รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: ชีววิทยาของเม่น  (อ่าน 77 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

าร

  • บุคคลทั่วไป
ชีววิทยาของเม่น
« เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 05:53:52 AM »

Permalink: ชีววิทยาของเม่น

เม่น
เม่นเป็นสัตว์เลือดอุ่น
จัดอยู่ในสกุล Hystricidae
เม่นที่เจอในประเทศไทยมี ๒ จำพวก ดังเช่น
๑.เม่นใหญ่แผงคอยาว
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hystrix brachyuran Linnaeus
ชื่อสามัญว่า Malayan porcupine
เม่นประเภทนี้มีขนาดวัดจากปลายจมูกถึงโคนหางยาว ๖๓ – ๗๐ เซนติเมตร หางยาว ๖ – ๑๐ ซม. น้ำหนักตัว ๓-๗ กก. ขนบนลำตัวเป็นขนแข็งใช้ป้องกันภัย หัวเล็ก จมูกป้าน มีหนวดยาวสีดำ บริเวณลำตัว คอ แล้วก็ไหล่ มีขนแข็ง สั้น สีดำ ขนใต้คอสีขาว ตาเล็ก ใบหูเล็ก ขนตั้งแต่ข้างหลังไหล่ไล่ลงไปแข็งยาว ด้านโคนและปลายสีขาว ตรงกลางสีดำ ปลายแหลม หางมีขนคล้ายหลอดสั้นๆขาสีดำเม่นชนิดนี้ชอบออกหากินตามลำพังในช่วงกลางคืน รักสงบ เวลาพบศัตรูจะวิ่งหนี พอจวนตัวจะหยุดนิ่งแล้วพองขนขึ้น ศัตรูที่ไล่ตามมาอย่างเร็วแม้หยุดไม่ทันก็จะโดนขนเม่นตำ และก็ถ้าหากศัตรูใช้ตีนตะปบก็จะโดนขนเม่นตำเช่นกัน ได้รับความเจ็บปวดเจ็บมากมาย เมื่อศัตรูผละหนีไปแล้ว เม่นก็จะหลบเข้าโพรงไม้หรือโพรงดิน ขนเม่นที่หลุดออกไปจะมีขนใหม่แตกออกขึ้นมาแทนที่ เม่นชนิดนี้กินผัก หญ้าสด หน่อไม้ เปลือกไม้ ผลไม้ และก็กระดูกสัตว์ เริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุราว ๒ ปี ตั้งครรภ์นาน ๔ เดือน ตกลุกครั้งละ ๑ -๓ ตัวในโพรงที่ขุดอาศัย ลูกเม่นแรกเกิดมีขนที่อ่อน แต่เมื่อถูกอากาศด้านนอกขนจะค่อยๆแข็งขึ้น อายุราว ๒๐ ปีพบทางภาคใต้ของประเทศไทย ในต่างแดนเจอที่มาเลเชียและอินโดนีเซีย
๒. เม่นหางพวง
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Atherurus macroura (Linnaeus)
ชื่อสามัญว่า bush-tailed porcupine
เม่นประเภทนี้มีความยาวลำตัววัดจากปลายจมูกถึงโคนหาง ๔๐ – ๕๐ เซนติเมตร หางยาว ๑๕ – ๒๐ เซนติเมตร น้ำหนักตัว ๒.๕ – ๕ กิโล จมูกเล็ก มีหนวดยาว ใบหูเล็ก ลำตัวยาว ขาสัน มีขนแข็งปกคลุมทั่วตัว ขนบางส่วนแข็งและปลายแหลมมาก คล้ายหนาม ขนส่วนที่ยาวที่สุดอยู่บริเวณกลางข้างหลังขนแบน มีร่องยาวอยู่ข้างบน ตอนกึ่งกลางหางไม่ค่อยมีขน แต่เป็นเกล็ด โคนหางมีขนสั้นๆปลายหางมีขนงอกดกหนาเป็นกระจุก ดูเป็นพวง ขนดังกเงินล่าวแข็งรวมทั้งคม ส่วนขนที่ศีรษะบริเวณขาอีกทั้ง ๔ และก็รอบๆใต้ท้อง แหลม แต่ไม่แข็ง ขาค่อนข้างสั้น ใบเครื่องทอผ้าลมและก็เล็กมากมาย เล็บเท้าดูถูกตรง ทื่อ แล้วก็แข็งแรงมากมาย เหมาะสำหรับขุดดิน เม่นจำพวกนี้ออกหากินในช่วงกลางคืน กลางวันมักหลบอยู่ในโพรงดิน ตามโคนรากของต้นไม้ใหญ่ หรือตามซอกหิน มักออกหากินเป็นฝูง ใช้ขนเป็นอาวุธปกป้อง กินหัวพืช หน่อไม้ เปลือกไม้ รากไม้ ผลไม้ แมลง เขาและก็กระดูกสัตว์ ตกลูกครั้งละ ๓- ๕ ตัวในโพรงที่ขุดอาศัย ลูกเม่นแรกเกิดมีขนอ่อนนุ่ม แม้กระนั้นจะต่อยๆแข็งขึ้นอายุราว ๑๔ ปี พบในทุกภาคของประเทศไทย ในต่างประเทศพบทางภาคใต้ของจีน แล้วก็ที่ลาว เวียดนาม เขมร มาเลเซีย แล้วก็อินโดนีเซีย

คุณประโยชน์ทางยา
หมอแผนไทยใช้ขนเม่นที่สุมไฟให้ไหม้แล้วปรุงเป็นยาแก้ตานซาง แก้พิษรอยแดง พิษไข้ เชื่อมซึม กระเพาะอาหารของเม่นใช้ปรุงเป็นยากินบำรุงน้ำดี ช่วยทำให้ลำไส้มีกำลังบีบย่อยของกิน พระตำราปฐมจินดาร์ให้ยาขนานหนึ่ง เข้า“ขนเม่น” เป็นยาใช้ภายนอกตัวเด็ก ดังต่อไปนี้ ภาคหนึ่งยาใช้ภายนอกตัวกุมารกันสรรพโรคทั้งหมด แล้วก็จะเป็นไข้อภิฆาฏก็ดี โอปักกะไม่กาพาธก็ดี ท่านให้เอาใบมะชน คราบเปื้อนงูเห่า หอมแดง สาบนกแร้งสาบกา ขนเม่น ไพลดำ ไพลเหลือง บดทำแท่งไว้ ละลายน้ำนมโค ทาตัวกุมาร ชำระความมัวหมองโทษทั้งผองดีนัก



โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี

ชีววิทยาของเม่น
« เมื่อ: มีนาคม 28, 2019, 05:53:52 AM »
SEO