ในความคิดเห็นบรรดาชาวไทยหลายๆท่าน หากออกปากถึงแบรนด์ OPPO แล้วล่ะก็ หลายๆคนก็คงรู้จักมักคุ้นกันดีในนามโทรศัพท์ที่กำลังมาแรงแซงทางโค้ง และโดดเด่นทั้งด้านออกแบบและคุณสมบัติคุณภาพข้างใน หลายๆคนอาจจะติดภาพว่าออปโป้เป็นยี่ห้อจีนปกติ แต่หาได้เป็นเยี่ยงนั้นไม่ ออปโป้เป็นยี่ห้อระดับอินเตอร์ทื่นับวันขึ้นสู่จุดสูงทั้งยอดขายและเกียรติศักดิ์ มาตรฐานการผลิตก็ดีกรีเดียวกับซัมซุงหรือไอโฟนเลยทีเดียว แบรนด์ OPPO นั้นได้ถูกจดทะเบียนทั่วโลกเมื่อปี 2001 โดยมีนายโทนี่ เฉิน มิงยง ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและริเริ่มตั้ง OPPO ในประเทศจีนเมื่อปี 2004
โดยแรกๆ ใครๆจะรู้กันไหมว่า สินค้าประเภท DVD ,BD Player ของ OPPO มันเก๋กู้ดขนาดไหน และแบรนด์เค้าใหญ่แค่ไหนในเมืองเค้า OPPO ประสบผลสำเร็จอย่างเลิศในท้องตลาดเพลงพวกเครื่องเล่นเพลง MP3 และเครื่องเล่น MP4 เมื่อปี 2005-2007 ต่อจากนั้นก็เริ่มเข้าสู่ท้องตลาดสมาร์ทโฟน OPPO รุ่นแรกในชื่อ A103 และ A100 กับฟังค์ชั่น Smiley Face เมื่อปี 2008
จากนั้น OPPO ก็ได้เปิดฉากลุยตลาดมือถือทั่วโลกโดยบุกเบิกจากที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกสุดในการออกจำหน่าย แบรนด์ ออปโป้ นอกประเทศจีนเมื่อปี 2009 ซึ่งก็เป็นไปตามคาดว่าคนไทยให้การตอบยี่ห้อของต่างแดนอย่างท่วมท้น เสริมกับการที่ใช้พรีเซ็นเตอร์หนุ่มชาวเกาหลีโฆษณาก็ยิ่งได้ใจวัยรุ่นไทยไปเต็มๆ OPPO เริ่มสร้างมือถือมากมายรุ่นเพิ่มเรื่อยๆ จนกระทั่งปี 2016 OPPO เริ่มโทรศัพท์รุ่น F1 และ F1 Plus พร้อมเดบิวต์นวัตกรรมชาร์จเร็วขั้นสูง Super VOOC Flash Charge อีกด้วย ทำเอาค่ายมือถือหลายเจ้าหันมองขวับกันเลยทีเดียว
ส่วนประเด็นที่ว่า ออปโป้เป็นแบรนด์สัญชาติจีน เป็นไปได้ว่าจะดูไม่ไฮ ไม่แพง และกลัวไม่ได้หลักเกณฑ์นั้น ประเด็นนี้ก็อยากให้ทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า แบรนด์อินเตอร์เนชั่นแนลหลายๆยี่ห้อใช้จีนเป็นที่ตั้งผลิตสินค้า กระทั่ง Apple เองก็มี Foxconn ที่เป็นผู้ผลิตมือถือที่บางคนบอกว่าเยี่ยมยอดที่สุดอย่าง iPhone ให้ หรือ กระทั่ง องค์ประกอบหลากหลายในสมาร์ทโฟนหลายอย่างก็มีที่รองรับการผลิตที่จีน เช่นนั้นแล้วคำว่า ”Made in China” ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์ต่ำคุณภาพอย่างแน่นอน iPhone ก็จีน ผลิตก็คือจีนเหมือนกัน แท้จริงก็ไม่ใช่เรื่องประหลาดหรือเสียหายอะไร แล้วผลิตที่อื่น มันก็ไม่ได้ส่งผลให้ของแปรไปตรงไหนเลยสำหรับในมุมมองส่วนตัวของคนเขียน ส่วนแบรนด์อื่นถึงผลิตที่จีน แต่ ระบบตรวจสอบการผลิต มันของหน่วยงานนั้น ๆ เลย เลยทำให้อุ่นใจได้
