รับทำSEOราคาถูก รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับโพสเว็บราคาถูก รับจ้างโฆษณาสินค้าราคาถูก

อุปกรณ์ออกบูธ

รับทำseoราคาถูก, รับดันอันดับเว็บ, รับโปรโมทเว็บราคาถูก รับติดแบนเนอร์ รับติดตั้งตาข่ายกันนก รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับติดแบนเนอร์ ตอกเสาเข็ม, ขายเสาเข็ม, ขายแผ่นพื้น, ปั้นจั่น, รับผลิตเสาเข็ม รับติดแบนเนอร์ ไนโตรเจนเหลว รับติดแบนเนอร์ รับติดแบนเนอร์

รับทำseoราคาถูก, รับโปรโมทเว็บไซต์, รับดันอันดับเว็บไซต์, รับทำเว็บไซต์, ออกแบบเว็บไซต์ราคาถูก, รับประกันติดgoogle

**ประกาศ!! เนื่องจากต้นทุนค่าโฮสติ้งสูงขึ้นมาก รบกวนสมาชิกใหม่(สมัครใหม่จะยังไม่อนุมัติ จนกว่าจะโอน) และเก่า(ทุกUserจะโดนลบ หากไม่โอนช่วย) โอนช่วยค่าโฮส ปีละ 200 บาท ด้วยนะครับ ติดต่อ Add Line : @posthitz

ผู้เขียน หัวข้อ: รางปลั๊กไฟมีแนวทางเลือกซื้อ อย่างไร  (อ่าน 46 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

popcorn2468

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3374
    • ดูรายละเอียด

Permalink: รางปลั๊กไฟมีแนวทางเลือกซื้อ อย่างไร
อุปกรณ์ที่เรารู้จักกันดีอย่าง ปลั๊กไฟ นับเป็นเครื่องใช้ไม้สอยไฟฟ้าที่ทุกบ้านเรือนต้องมีอย่างน้อยหนึ่งอัน ซึ่งคนทั่วไปมักมองข้ามเรื่องความปลอดภัย คิดว่าเลือกแบบไหนก็ได้ แต่ความจริงแล้วการเลือกรางปลั๊กไฟที่ได้มาตรฐานมีความสำคัญมาก ฉะนั้นมาดูกันดีกว่า ว่ามีวิธีเลือกรางปลั๊กไฟที่ปลอดภัยได้เกณฑ์เช่นไรบ้าง

  • ต้องได้รับการรับประกันมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. หรือได้รับเกณฑ์สากล เช่น CE TUV CCC CQC ซึ่งรางปลั๊กไฟที่ได้รับ มอก. โดยมากจะเป็นสายไฟ คือ มอก. 11-2531 โดยสายไฟหุ้มฉนวนทองแดง PVC ต้องรองรับอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส
  • ดูม่านเปิด-ปิดรูปลั๊กไฟ[/url] โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กๆ เนื่องจากจะช่วยปกป้องผลร้ายจากการที่เด็กเอานิ้วจิ้มลงไปในรูปลั๊กได้
  • ต้องดูสายไฟ สายไฟของชุดสายพ่วงหรือรางปลั๊กไฟต้องมีฉนวนหุ้ม 2 ชั้น รวมถึงเต้าเสียบและเต้ารับต้องมีแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เกิน 250 โวลต์ ซึ่งในการเลือกรางปลั๊กไฟควรดูขนาดของสายไฟด้วย ถ้านำไปต่อพ่วงกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟมากควรเลือกรางปลั๊กไฟที่มีสายไฟขนาดใหญ่พอจะส่งกำลังไฟไปได้
  • ต้องดูระบบฟิวส์หรือเซอร์กิจเบรกเกอร์ ที่จะช่วยตัดไฟฟ้าถ้าใช้ไฟมากเกินขนาดที่ระบุไว้ โดยเซอร์กิตเบรกเกอร์จะตัดไฟฟ้า ออกจากระบบโดยโดยอัตโนมัติ หรือฟิวส์จะขาดเพื่อตัดกระแสไฟ
  • ต้องดูที่วัสดุ รวมไปถึงความแข็งแรงของรางปลั๊กไฟ เบื้องต้นสามารถเขย่าเพื่อเช็กเสียงว่าไม่มีอุปกรณ์ภายในหลุดหรือทำไว้ไม่เรียบร้อย ถ้ามีอุปกรณ์ชิ้นใดชิ้นหนึ่งหลุดอาจทำให้เกิดอันตรายในการใช้งานได้ สำหรับวัสดุที่ใช้นำไฟควรเป็นทองแดงหรือทองเหลืองเท่านั้น เพราะนำไฟฟ้าได้ดี ถ้าใช้วัสดุจำพวกเหล็กชุบสี หรือโลหะอื่นๆ อาจเกิดความร้อนสะสมและไฟฟ้าลัดวงจรได้ ในขณะที่ตัวรางปลั๊กไฟควรเลือกพลาสติก ABS หรือ โพลีคาร์บอเนต ซึ่งเป็นพลาสติกคุณภาพสูง สามารถทนความร้อนและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี
  • ดูว่ามีสายดินหรือไม่ ในกรณีที่เกิดไฟช็อตหรือไฟรั่ว กระแสไฟเหล่านั้นก็จะไหลผ่านไปที่สายดินแทน ทำให้ผู้ใช้ไม่ได้รับอันตราย ซึ่งรางปลั๊กไฟบางแบรนด์มีรูสำหรับสายดินแต่พอแกะดูจริงๆ กลับไม่มี อาจเป็นเพียงรูเปล่าที่สร้างขึ้นมาเฉยๆ เท่านั้น
  • ต้องมีปุ่ม เปิด-ปิด เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานให้มากยิ่งขึ้น
  • ดูว่ามีระบบป้องกันไฟกระชากหรือไม่ ซึ่งระบบนี้สามารถป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ต่อพ่วงในกรณีที่เกิดไฟกระชาก เช่น คอมพิวเตอร์ ได้

    การคัดปลั๊กไฟที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ชี้แนะด้านบนอาจจะมีราคาสูงสักหน่อย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับความปลอดภัยสำหรับตัวผู้ใช้และทรัพย์สินภายในบ้าน นับว่าคุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง ฉะนั้นการเลือกรางปลั๊กไฟให้ดี เลือกให้โดน (ใจ) จะให้ความสบายใจในการใช้งานระยะยาวอย่างแน่นอน

    Tags : ปลั๊กไฟ,รางปลั๊กไฟ,ปลั๊กพ่วง



โฆษณาสินค้าฟรี ประกาศขายสินค้าฟรี โปรโมทเว็บฟรี