หากเอ่ยถึง Huawei พวก P Series ตัวแรกที่นึกถึงเลย ก็น่าจะหลีกเลี่ยงไม่พ้น Huawei P9 เนื่องมาจากช่วงที่เปิดตัวรุ่นนี้ออกมาเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2559 นับว่าเรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะว่าความเป็นกล้องถ่ายรูปคู่ที่ได้รับการผสมผสานของเทคโนโลยีที่เข้าร่วมพัฒนากับ LEICA จึงเป็นเหตุให้ Huawei P9 ที่สามารถถ่ายรูปที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างงดงาม และยังได้รับความชื่นชมอยู่ในทุกวันนี้ วันนี้เราจะนำทางย้อนรอยเรื่องกล้องถ่ายรูปของ Huawei P9 อีกครั้ง ไปดูกันครับ
Huawei P9 มีกล้องถ่ายรูปหลัง 2 กล้องที่ทาง Huawei ได้ร่วมแรงร่วมใจกับทาง LEICA ซึ่งเป็นบริษัทกล้องถ่ายรูปขั้นตำนานมาเข้าร่วมดีไซน์กล้องถ่ายภาพให้กับทาง Huawei P9 โดยบริเวณกล้องถ่ายภาพข้างหลังจะมีข้อความกำกับไว้ว่า LEICA ซึ่งล่าง LEICA จะเขียนไว้ว่า Summarit H 1:2.2/27 APSH ซึ่ง Summarit เป็นการบอกช่วงขนาดรูรับแสงของเลนส์ LEICA ส่วนเลขห้อยท้าย 1:2.2 คือเลนส์มีรูรับแสงขนาด 2.2 และเลข 27 คือทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 27mm ซึ่งถือเป็นระยะที่ให้มุมกว้างที่เหมาะเลยเชียว
โดยกล้องถ่ายรูปตัวแรกของ Huawei P9 เป็นกล้องถ่ายภาพที่มีเซนเซอร์รับภาพสี (RGB) ในขณะกล้องตัวที่ 2 จะเป็นกล้องถ่ายรูปที่ใช้เซ็นเซอร์รับภาพขาว-ดำ (Monochrome) ซึ่งให้ภาพที่คมชัดกว่า สามารถรับแสงได้มากกว่าปกติธรรมดา และการที่รับแสงได้มากกว่า นั่นหมายความว่าปริมาณ noise ที่น้อยกว่านั่นเอง จึงได้คุณภาพของไฟล์ภาพที่ดีกว่า แต่กล้องทั้งสองตัวก็มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดพิกเซล 1.25 ไมครอน, ไฟแฟลช LED แบบ Dual-Tone และระบบการโฟกัสภาพแบบ Hybrid Autofocus แบบเดียวกันเลย อีกอย่างถึงแม้จะแยกเป็นกล้อง RGB กับ กล้องถ่ายภาพ Monochrome แต่ว่ากล้องทั้งสองตัวจะทำงานด้วยกันอยู่แล้ว จึงทำให้ภาพที่ได้มีสีสัน และรายละเอียดปลีกย่อยในส่วนสีขาว-ดำกระจ่างมากกว่าการถ่ายด้วยกล้องถ่ายภาพทั่วๆ ไป รวมถึงสามารถปรับจุดโฟกัสหลังจากทำการถ่ายรูปได้ด้วยเช่นกัน
ด้านกล้องถ่ายรูปด้านหน้ามีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง 2.4 ซึ่งก็ยังจัดว่ายังทำออกมาได้ดีถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ LEICA แล้วก็ตาม และสามารถปรับระดับความฟรุ้งฟริ้งกิงก่องแก้ว หรือ Beauty Mode ได้ถึง 10 ระดับเลยทีเดียว ที่สำคัญคือกล้องถ่ายภาพด้านหน้าของ Huawei P9 สามารถวัดแสงและชดเชยออกมาได้ค่อนข้างจะสว่าง หน้าขาวใส ถ้าหากใครที่โปรดปรานเซลฟี่ ก็ไม่ควรพลาด ยิ่งกว่านั้นยังสามารถถ่ายได้แม้ในที่แสงสว่างน้อย ก็ยังทำได้ดีอีกเช่นกัน เช่นท่านไปงานเลี้ยงยามค่ำคืน แต่ว่าอยากเซลฟี่ คุณก็สามารถถ่ายได้ทุกสถานที่ โดยไม่ต้องมองหาแสงจากที่ไหน เพราะจอของ Huawei P9 จะส่องสว่างทันทีที่คุณลั่นชัตเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่ราวกับแฟลชหน้าเลยเทียว
และถ้าล้วงลึกไปทีละโหมดการใช้งาน ก็คงเริ่มที่โหมดออโต้ ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้งานสบายที่สุด เพราะเพียงแค่ยก Huawei P9 ขึ้นมาแล้วกดชัตเตอร์เท่านั้น เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยอยากปรับอะไรมาก หรือผู้ที่ฝึกถ่ายรูป แต่ต้องการภาพถ่ายที่สวยงาม โหมดอัตโนมัติก็สามารถตอบโจทย์ส่วนนี้ได้ดี ถัดมาเป็นโหมดโปร เหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานการถ่ายรูปอยู่บ้าง ซึ่งท่านสามารถเลือก ISO / WB / Shutter Speed แต่ไม่สามารถปรับรูรับแสงได้ โดยตัวเครื่องจะกำหนดพื้นฐานที่ 2.2 และในโหมดโปรสามารถเลือกบันทึกภาพเป็นแบบ raw file ได้ด้วย หากใครอยากนำไปแต่งในโปรแกรมต่างๆ ต่อ แต่ก็ไม่ได้มีอานุภาพในการแต่งเยอะมากมาย เพราะด้วยขีดจำกัดเรื่องขนาดเซนเซอร์นั่นเอง
ถัดมาเป็นโหมดขาว-ดำ ในกล้องถ่ายภาพ Monochrome ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งเลยก็ว่าได้ เพราะว่าเป็นยี่ห้อแรกเริ่มที่มีกล้องถ่ายภาพเพื่อถ่ายขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะสามารถเก็บรายละเอียดความต่างแสง (Dynamic range) ได้มากกว่าถ่ายแบบสี ซึ่งได้ภาพที่ชัด สวยงามมาก เหมือนยังกะมาจาก LEICA ซะเองเลย และอีกโหมดที่น่าสนใจคือ โหมด Wide Aperture ซึ่งเป็นโหมดหน้าชัดหลังเบลอนั่นเองซึ่งในโหมดนี้เป็นการเลียนแบบรูรับแสง ซึ่งสามารถปรับต่ำสุดได้ที่ F 0.95 และสูงสุดที่ F 16 ซึ่งอาจจะทำได้ไม่ดีเหมือนกล้องถ่ายภาพใหญ่อย่าง DSLR เหตุเพราะมีขนาด Sensor ที่เล็กกว่านั่นเอง แต่ก็ไม่ได้ทำออกมาจนขี้ริ้วขี้เหร่
และโหมดสุดท้ายนี้ที่ไม่แนะนำมิได้ นั่นคือ โหมดถ่ายกลางคืน หรือว่า Night mode นั่นเอง ซึ่งถ้าท่านมีขาตั้งอีกตัว ภาพที่ท่านจะได้นี่เทียบเท่ากล้องถ่ายภาพใหญ่ๆได้เลยนะ เพราะถ้าหากปราศจากขาตั้งกล้อง อาจจะเป็นเหตุให้ภาพสั่นไหวได้ และโหมดนี้คุณสามารถเลือก ISO ได้สูงสุดที่ 1600 และ Shutter Speed เลือกเปิดได้นานถึง 32 วินาทีเลยเชียว แต่ถ้าไม่อยากปรับเปลี่ยนอะไร ก็สามารถให้ระบบเลือกให้อัตโนมัติได้เลย
นี่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Huawei P9 ซึ่งยังมีจุดเด่น สเปคการใช้งานต่างๆ ที่น่าศึกษาอีกเป็นเบือ แต่อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ว่า Huawei สายสกุล P Series นั้น มีข้อเด่นที่กล้องถ่ายภาพอยู่แล้ว ซึ่งหากใครที่นิยมชมชอบการถ่ายภาพ และอยากได้รูปถ่ายที่ค่อนข้างมีคุณภาพทัดเทียมกล้องใหญ่ๆ แถมสามารถพกพาได้อย่างง่ายดายมากกว่าพกกล้องจริงๆ เสียอีก ก็ขอแนะนำเครื่องนี้เลย ซึ่งณ เวลานี้ Huawei P9 ราคาได้ลดลง ซึ่งเริ่มต้นเพียง 7,300 บาทเท่านั้น ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ หรือร้านค้า ราคาอาจแตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ลองสำรวจราคากันอีกครั้งนะฮะ
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง :
Huawei p9Tags : Huawei p9,Huawei p9 ราคา,รีวิว Huawei P9