บลจ.กสิกรไทย ให้น้ำหนักการลงทุนใน
หุ้นไทย มองกำไร บจ.ปีนี้เติบโต 10% คาดปลายปีเห็นดัชนีที่ระดับ 1,690 จุด ล่าสุดเปิดตัว Fund Navigator ที่ช่วยจัดพอร์ตการลงทุนให้ตรงตามเป้าหมาย ผ่าน K-Cyber Invest
เมื่อวันที่ 1 ก.พ.60 นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวถึงมุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนในปีนี้ว่า เศรษฐกิจเอเชียเป็นภูมิภาคที่มีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะเศรษฐกิจไทยที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง จากการดำเนินนโยบายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการบริโภคภายในประเทศที่ดีขึ้นจากรายได้ภาคเกษตรกรที่ฟื้นตัว
ขณะที่เศรษฐกิจจีนและอินเดียมองว่าเริ่มกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น และยังมีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยปัจจัยบวกมาจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐรวมถึงการปฏิรูปประเทศที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ดังนั้น บลจ.กสิกรไทยจึงให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยและเอเชียมากกว่าภูมิภาคอื่นด้วยระดับราคาที่น่าสนใจกว่าในเชิงเปรียบเทียบ
สำหรับส่วนหุ้นไทย มองว่า ยังมีโอกาสปรับตัวต่อเนื่อง โดยคาดการณ์การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยปีนี้อยู่ที่ประมาณ 10% และมองเป้าหมายดัชนีฯ ปลายปีนี้อยู่ที่ระดับ 1,690 จุด ส่วนมุมมองการลงทุนในตราสารหนี้ คาดว่าตราสารหนี้เอเชียจะให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าภูมิภาคอื่น เนื่องจากธนาคารกลางในเอเชียมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติม ขณะที่อัตราดอกเบี้ยของไทยมีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีนี้
เปิดตัว Fund Navigator ช่วยจัดพอร์ตการลงทุน
นายวศิน กล่าวต่อว่า เพื่อให้การลงทุนในกองทุนรวมเป็นเรื่องง่ายขึ้น และต้องการให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญในการลงทุนเป็นเรื่องที่ใกล้ตัว รวมถึงการวางแผนการลงทุนที่มีประสิทธิภาพไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอีกต่อไป ทาง บลจ.กสิกรไทย จึงใช้เทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ในการวางแผนการลงทุน โดยเราวางเป้าหมายเป็น Robo-Advisor หรือการให้คำแนะนำผ่านระบบดิจิตอล เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมกองทุนในอนาคต
ทั้งนี้ บลจ.จึงเปิดตัวบริการ Fund Navigator โดยบริการดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือช่วยในการจัดกลุ่มกองทุนตามเป้าหมายการลงทุนของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมผ่านสมาร์ทโฟน อาทิ K-My PVD แอปพลิเคชันสำหรับลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และ K-Mutual Fund แอปพลิเคชันสำหรับลูกค้ากองทุนรวม
สำหรับการจัดกลุ่มกองทุนตาม Fund Navigator จะประกอบไปด้วย 5 กลุ่มตามเป้าหมายการลงทุน ได้แก่ กลุ่ม Liquidity หรือผู้ต้องการสภาพคล่อง เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะสั้น กลุ่ม Stability หรือผู้ต้องการความั่นคง ต้องการลงทุนยาวขึ้นเพื่อโอกาสการรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ที่มีอายุมากกว่า 1 ปี กลุ่ม Income หรือผู้ที่ต้องการรายได้สม่ำเสมอ และรับความผันผวนได้ค่อนข้างต่ำ
นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม Growth หรือผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อโอกาสเติบโตสูงในระยะยาว และสามารถรับความเสี่ยงจากการขาดทุนได้ในระยะสั้น และกลุ่ม Opportunity หรือ ผู้ที่แสวงหาโอกาสลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ที่ให้ผลตอบแทนสอดคล้องกับสภาพตลาด นอกจากนี้ บลจ.ยังใช้ Fund Navigator เป็นเครื่องมือในการกำหนดธีมและกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมตามภาวะเศรษฐกิจด้วย
นายวศิน กล่าวอีกว่า ปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเปิดตัวบริการ My Port Simulator หรือโปรแกรมสร้างพอร์ตลงทุนจำลอง ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้ลงทุนได้ทดลองจัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของตนเองผ่านพอร์ตการลงทุนแนะนำ เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจก่อนนำไปลงทุนจริง ซึ่งปรากฏว่าได้รับความสนใจและกระแสตอบรับจากผู้เข้ามาทดลองใช้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังได้เปิดตัว K-Cyber Invest โฉมใหม่ ที่มีการพัฒนาคุณสมบัติใหม่ๆ ให้รองรับการเป็นเครื่องมือช่วยวางแผนการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย.