สหราชอาณาจักรมีผู้เสียชีวิตจากไวรัส
โควิด-19 มากกว่า 20,000 ศพแล้ว แต่ยอดดังกล่าวนับเฉพาะผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลเท่านั้น
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขแห่งสหราชอาณาจักรเปิดเผยในวันเสาร์ที่ 25 เม.ย. 2563 ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เฉพาะในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีก 813 ศพ รวมทั้งหมดเป็น 20,319 ศพแล้ว ขณะที่ยังไม่เปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตในบ้านพักคนชรา, บ้านเรือน, บ้านรับรอง และสถานที่อื่นๆ ในชุมชน
นางปรีติ พาเทล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของสหราชอาณาจักร กล่าวในงานแถลงข่าวประจำวันว่า จำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าวถือเป็นโศกนาฏกรรม และย้ำเตือนว่า ประเทศยังไม่หลุดพ้นจากวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 ประชาชนต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสอย่างเคร่งครัด
ปรีติ พาเทล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของสหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ เมื่อวันเสาร์นับเป็นวันที่ 51 หลังจากพบผู้เสียชีวิตเพราะไวรัสมรณะตัวนี้ศพแรกในสหราชอาณาจักร โดยในวันที่ 17 มี.ค. ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 71 ศพ เซอร์ แพทริค วอลแลนซ์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลอังกฤษ กล่าวว่า หากรัฐบาลสามารถควบคุมไม่ให้ผู้เสียชีวิตสูงกว่า 20,000 ศพได้ ก็ถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีแล้ว
จนถึงตอนนี้ สหราชอาณาจักรยังไม่มีทีท่าว่าจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ต่างจากหลายประเทศในยุโรปรวมทั้งสเปน ที่การระบาดเร่ิมชะลอตัวลง โดยนางเพเทล ยืนยันว่า รัฐบาลกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อให้ประเทศกลับสู่ภาวะปกติ แต่การล็อกดาวน์จะไม่ถูกยกเลิกจนกว่าจะบรรลุเงื่อนไข 5 ข้อเสียก่อน
อนึ่งเงื่อนไขทั้ง 5 ข้อประกอบด้วย 1. ต้องรับประกันว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) รับมือสถานการณ์ไหว, 2. อัตราการเสียชีวิตรายวันต้องลดลงอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน, 3. มีข้อมูลที่เชื่อถือได้แสดงให้เห็นว่า อัตราการติดเชื้อลดลงสูง ระดับที่สามารถจัดการได้, 4. ต้องรับประกันว่าจำนวนชุดตรวจโรคและอุปกรณ์ป้องกัน (PPE) เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต และ 5. ต้องมีความมั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆ จะไม่มีความเสี่ยงทำให้เกิดจุดพีครอบที่ 2