ยาขาว ยาสรรพไข้ มหาวิเศษดีนักแลฯ จากจารึกวัดโพธิ์
“มหาวิเศษดีนักแล คือการการันตีจากโบราณ”“มหาวิเศษดีนักแลฯ” คำนี้มีการจารึกไว้ในสูตรยาของจารึกวัดโพธิ์จริง ซึ่งในจารึกมากมายหลายตำรับยาที่มี ถ้าตำรับยาไหนในคัมภีร์ลงท้ายไว้ว่า “มหาวิเศษดีนักแลฯ” หมอไทยมักจะเลือกตำรับยานี้มารักษาคนไข้ก่อนเลย เสมือนว่ามีการการันตีจากครูยาโบราณ ซึ่ง
ยาขาวเองก็เป็นตำรับหนึ่งในคัมภีร์อันนี้ที่ถูกระบุไว้ว่า”มหาวิเศษดีนักแลฯ” ครูหมอไทยเองจึงเลือกเอาคัมภีร์นี้ขึ้นมารักษาในหลาย ๆ อาการตลอดช่วงระยะที่ผ่านมาของสยามประเทศ
“ยาขาวมีกี่สูตร และสูตรไหน มหาวิเศษดีนักฯ”ยาขาวตักศิลา เน้นผลการรักษา “
แก้สรรพไข้ทั้งปวง” คำว่า สรรพไข้ หมายถึง สารพัดไข้ ซึ่งมีมากมายหลายชนิด โดยคัมภีร์ยา ระบุให้ใช้สำหรับคนที่เป็นไข้ โดยมียารักษาหลายขนาน อาทิ
ขนานที่ 1 ถ้าจะแก้ เอาใบมะยม, ใบมะเฟือง, ใบหมากผู้, ใบหมากเมีย, ใบระงับพิษ, ใบหนาด, ใบสะเดา, ใบผักขวง, ใบผักไร, ขมิ้นอ้อย ละลายน้ำซาวข้าวทาน เพื่อล้อมตับดับพิษสรรพไข้ทั้งปวงดีนักฯ
ขนานที่ 2 เอายาจันทน์ขาว, รากหญ้านาง, รากท้าวยายม่อม, รากทูบทาบ, รากคาคลอง, รากฟักข้าว, รากผักสาบ, ผักหวานบ้าน เอาเสมอภาคทำเป็นจุณ บดทำแท่งไว้ ละลายน้ำซาวข้าวทั้งกินทั้งชโลม แก้ร้อน แก้หนาว แก้ทุรนทุราย ในไข้ออกแดงหายดีนักฯ
ขนานที่ 3 เป็นขนานสำคัญเพราะมีการลงท้ายไว้ว่า “มหาวิเศษนักฯ” ซึ่งกล่าวไว้ว่า ให้เอากระเช้าผีมด, หัวคล้า, รากทองพันชั่ง, รากชา, รากง้วนหมู, รากส้มเส็ด, รากข้าวไหม้, รากจิงจำ, รากสวาด, รากสะแก, รากมะนาว, รากหญ้านาง, รากฟักข้าว, รากผักสาบ, รากผักหวานบ้าน เอาเสมอภาคทำเป็นจุณ บดทำแท่งไว้ ละลายน้ำซาวข้าวทาน แก้ไข้รากสาด ไข้ออกดำ ไข้ออกแดง ไข้ออกขาว ไข้ประกายดาษ ไข้หงษ์ระทด ไข้ไฟเดือน 5 ไข้ละอองไฟฟ้า ไข้มหาเมฆ ไข้มหานิล ยาขนานนี้แก้ได้ทุกประการตามอาจารย์บัญญัติไว้ พึงว่าเป็นมหาวิเศษนักฯ จึงขอแนะนำให้เลือกสูตรยาตำรับนี้เพื่อใช้ในการรักษา
“ห้ามดัดแปลงคัมภีร์ เพราะบรรพบุรุษได้พิสูจน์ผ่านคนจริงหลายชั่วอายุคน จึงจารึกไว้ให้ลูกหลาน”ในการปรุงยาไทยนั้น ผู้ปรุงต้องปรุงยาตามคัมภีร์เท่านั้น ห้ามดัดแปลงหรือสร้างตำราของตนเองสอดแทรกขึ้นมา เพราะการนำไปใช้รักษาโดยไม่เคยผ่านการพิสูจน์ว่าได้ผล 100 เปอร์เซ็นต์ แม้หากผู้ดัดแปลงสูตรยาท่านนั้นอาจบอกได้ว่านำไปใช้ทดลองรักษาจริงมาแล้ว 50 คนหรือกี่คนก็ตาม ผู้ฟังต้องไม่ลืมว่าตำรับยาตามคัมภีร์ที่แท้จริงนั้น ถูกนำไปใช้ในการรักษาคนมาแล้วหลายพัน หลายหมื่นคน มาตั้งแต่อดีตหลายร้อยปีก่อน ก่อนที่บรรพบุรุษจะได้นำมาจารึกไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้นำมาใช้ประโยชน์ ความจริงจังยิ่งกว่าการทดลองแบบปัจจุบัน เพราะใช้ผ่านชีวิตคนจริงของบรรพบุรุษเราหลายชั่วอายุคน เพราะฉะนั้นไม่ควรแตกตำรา หรืออาจหาญในการสร้างตำราขึ้นมาเป็นของตน เพียงเพื่อชื่อเสียงอันโด่งดัง เพราะผลข้างเคียงที่ตามมาล้วนมีมากมาย
“กรมอนามัยโลก ยังยกย่องคัมภีร์ยา”กรมอนามัยโลก (WHO) มีหลักเกณฑ์การรับรองไว้แล้วว่า คัมภีร์ของทุกประเทศ หากมีการนำมาใช้ทำยาให้ถือว่าเป็นยาปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะผ่านการใช้รักษาจากชีวิตคนจริง ๆ มาแล้วเป็นจำนวนมาก สามารถใช้ได้เลยโดยที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ไม่ต้องนำมาพิสูจน์เหมือนยาสมัยใหม่ที่ต้องผ่านงานวิจัยต่าง ๆ มากมายเพื่อรับรองผลการรักษา
“บ้านหมอชอน เมืองเพชร กับคัมภีร์ยาของตระกูล ที่ส่งต่อมากว่า 300ปี”ในส่วนของบ้านหมอชอน เพชรบุรีเอง ในการรักษาของตระกูลที่สืบต่อมาถึง 5 รุ่นนั้น ก็ได้ใช้องค์ความรู้จากคัมภีร์ใบข่อยดำ ใบข่อยขาว ตั้งแต่รุ่นอาก๋งที่สืบทอดต่อมาอย่างยาวนานราว 300 ปี โดยใช้ตำรับยาเหล่านี้ในการรักษา ซึ่งเป็นตำรับยาที่ครูบาอาจารย์อันเป็นบรรพบุรุษของเราได้จารึกไว้ หมายถึงเขาใช้รักษาแล้วได้ผลจริง จึงส่งต่อภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยให้คนรุ่นหลังรับรู้ ศึกษา และได้รับการจดจำในรุ่นต่อ ๆ ไป
แหล่งที่มาของข้อมูล: จากการสัมภาษณ์ พทป.ดร.ฉัตร์วนิชย์ พวงมาลัย
แพทย์แผนไทยประยุกต์ พวงมาลัยติกิจฉาสหคลินิค (คลินิกบ้านหมอชอน จ.เพชรบุรี)