออกภายนอกสถานที่บ่อย ๆ แล้วล่ะก็ การซื้อสายที่สั้นกว่า 1 เมตรจักเข้าท่าเข้าทางกว่า เนื่องจากไม่จำต้องระวังเรื่องสายจักผูกจนคดงอและยับเยินขณะที่เก็บได้
วัสดุต้องยืดหยุ่น
ปกติสายชาร์จจะต้องมีความยืดหยุ่นและไม่หักง่ายๆ แต่ว่าหากสายไหนเกิดใช้งานแล้วอยู่ดี ๆ เกิดอาการหักในขึ้นมา บ่งบอกว่าสายนั้นมิได้มาตรฐาน
เพราะฉะนั้นการเลือกสายชาร์จสมาร์ทโฟนพึงเลือกที่ราคาสมเหตุสมผล หากเน้นหนักของย่อมเยาแต่คุณภาพไม่อาจจะใช้งานได้จริงๆก็ถือได้ว่าเสียเงินฟรีนะขอรับ
สามารถโอนถ่ายข้อมูลจากคอมได้
ถ้าหากสายที่ซื้อมามีราคามิได้ถูกเกินควรหรือแพงเกินพอดี จักต้องสามารถถ่ายโอนข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ได้ แม้กระนั้นถ้าสายที่ถูกเกินไป โดยมากจักออกแบบให้ชาร์จไฟได้อย่างเดียวเวลาเสียบกับคอมพิวเตอร์แล้วจักมิค่อยมองเห็นข้อมูลในเครื่อง
ต้องมีความสะดวก
แน่นอนว่าสายชาร์จที่ถูกใจจะต้องมีระบบดูแลรักษาอุบัติเหตุในแบบต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น การปรับกระแสไฟฟ้าให้สม่ำเสมอก่อนนำกระแสไฟฟ้าเข้าเครื่องหรือว่าระบบตัดการทำงานครั้นเมื่อเกิดการลัดวงจร รวมทั้งการใช้วัสดุอย่างทองแดงสำหรับการพากระแสไฟฟ้าที่ดี ไม่ขัดข้อง
ควรจะเลือกสายที่ทนทาน
สาเหตุที่หลายๆ คนเปลี่ยนสายชาร์จบ่อยๆ เป็นส่วนใหญ่จะมีหลักใหญ่ที่ข้อต่ออยู่ที่หัวมักเกิดเหตุการณ์ไม่ทำงานได้บ่อยครั้ง ในบางกรณีอาจเกิดความร้อนที่สั่งสมทำเอาพลาสติกหรือชิ้นส่วนปกคลุมเกิดขาด หรือแตกหักจนไม่อาจจะใช้งานต่อไปได้ การเลือกสายบางครั้งจะต้องดูความเหนียวและมีความดีดตัวได้สูงเพื่อที่จะรองรับการใช้งานในรูปแบบต่างสภาวการณ์ และวัสดุที่น้ำหนักเบา ไม่ว่าจะเป็น อลูมิเนียม อัลลอยเพื่อยืดอายุการใช้งานไปได้อีก
ทุกวันนี้ในกลุ่มสมาร์ทโฟนมีเทคโนโลยีการชาร์จเร็วหรือ Fast Charge ซึ่งสำหรับ iPhone ในเวลานี้มีเพียง iPhone 8 , iPhone 8 Plus และ iPhone X เท่านั้นที่รองรับ เพราะเช่นนั้นการซื้อหาสายชาร์จ iPhone ที่ระบุว่า Fast Charge นั้นไม่จริง เพราะต้องขึ้นอยู่กับ Adaptor ที่จะจ่ายไฟว่าสามารถจ่ายได้แค่ไหน และต้องเปลี่ยนหัว Adaptor ใหม่เป็นขนาด 1.5 mAh แม้กระนั้นการชาร์จไฟจำเป็นต้องปล่อยกระแสไฟฟ้าไม่เกิน 2.1 mAh มิเช่นนั้นอาจจะเกิดอันตรายได้
ทางด้านกรณี Android บางรุ่นมีเทคโนโลยี Fast Charge ที่ชาร์จแค่ 30 นาที ได้ถึง 80% แล้ว ทั้งนี้จำต้องสำรวจสมาร์ทโฟนของคุณว่ารองรับเทคโนโลยี Fast Charge หรือไม่ โดยยี่ห้อระดับตัวท็อป ไม่ว่าจะเป็น Samsung , Huawei , OPPO , SONY รุ่นใหม่ ๆ
และนี่คือเคล็ดลับการเลือกซื้อสายชาร์จมือถือที่ผู้ใช้ทุกคนไม่ควรมองข้าม หวังว่าจะหยิบยกไปใช้ประโยชน์ในการเลือกอุปกรณ์ประเภทนี้ในครั้งต่อๆ ไปนะขอรับ
Tags : สายชาร์จ,ซื้อ สายชาร์จ,สายชาร์จ ยี่ห้อไหนดี
