ในบรรดาโทรศัพท์โทรศัพท์เคลื่อนที่ของ Samsung ที่รู้จักมักคุ้นและเป็นที่นิยมของลูกค้าในไทย หนึ่งในนั้นต้องมีซีรีย์ A อย่างแน่แท้โดยถ้าย้อนไปในปี 2016 การเปิดฉากของ Samsung Galaxy A9 ก็ทำให้ตลาดโทรศัพท์มือถือระดับกลาง กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งโมเดลที่มีบทบาทในบ้านเรามากมายก่ายกองคือ Samsung Galaxy A9 Pro โดยมาพร้อมศักยภาพและการดีไซน์ที่สละสลวย จนกระทั่งเวลานี้ใครที่มีในครอบครองก็ยังถือว่าไม่ตกยุค พวกเราไปทำความรู้จักกับสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ให้ดีขึ้นกันดีกว่า
Samsung Galaxy A9 Pro มาพร้อมกับสเปคที่ดีที่สุดในบรรดามือถือตระกูล Aทั้งสิ้นในขณะนั้น โดยทาง Samsung (ประเทศไทย) เองก็ได้วางขาย Samsung Galaxy
A9 Pro อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2016 ด้วยราคาที่ไม่แพงมากนักนั่นคือ15,900 บาท
รูปร่างข้างนอกมีขอบตัวเครื่องทำจากโลหะโค้งมน 4 ด้านแบบ Metal-Glass Unibodyผสานกระจก Gorilla Glass 4 โดยที่ตรงกลางเครื่องเว้าแหว่งเข้าไม่เท่าไร สามารถถือได้ถนัดตัวเครื่องมีขนาด 161.7 × 80.9 × 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 210 กรัมเหนือจอจากทางด้านซ้ายมีระบบเซ็นเซอร์ ถัดมาทางด้านขวาเป็นช่องลำโพงส่วนล่างจอมีปุ่มทำงานบนพื้นฐานแอนดรอยด์ 3 ปุ่ม ซึ่งกึ่งกลางเป็นปุ่มโฮม มีลักษณะวงรีนูนขึ้นมาจากตัวเครื่อง โดยด้านซ้ายเป็นปุ่มเมนูที่ใช้งานก่อนหน้านี้ และด้านขวาเป็นปุ่มย้อนกลับตัวเครื่องข้างบนมีรูไมค์ตัวที่ 2 ช่วยตัดเสียงรบกวน พร้อมช่องเพื่อใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก Micro USB ปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด อยู่ทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง
มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร รวมไปถึงพอร์ต Micro USB เพื่อชาร์จแบตเตอรี่และซิงค์ข้อมูล ช่องลำโพงเสียงและรูไมค์จัดวางไว้ที่ด้านล่างของตัวเครื่องตามลำดับไม่สามารถถอดออกฝาหลังออกได้ มีเลนส์กล้องถ่ายภาพด้านหลังเป็นสี่เหลี่ยม และทางขวามีไฟแฟลช LED
คุณลักษณะโดดเด่นคือ แบตเตอรี่มีขนาดความจุมากถึง 5000 mAhสามารถรองรับการใช้งานตลอดทั้งวันได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องกลัวแบตเตอรี่จะหมด รวมไปถึงหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ยักษ์ถึง 6 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD นอกเหนือจากเรื่องแบตอึด และจอใหญ่แล้ว ในด้านอื่น ๆ ก็ถือได้ว่าไม่ธรรมดาเลยทั้ง ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 652, หน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB, หน่วยความจำภายในตัวเครื่องขนาด 32 GB รองรับ microSD Card สูงสุด 200 GB, กล้องถ่ายภาพข้างหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับรูรับแสง F/1.9, กล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยรูรับแสง F/1.9 และระบบกันภาพสั่นแบบ OIS, รองรับ NFC, รองรับเครือข่าย 4G LTE Cat.6, รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และรองรับเซ็นเซอร์สแกนลายพิมพ์นิ้วมือ
Samsung Galaxy A9 Pro ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 (Marshmallow) ใช้งานง่าย สามารถเติมแต่งหน้าโฮมได้อย่างอำเภอใจระบบการใช้งานทั่วๆ ไปรวมไปถึง Multitasking นับว่าทำได้ดี เนื่องมาจากให้แรมมาถึง 4 GB ทำให้การสลับแอพพลิเคชั่นทำได้อย่างไม่ชะงัก สำหรับ Notification Bar ที่อยู่ส่วนบนยังเป็นจุดศูนย์รวมการตั้งค่าตัวเครื่องขนาดย่อยซึ่งถือว่าง่ายต่อใช้งาน
ทางด้านการเล่นเกม สามารถเล่นเกมที่มีกราฟฟิกดูดีที่ออกมาในปี 2016 อย่าง Rayman Adventure, Hungry Shark และ Trials Frontier อย่างลื่นไหล ส่วนเกมใหม่ ๆ อย่าง OZ Kingdom ก็สามารถเล่นได้อยู่ แต่ว่าก็มีกระตุกอยู่บ้าง
ในส่วนของกล้อง กล้องถ่ายภาพข้างหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash โดยมีเซ็นเซอร์ขนาด 1/2.8 และมีรูรับแสงกว้าง f/1.9 ซึ่งมาพร้อมคุณลักษณะ OIS กับรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 1080p@30fps ในส่วนของกล้องถ่ายรูปด้านหน้ามากับความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง f/1.9 ด้วยเช่นกัน ทำให้ถ่ายภาพเซลฟี่ในที่มืดได้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิมและรองรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องถ่ายรูปด้านหน้าความละเอียด 1080p
สำหรับซอฟต์แวร์ของกล้องถ่ายรูปนั้นมีการใช้งานที่ง่ายและสะดวกมาก โดยมีคีย์ลัดในการเข้าแอพพลิเคชั่นของกล้องถ่ายรูปได้อย่างเร็ว เพียงแค่กดที่ปุ่มโฮมสองครั้งติดกัน และเมื่อเปิดเข้ามาสามารถเลือกว่าจะถ่ายรูปหรือถ่ายวิดีโอได้เลย สำหรับโหมดการถ่ายภาพนั้นมีมาให้ครบดังเช่นโหมดอัตโนมัติ HDR ถ่ายภาพต่อเนื่อง ถ่ายภาพ กลางคืน ถ่ายพาโนราม่า และถ่ายแบบโปรที่สามารถปรับค่าต่าง ๆ เองได้เสียดายที่กล้องหน้าไม่มีโหมด Shape Correction ที่ทำให้รูปทรงของหน้าคุณไม่ผิดปกติครั้นโดนยืดให้ดูอุ้ยอ้ายเมื่ออยู่ขอบจอ โดยในขณะนั้นจะอยู่แค่ในรุ่น Flagship อย่าง Galaxy S7 และ Galaxy Note 5
และนี่คือการเจาะลึกสเปกของ Samsung Galaxy A9 Pro ที่เปิดตัวในปี 2016 ต้องบอกว่าคุ้มค่าจริง ๆ สำหรับการใช้งานทั่วๆ ไป โดยปัจจุบันนี้ร้านค้าบางพื้นที่ในเมืองไทยยังอาจมีขายอยู่บ้าง ด้านราคาก็ลดจากแต่แรกมามาก หากว่าใครสนใจก็ไปหาซื้อกันได้
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
A9 ราคาTags : A9,A9 ราคา,Samsung A9