รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติศาสตร์สังคม ร็อกแอนด์โรล ต้อง “Jim Marshall”  (อ่าน 66 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

asianoned

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3602
    • ดูรายละเอียด

Permalink: ประวัติศาสตร์สังคม ร็อกแอนด์โรล ต้อง “Jim Marshall”
                ถ้าหากท่านเป็นคนที่เคลิ้มในเสียงเพลง หรือเสียงเพลง เชื่อว่าท่านจักต้องรู้จักมักจี่ยี่ห้อเครื่องเสียงแบรนด์นี้เป็นอย่างดีแน่นอน เนื่องจากเป็นยี่ห้อที่ได้รับความนิยมชมชอบขนานใหญ่ ดังเช่น ลำโพง หูฟัง เครื่องกระจายเสียง และต่างๆ อีกนานาประการ โดยเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์นี้ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของตำนานกลุ่มเพลงRock and Rollเลยก็ว่าได้ อีกทั้งแบรนด์ที่กำลังกล่าวขวัญอยู่นี้ก็คือ Marshall นั่นเอง โดยภูมิหลังของ Marshall นั้น จักมีภูมิหลังประการใดบ้าง พร้อมกับด้วยเหตุใดถึงได้มาเป็นยี่ห้อยิ่งใหญ่เช่นนี้ ดีฉันจะมาค้นหาคำตอบกัน
                Marshall นั้น ได้จัดตั้งขึ้นโดย Jim Marshall ซึ่งจุดเริ่มแรกอยู่ที่การเป็นนักดนตรีผู้เชี่ยวชาญมาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งมือกลอง ต่อจากนั้นก็ได้ผันตนเองมาดำเนินงานธุรกิจร้านรวงขายเครื่องดนตรี อีกทั้งเครื่องมืออื่นๆ โดยริเริ่มจากการจำหน่ายกลองชุดพร้อมด้วยกีตาร์ในลอนดอนเขตแดน Hanwell ซึ่งผู้ซื้อเป็นส่วนใหญ่จะเป็นนักดนตรีดนตรีร็อกแอนด์โรล ที่มีความโด่งดังในระยะเวลานั้น เช่น ริตชี แบล็กมอร์ หรือไม่ก็เป็น พีต ทาวน์เซนด์ แห่งวง The Who นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้ซื้อมากขึ้น
                จากนั้นก็เริ่มมีนักดนตรีมีชื่อเสียง หลายท่านเรียกร้องแอมป์ หรือเครื่องขยายเสียงสำหรับกีตาร์ที่มีขนาดใหญ่ อีกทั้งดังกว่าเดิม เนื่องจากตัวปัญหาที่พบโดยมากมักจะเป็นเรื่องความดังของเครื่องขยายเสียงที่ไม่พอดีในการสำแดงแสดงสดนั่นเอง Marshall จึงได้ตัดสินใจทดลองออกมาจำหน่าย และดันประสบผลสำเร็จอย่างยิ่ง กลายเป็นการเล่าปากต่อปาก จนวงดนตรีหลายๆ วง สนใจ Marshall จึงจัดหามาจัดการออกมาจำหน่ายอย่างจริงจัง และได้ก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า มาร์แชลแอมพลิฟิเคชัน ขึ้นในปี ค.ศ. 1962 นั่นจึงเป็นแหล่งกำเนิดของยี่ห้อ Marshall อย่างถ่องแท้
                แอมป์กีตาร์รุ่นแรกที่ทำให้นักดนตรีทั้งหลายโปรดปราน อีกทั้งยังเอื้อนคือความเห็นเดียวกันว่าเป็นแอมป์กีตาร์ที่น้ำเสียงเยี่ยมตามที่เคยมีมา (ในช่วงเวลานั้นนะ) ก็คือรุ่น JTM 45 และต่อจากนั้นมาในปี ค.ศ. 1965 Marshall ก็ได้พัฒนาสร้างแอมป์ขนาด 100 วัตต์ พร้อมกับตู้ลำโพงขนาด 4x12 นิ้ว อีกหลากหลายรุ่นตามออกมา จนได้รับความไว้ใจจากมือกีตาร์สายบลูส์ แนวร็อก จากวงโด่งดัง ระดับประวัติศาสตร์ตัวอย่างเช่น The Who, John Mayall and the Bluesbreaker, Led Zeppelin, Deep Purple รวมถึง AC/DC เป็นอาทิ
                และนั้นคือความยิ่งใหญ่ในยุค 60 ของ Marshall แบบสรุป อย่างไรก็ตามครั้นเมื่อเวลาได้ล่วงพ้นก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล แบรนด์ Marshall ที่เชี่ยวชาญในแวดวงเครื่องเสียงก็ได้ปรับปรุงและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาร่วมในการสร้างสินค้าเพื่อให้ทันยุค ทันสมัย พร้อมทั้งแม่นยำตามความอยาก หรือตอบโจทย์ผู้ซื้อเพิ่มมากขึ้น ภายใต้ชื่อ Marshall Headphone ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เหล่าหูฟัง เพื่อให้ลูกค้า หรือว่าคนทั่วๆ ไปให้ได้รับประสบการณ์การรับฟังเพลงในแบบของ Marshall รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เหล่าลำโพงที่สามารถต่อบลูทูธได้ โดยนั่นทำให้ Marshall ฮิตอย่างท่วมท้นด้วย ด้วยแบบเสียงที่ไม่เหมือนใคร และการออกแบบที่ดูเป็นวินเทจ คลาสสิค ดูดี โดยรุ่นหูฟังและลำโพงบลูทูธ Marshall ที่น่าสนใจ พร้อมกับจะแนะนำนั่นก็คือ หูฟังปราศจากสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth พร้อมกับลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore ซึ่งจักมีรายละเอียดปลีกย่อยดังนี้
 
หูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่น Major II Bluetooth
                เป็นหูฟังไม่มีสายที่มีความคลาสสิกอยู่ภายในตัว ดีไซน์สวยงาม งามตามีสไตล์ ขนาดกระชับสามารถพับได้ ทำให้พกพาไปไหนต่อไหนได้สบาย มีการเชื่อมต่ออย่างเร็วด้วย Bluetooth 4.0 อย่างไรก็ดีสามารถใช้ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ผ่านช่องหูฟัง 3.5 มม. ได้ด้วยเหมือนกัน  สามารถใช้งานได้นานมากถึง 30 ชั่วโมงด้วยแบต Li-ion Polymer (680mAh) อีกทั้งใช้เวลาชาร์จต่ำกว่า 4 ชั่วโมง โดยผ่าน Micro USB ส่วนของสุรเสียงก็ทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Marshall เหตุด้วยเบสแน่นๆ เสียงร้องกระจ่าง มีเสียงแหลมที่ไม่ขัดหู และเวทีเสียงที่สามารถจำแนกแยกแยะรายละเอียดของชิ้นส่วนดนตรีต่างๆ ได้อย่างดีเลิศ สมกับการเป็นสุดยอดตำนานแบรนด์เครื่องเสียง สายพันธุ์ร็อกโดยแท้จริง โดยหูฟังไม่มีสาย Marshall รุ่นนี้ สนนราคาจะอยู่ที่ไม่เลย 5,990 บาท
 
ลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore
                เป็นลำโพงบลูทูธที่มีขนาดค่อนข้างจะใหญ่ที่ได้ออกจัดจำหน่ายเป็นเวลายาวนานแล้วเช่นกัน แต่ว่าเรื่องของคุณภาพนั้นมิได้ต่ำไปกว่าเดิมเลย เป็นลำโพง Bluetooth 4.0 ที่ให้เสียงที่กระจ่างครบถ้วนบริบูรณ์ ด้วยระบบชิป aptX ดีไซน์ด้วยไดร์ฟเวอร์ภายในทั้งหมด 3 ตัว รวมถึงยังมี INPUT 4 ช่องทาง คือ Bluetooth, Optical, INPUT1 หรือว่าแจ็คขนาด 3.5 มม. พร้อมด้วย INPUT2 หรือ RCA ยิ่งไปกว่านี้ยังมีสมรรถนะในการปรับเสียงทุ้มแหลมได้อีกด้วย ให้น้ำเสียงเหมือนกับคุณกำลังฟังบทเพลงจากการเล่นดนตรีสดเลยก็ว่าได้ ซึ่งลำโพงบลูทูธ Marshall รุ่น Stanmore นี้จะมีราคาถูกที่ไม่มากเกิน 15,900 บาท หากว่าเปรียบกับสุรเสียงที่ได้ นับว่าคุ้มค่ามากๆ
                นั่นคือทั้งหมดที่ทางฉันได้หยิบยกฝากกันในวันนี้ โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงสมัยปัจจุบันนั้น ชาวเรายังคงเห็นแอมป์กีตาร์ยี่ห้อ Marshall สัญชาติอังกฤษนี้เกือบทุกเวทีเลย รวมทั้งหูฟัง และลำโพงที่จำนวนมากมากหลายรุ่นที่ไม่ว่ากาลเวลาจักผ่านไปยาวนานเพียงใด แต่ว่า Marshall ก็ยังคงไว้ความคลาสสิคตามแนวแบบ Marshall มิเคยเปลี่ยน

Tags : MARSHALL,marshall ราคา,หูฟัง marshall



โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี