เป็นที่รู้กันว่าถ้าหากเอ่ยถึงเทคโนโลยีการพิมพ์ Epson ก็คือแบรนด์ที่ในแวดวงวางใจมาเป็นเวลานานมาก เพราะทุกวันที่โลกหมุนไป Epson ก็ได้ขยายผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดนิ่งจนเป็นขวัญใจของสำนักงานทั่วโลกเลยก็ว่าได้
ทั้งหมดมาจากปรัชญาการดำเนินธุรกิจแบบ “ShoShoSei” คือ ต้องกะทัดรัด ประหยัดพลังงานและมีความถูกต้องสูง มาพร้อมด้วยวิธีการการผลิตที่ให้ความสำคัญต่อการผสานระหว่างศาสตร์และศิลป์เข้าด้วยกัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘The Art and Science of Manufacturing’ เพื่อสร้างความคุ้มค่ามากสุดให้แก่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์
จากแหล่งกำเนิดด้วยการผลิตนาฬิกาขึ้นในโรงเก็บมิโซะ (Miso) เมืองซูวะ (Suwa) ทางตอนกลางของแดนซามูไร เมื่อ 70 ปีก่อน ถัดจากนั้นในปี 1968 ก็ได้ผลิตเครื่องพิมพ์ Epson รุ่น EP-101 เครื่องพิมพ์นี้จัดทำขึ้นเพื่อการชิงชัยกีฬาโอลิมปิกส์โดยจัดขึ้นในนครโตเกียว เพื่อที่จะทำงานร่วมกับเครื่องมือจับเวลาอย่างเป็นทางในการชิงชัย ซึ่งหาโดยบริษัท Seiko ที่เป็นบริษัทแม่ของ Epson นับว่าเป็นเครื่องพิมพ์รุ่นแรกที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก จากจุดเริ่มต้นธุรกิจการค้าเล็กๆ ในวันนั้น จนกระทั่งวันนี้
Epson เติบโตขึ้น ทุกวันนี้มีจำนวนเจ้าหน้าที่กว่า 70,000 คนทั่วโลก มีรายรับและยังมีฐานการผลิตทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐฯ บราซิล จีน สิงคโปร์ และประเทศไทย มีรายได้จบไตรมาส 3 ของปี 2014 โดยประมาณ 9.7 พันล้านดอลลาร์
มาซารุ คาตากิริ รองผู้จัดการใหญ่ทั่วไป ฝ่ายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางธุรกิจ บริษัท SeikoEpsonCorporation กล่าวว่า การที่ Epson จะย่างก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทใหญ่ระดับโลกได้ บริษัทยึดหลักปรัชญาแนวคิดการดำเนินธุรกิจแบบ “ShoShoSei” คือ ต้องกะทัดรัด ประหยัดพลังงาน และมีความแม่นยำสูงในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ยิ่งไปกว่านั้นยังควรซื่อตรงกับผู้ซื้อและบุคลากรในบริษัทด้วย
ปัจจุบัน Epson มีสินค้าหลากหลายรุ่นด้วยกันที่ได้รับความชื่นชอบและรางวัลมากมาย รองรับการใช้งานเฉพาะบุคคลและในทุกกิจการ เช่น ช่างภาพมืออาชีพ กิจการการพิมพ์ป้ายขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นตัวนำตลาดสำหรับเครื่องพิมพ์ใบเสร็จรับเงินในระบบ POS สำหรับธุรกิจค้าปลีกทุกชนิด รวมทั้งเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ และหุ่นยนต์ Robot แขนกลอัตโนมัติเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม
ในอนาคตกาล Epson ต้องการจะขยายขอบเขตการพิมพ์ให้มีศักยภาพมากขึ้น อาทิเช่น โปสเตอร์ กลุ่มสิ่งทอ ซึ่งทางบริษัทได้รุกเข้าไปทำตลาดสักพักแล้ว ยิ่งไปกว่านี้ในกลุ่มการสื่อสารทางภาพ บริษัทต้องการจะเปลี่ยนแปลงให้ทุกท่านเข้าถึงการใช้ภาพได้ทุกแห่งทุกโอกาส เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่อินเตอร์เน็ตตามกลุ่มคนไปได้ทุกหัวระแหงอย่างเดี๋ยวนี้
สำหรับที่บ้านเรานั้น Epson บ้านเรา มีวงจรข่ายที่ครอบคลุมซึ่งรวมเบ็ดเสร็จ 205 คู่ค้าจดทะเบียนและดำเนินงาน 85 ศูนย์บริการ และ 1 โซลูชั่นเซ็นเตอร์เพื่อให้การสนับสนุนและบริการ
แน่นอนว่าสินค้าของ Epson นั้นมีจำนวนมากเพื่อจะรองรับผู้ซื้อที่ต่างๆ นาๆ ซึ่งหากว่าใครกำลังสนใจเครื่องปริ้นของ Epson อยู่นั้น เรามีเครื่องปริ้น multifunction ที่อยากแนะนำในปี 2018 ให้ทุกคนได้ทบทวนกัน
1. Epson All In One Inkjet Printers รุ่น L360 Ink Tank
รุ่นนี้เป็นรุ่นที่น่าสนใจมาก เนื่องจากมีฟังค์ชั่นมากมาย อาทิ ปริ้นท์ Copy Scan ยิ่งไปกว่านี้มาพร้อมทั้งจุดแข็งที่เทคโนโลยีหัวพิมพ์ Micro Piezoให้ความเร็วในการพิมพ์สูงถึง 9.2 รูปภาพต่อนาที สำหรับการพิมพ์ขาวดำแบบปกติธรรมดา และ 33 หน้าต่อนาทีสำหรับการพิมพ์ขาวดำแบบร่าง ให้เอกสารจำนวนมาก มีศักยภาพและฉับไว ผลิตภัณฑ์สวนทางกับรายจ่ายได้อย่างพอดี ด้วยพรินเตอร์แท็งค์แท้ของ Epson ช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถรองรับการพิมพ์ได้สูงถึง 6,500 แผ่น สำหรับงานพิมพ์สี และ 4,000 แผ่น สำหรับงานพิมพ์ขาวดำมูลค่า 3,795 บาท
จุดเด่น
- ประหยัดรายจ่าย สามารถรองรับการพิมพ์ได้สูงถึง 6,500 แผ่น สำหรับงานพิมพ์สี และ 4,000 แผ่นสำหรับงานพิมพ์ขาวดำ
- มาพร้อมกับ Ink Tank แท้ที่มีข้อเด่นที่น้ำหมึกถูก ปริมาณเยอะ
ข้อคิดเห็น
- ไม่รองรับ Fax
- ไม่รองรับการปริ้นท์ผ่าน Wifi
2.
Epson L565 เครื่องพิมพ์มัลติฟังชั่น อิงค์เจ็ท
เป็นรุ่นใหญ่ที่รองรับการปริ้นท์มากขึ้นไปอีก นี่คือมัลติฟังก์ชันอิงค์เจ็ท Print/ Copy/ Scan/ Fax(With ADF) พิมพ์งานความเร็วมาตรฐานขาวดำ 9.2 pm, สี 4.5 ipm ความละเอียดการสแกนสูงสุด 1200 x 2400 dpi(optical) รองรับการส่งแฟกซ์ทั้งแบบ Flatbed และถาด ADF รองรับการเชื่อมต่อไร้สายในแบบ Wi-Fi และ Wi-fi Direct มูลค่า 8,390 บาท
ข้อดี
- รองรับความละเอียดในการปริ้นท์และสแกนที่สูงมาก
- รองรับ Fax
- รองรับการสั่งงานผ่าน Wifi
ข้อคิดเห็น
- ราคาแพงกว่าคู่แข่งเล็กน้อย
และนี่คือเหตุการณ์ของเครื่องปริ้น Epson ที่กระผมมุ่งมั่นมาบรรยายทุกคน คาดหวังว่าจะดีรวมทั้งในด้านความรู้และเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกเฟ้นซื้อปริ้นเตอร์เครื่องใหม่กันนะครับ
Tags : Epson,เครื่องปริ้น epson,Epson ราคา