ออปโป้มีกลอุบายการทำตลาดที่ถือว่าเฉียบพอตัว โดยเน้นจัดจำหน่ายผ่านหน้าร้านแทนขายผ่านเว็บ แต่ก็ไม่ได้ค้าขายผ่านร้านค้าผู้แทนจำหน่ายปริมาณมาก Oppo กลับใช้ระบบผู้จำหน่ายแบบ exclusive ที่ปริมาณอาจน้อยกว่า แต่ราคาไม่ตกหรือพุ่งลงในระยะยาวอย่างไม่เปลี่ยนแปลง และรับประกันส่วนต่างกำไรให้นายหน้าได้ด้วย การตลาดของแบรนด์ยังเจาะไปที่ฟังค์ชั่นเด่นที่ไม่เหมือนใคร โดย Oppo นอกจากนี้จะเน้นคุณสมบัติเสียงตึ้บๆเต็มๆเบสแล้ว ยังตัดเส้นที่กล้องถ่ายภาพที่มีทั้งความคมและกล้องหน้าที่มีชื่อเสียงในเรื่องการตกแต่งความสวยงามของพื้นผิวหน้าราวกับเป็นคนละคน นอกจากการโฆษณายังมีการลงโฆษณาในสื่อแบบดั้งเดิมอย่างทีวี โปสเตอร์ และหนังสือพิมพ์อีกด้วย ไม่ได้ไม่ไยดีการท้องตลาดกลุ่มคนวัยผู้ใหญ่ ซึ่งน่าจะเป็นอีกส่วนใดส่วนหนึ่งที่ทำให้
ออปโป้มีรายรับเพิ่มขึ้นอย่างกรากอีกเช่นกัน
ส่วนการยอมรับและกระแสจากลูกค้าของไทยเราจัดว่าดีถึงดีมาก ศูนย์ออปโป้ในบ้านเราบริการเร็ว ถึงแม้จะมีศูนย์บริการมีไม่เยอะ แต่ก็ดังกล่าวไว้ข้างต้นว่าออปโป้ต้องการตัดเส้นความเอ็กซ์คลูซีฟ มีผู้คนชมชอบในโลกไซเบอร์หรือตามเว็บบอร์ดกันพรั่งพร้อมไม่ขาดสายอย่างในพันทิปหรือในเฟสบุ้ค ซึ่งนั่นก็เป็นมั่นหมายอันงดงามว่าออปโป้ ไม่ปล่อยลอยแพฐานการตลาดคนไทยอย่างแน่นอน น่าจะทำให้ใครหลายคนเบาใจได้ในจุดนี้
ในทั้งหมดนั้นสำหรับ OPPO ต้องขอบอกกล่าวว่ามีทั้งมวลและภาพภายนอกที่ดี ปูพื้นฐานและมีความเป็นมาที่น่าเชื่อใจมาระดับสูง ผ่านการลองเชิงตรวจสอบหลักเกณฑ์ยอดเยี่ยม เหมาะที่จะเป็นตัวอย่างแห่งนิยามใหม่ของโทรศัพท์มือถือจากเอเชีย สมกับที่ทางผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ออปโป้ให้ความสำคัญ ตามที่ซีอีโอ OPPO ได้เคยพูดไว้ว่า “โปรดักส์ของออปโป้ทุกชิ้น เปรียบเสมือนศิลปะชนิดหนึ่ง ที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้” ฉะนั้นสำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจในเครดิตของยี่ห้อนี้ อย่าเพิ่งอคติด่วนตัดสินไป มูลค่าแต่ละรุ่นที่ออกมูลค่ามาก็ทำออกมาโอเคแล้วกับสเป็คที่มีเหตุผลขนาดนี้ ถ้าหากเรามัวแต่ยึดติดแบรนด์หรือยี่ห้อเดิมๆอยู่ ท่านก็อาจจะไม่มีวันได้เจอของดีค่าโดนๆแบบ OPPO ก็เป็นได้
Tags : oppo,ออปโป้,มือถือ oppo
