แหวน เป็น เครื่องเพชรพลอยที่ใส่บนนิ้วมือของพวกเรา แสดงถึงความหมายรวมทั้งความภูมิฐานของผู้สวม มีทั้งๆที่สร้างจากทอง เงิน นากหรือหินจากธรรมชาติ ขึ้นกับความชื่นชมของบุคคล ต้นแบบสำหรับในการวางแบบมีความจำเป็นรวมทั้งสามารถสื่อความหมายออกมาได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของตัวเรือน หัวเรือนและก็รูปแบบของวงที่เอามารวมกัน ซึ่งแต่ละแบบจะมีความหมายที่ส่วนตัว ฉะนั้นถ้าเกิดปรารถนานำเครื่องเพชรพลอยนิ้วมือให้กับใครสักคน การรู้ความหมายเพื่อสื่อความรู้สึกของพวกเราไปสู่คนรับ ย่อมทำให้คุณค่าของสิ่งที่เรามอบให้มีมากขึ้น
แหวน เครื่องประดับเสริมความสวยงามที่ต้องมีติดนิ้วไว้
ด้วยเหตุดังกล่าวเรามาทำความรู้จักกับความหมายของตัวบ้านแล้วก็หัวเรือนในแต่ละแบบกัน
1. แบบเม็ดยอดหรือเม็ดผู้เดียว ( Solitaire ) เป็น แบบที่มีหัวเรือนเป็นเม็ดเดียว สะดุดตาสะดุดตาอยู่บนตัวเรือนเรียบ ไม่ว่าจะหัวเรือนจะเป็น เพชร พลอย หรือหินที่เป็นมงคล การออกแบบจะเน้นย้ำที่ส่วนยอดของหัวเรือนให้มีขนาดใหญ่ ซึ่งหัวเรือนจะเป็นแบบกลม แบบสี่เหลี่ยมหรือหลายเหลี่ยมก็ได้ แต่ที่นิยมจะเป็นสี่เหลี่ยมและวงกลม อีกทั้งแบบที่มีเพียงแค่เม็ดเดียวหรือมีเม็ดเล็กเล็กเรียงอยู่ด้านข้างก็ได้ นิยมใช้เพื่อสำหรับในการงานแต่งงาน งานหมั้นหมาย เนื่องจากว่าแบบนี้เป็นการออกแบบที่สื่อถึงความรักเดียวใจเดียวราวกับหัวเรือนที่โดดเด่นเพียงแต่เดียวในใจนั่นเอง
2. แบบรอบวง (Infinity Rings ) เป็น แหวนแบบที่มีการติดเม็ดอยู่รอบวงจนกระทั่งเต็มไม่มีพื้นว่าง ซึ่งจะเป็นเม็ดพลอย เพชร หรือหินมงคลก็ได้ตามความชื่นชอบ ทุกเม็ดที่เอามาจัดเรียงบนตัวบ้านจะมีลักษณะแบบเดียวกันหมด ทั้งขนาดรวมทั้งรูปร่าง แต่อาจจะสีสันที่ต่างๆนาๆบ้าง แม้กระนั้นไม่มีเม็ดใดเด่นหรือด้อยกว่ากัน ก็เลยไม่อาจจะระบุได้ว่าเม็ดใดเป็นเม็ดแรกหรือเม็ดในที่สุดบนตัวเรือน นิยมใช้ในงานหมั่น ของขวัญครบรอบสมรส หรือในจังหวะสำคัญให้กับแฟน เพื่อสื่อความหมายถึงความรักที่มีอยู่วันเป็นรักที่ไม่มีวันสิ้นสุด เหมือนแหวนที่ไม่มีจุดสิ้นสุดบนตัวบ้านนั่นเอง
3.แบบเกลี้ยง ( Classic Rings) คือ แบบที่ราบเรียบไม่มีการแต่งลวดลายบนตัวเรือน ซึ่งเป็นเครื่องหมายของคำมั่นสัญญาว่ารักมั่นคงตลอดกาล ปต่ในขณะนี้อาจมีการแต่งลวดลายเป็นเส้นหรือการเล่นสีของสิ่งของที่นำมาใช้สำหรับเพื่อการผลิต เพื่อสร้างความโดดเด่นแล้วก็ความสวยสดงดงามให้กับตัวบ้าน ตัวอย่างเช่น การใช้ทองคำขาวสลับกับทองคำ หรือเซาะร่องเพื่อให้กำเนิดลายเส้น ฯลฯ แต่ว่าก็ยังถือได้ว่าแบบสะอาดตัวอย่างเช่นเดิม นิยมใช้สวมในพิธีสมรสตามศาสนาคริสต์ ที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะสวมให้แก่กันและกัน เพื่อแทนความหมายของคำสัญญาว่าเราจะอยู่ร่วมกันตลอดไปนั่นเอง
4. แบบเพชรสามเม็ดเรียง (3 Stones Rings) คือ
แหวนแบบอย่างที่ตัวบ้านมีหัวเรือนสามหัวเรียงกัน ซึ่งขนาดของหัวเรือนจะมีขนาดที่เสมอกันหรือไม่ก็ได้ แม้กระนั้นแบบที่นิยมคือ หัวเรือนกึ่งกลางจะมีขนาดใหญ่สุด หัวเรือนทางขวาและซ้ายมีขนาดเล็กลงวางอยู่ข้างๆหัวเรือนกึ่งกลาง ซึ่งการจัดเรียงกันของหัวเรือนทั้งสามนี้ จะสื่อถึงสมัยก่อน ปัจจุบันแล้วก็อนาคตที่คนสองคนมีร่วมกันกัน หรือแทนคำสาบานว่า ไม่ว่าจะอดีตกาล ปัจจุบันนี้หรืออนาคต พวกเราก็จะอยู่ด้วยกันนั่นเอง
5. แบบสามวง (Trinity Rings) คือ รูปแบบที่มีตัวเรือนสามห่วงรวมอยู่ในวงเดียวกัน ซึ่งทั้งตัวเรือนอีกทั้งสามห่วงจะเป็นผู้แทนของพระพ่อ พระบุตร และก็ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ตามความนับถือของคริสเตียน ซึ่งตัวเรือนทั้งสามห่วงจะไม่สามารถที่จะแยกออกจากกันได้ จึงสื่อความหมายถึงความรัก ความปรองดอง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของผู้ให้แล้วก็ผู้ส่วมใส่นั่นเอง
6. แบบค็อกเทล (Cocktail Rings) เป็น แบบที่มีการใส่จินตนาการและก็สีสันลงไป มีรูปแบบที่ไม่ยึดติดแบบใดเป็นหลัก ทั้งหัวและตัวเรือนสามารถปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนได้ตามความชื่นชอบของผู้สวมใส่ จึงแสดงถึงอิสระและก็เสรีภาพนั่นเอง ซึ่งนิยมใส่เป็นเครื่องเพชรพลอยทั่วๆไป หรือจัดทำเป็นชุดคู่กับสร้อย ข้อมือ ต่างหูก็ได้
ที่นี่เมื่อทราบความหมายของแหวนแต่ละแบบแล้ว การเลือกแหวนเพื่อสื่อความรู้สึกในใจหรือแทนความรู้สึกที่เรามีให้กับผู้รับอาจเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยากเย็น แหวนเป็นผู้แทนความหมาย ความรู้สึกที่ดีสำหรับมอบให้คนที่คุณรักในทุกจังหวะ
Tags : แหวน,แหวน