สมุนไพรลิ้นงูเห่าชื่อพื้นเมืองอื่น ลิ้นงูเห่า (จันทบุรี)ชื่อวิทยาศาสตร์ Clinacanthus siamensis Bremek.ชื่อสกุล ACANTHACEAEชื่อสามัญ Lin gnu hao.ลักษณะทั่วไปทางพฤกษศาสตร์ไม้เถาล้มลุก (HC) -> ลักษณะพุ่มเลื้อย เหมือนต้นเสลดพังพอนตัวเมีย ลำต้นกลมสีเขียวเรียวยาว
ใบ ลิ้นงูเห่า-> เป็นใบคนเดียว ลักษณะใบรูปหอกหรือรูปหอกแกมขอบขนาน กว้าง 2-4 ซม. ยาว 6-12 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบแหลม ขอบของใบเรียบ ก้านใบเล็กกลม แผ่นใบมีสีเขียวเข้ม ใบดกและหนาทึบ
ดอก -> ออกดอกเป็นช่อกลุ่ม สีแดงคละเคล้าส้ม แต่ละข่อประกอบด้วยดอกย่อยอัดแน่น 10-15 ดอก ลักษณะคล้ายดอกเสลดพังพอนตัวเมีย กลีบเลี้ยงสีเขียวเป็นรูประฆังตื้นๆโคนดอกชิดกันเป็นหลอดยาว ปลายแยกเป็นกลีบ 2 กลีบมีเกสรตัวผู้เป็นสีเหลืองแทงพ้นกลีบดอก
ผล ลิ้นงูเห่า-> เมื่อแห้งแตกได้ ภายในมีเม็ด
นิเวศวิทยากำเนิดดังที่รกร้างว่างเปล่าทั่วๆไป นิยมนำมาปลูกตามสถานที่ต่างๆทั้งสวนสาธารณะ วัด แล้วก็บ้านเมือง เพื่อเป็นไม้ประดับและใช้ประโยชน์ทางยา
การปลูกแล้วก็เพาะพันธุ์เป็นไม้กลางแจ้ง ถูกใจแดดจ้า น้ำไม่ขัง เจริญเติบโตได้ในดินร่วนซุย นิยมปลูกเป็นแปลงหรือเป็นแถว ขยายพันธ์ฺด้วยการเพาะเม็ดหรือการปักชำกิ่ง
ส่วนที่ใช้ รส รวมทั้งสรรพคุณ
ราก -> รสจืดเย็น โขลกพอกดับพิษแมลงกัดต่อย
ใบ ลิ้นงูเห่า-> รสจืดเย็น ตำหรือขยี้ทาแก้พิษร้อน โรคผิวหนัง พิษอักเสบและก็ปวดฝี รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ลดอาการอักเสบ
การใช้แล้วก็ปริมาณที่ใช้- เป็นยารักษาโรคผิวหนัง โดยใช้ใบสด 10-20 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาตำอย่างถี่ถ้วน ใช้ทารวมทั้งพอกบริเวณที่เป็น วันละ 2-3 ครั้ง เสมอๆ จนกว่าจะหาย
- ลดลักษณะของการปวดแสบปวดร้อนของตุ่มแผลงูสวัด โดยใช้ใบสด 10-20 ใบ ล้างให้สะอาดนำมาโขลกอย่างถี่ถ้วนผสมเหล้าโรงน้อย เอามาทาแล้วก็พอกบริเวณที่มีอาการ ตอนเช้า-เย็น บ่อยๆ
ข้อควรจะทราบสีจากน้ำคั้นจะติดอยู่นาน
ลิ้นงูเห่าจะต้องระวังการเลอะเทอะเสื้อผ้าและร่างกายส่วนอื่นๆ