เทคนิคเลือกซื้อโปรแกรมบัญชีให้เข้ากับร้านค้าของท่าน

[xcepter2016]

ปัจจุบัน SME หลายกิจการต่างสรรหาแนวทางที่จะสร้างความสามารถในการทำงานและลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลงเท่าที่จะทำได้ เพื่อสามารถแข่งขันและอยู่รอดในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นในเวลานี้ การปรับเปลี่ยนมาใช้  software โปรแกรมบัญชีอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยประหยัดต้นทุน แม้กระนั้นซอฟแวร์มีมากมายหลายตัวแทน จะเลือกซื้ออย่างไรจึงจะคุ้มกับเงินที่จ่ายไป เราจึงอยากขอแนะนำข้อควรพิจารณาเพื่อเป็นแนวให้ท่านตัดสินใจเลือกโปรแกรมบัญชีที่เหมาะสมกับกิจการของคุณ ดังนี้ครับ

1.ประเภทอุตสาหกรรม
บริษัทของท่านอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมไหน เป็นร้านขายปลีก กลุ่มผู้ผลิต หรือบริษัททางด้านงานบริการ ซึ่งแต่ละอุตสาหกรรม ก็มีรายละเอียดการทำบัญชีที่แตกต่างกัน นอกจากนี้นักพัฒนาซอฟแวร์จะออกแบบโปรแกรมบัญชีให้เหมาะสมกับแต่ละชนิดธุรกิจ แม้กระนั้น โปรแกรมบัญชีทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ดีกับอุตสาหกรรมหลายๆ ประเภทเหมือนกัน แต่ถ้าท่านต้องการโปรแกรมบัญชีที่มีรูปแบบการใช้งานเข้ารูปกับกิจการคุณ หรือมีส่วนปลีกย่อยพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น กิจการก่อสร้าง โรงงานผลิต และกิจการโลจิสติก ควรจ้างเขียนออกแบบโปรแกรมบัญชีเฉพาะสำหรับกิจการคุณจะดีกว่า
2.ขนาด บริษัท
รายละเอียดปลีกย่อยของการบันทึกบัญชีจะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับขนาดของ ร้านค้า คุณเลือกใช้โปรแกรมบัญชีทั่วไป ที่ทำงานได้อย่างดีกับ กิจการที่มียอดจำหน่าย 1 ล้านบาทต่อปี แต่ถ้าบริษัทของคุณมีขนาดใหญ่กว่านี้และมีความซับซ้อน โปรแกรมบัญชี ทั่วๆ ไป อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ เพราะฉะนั้นควร เลือกซื้อให้เหมาะสมกับขนาด และโปรแกรมสามารถอัพเกรดรองรับการเติบโตในอนาคตได้เช่นกัน
3.ฟังก์ชันอะไรบ้างที่ต้องการใช้งาน
ก่อนการ เลือกซื้อซื้อโปรแกรมบัญชีออนไลน์ควรถามว่ามีส่วนใดหรือโมดูลอะไรที่บริษัทท่านต้องการ ควรเขียนความต้องการเหล่านี้ คุณลักษณะ หรือฟังก์ชั่นที่อยากได้เป็นเรื่องๆ เสียก่อน บางธุรกิจอาจจะอยากได้การใช้งานที่ง่ายๆ หน้าต่างโปรแกรมไม่ซับซ้อน ขณะที่ธุรกิจอื่นอาจจะต้องรูปแบบตอบสนองรองรับในการชำระเงินออนไลน์ หรือการใช้เครดิตการ์ด หรือมีฟังก์ชั่นบริหารสินค้าคงเหลือ หรือสร้างดัดแปลงแก้ไขใบ invoice เองได้ ดั้งนั้นควร ซื้อโปรแกรมบัญชีสามารถรองรับความต้องการเหล่านี้ได้ และเข้ากับกิจการคุณ อย่าจ่ายเงินให้กับฟังก์ชันที่ไม่ได้ใช้งาน
4.การบริการ
ในเวลาที่คุณมีอุปสรรคใช้งานโปรแกรมบัญชี บริษัท software สามารถซับพอร์ท แก้ไขปัญหาได้ได้ดีเพียงใด ติดต่อสื่อสารได้ง่ายสะดวก น่าเชื่อถือหรือไม่ ตัวแทนดูแลอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงหรือไม่ และที่สำคัญบริษัทเหล่านั้น มีผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอที บัญชี คอยให้คำปรึกษาท่านหรือไม่ โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถ research จากอินเตอร์เน็ต หรือสอบถามกิจการที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน
5.งบในการซื้อ
งบประมาณจะเป็นปัจจัยที่ค่อนข้างสำคัญต่อการ ซื้อโปรแกรมบัญชี โดยโปรแกรมบัญชีแบบเบสิคจะมีมูลค่าที่ไม่แพงมากนัก แต่ถ้าคุณต้องการโปรแกรมบัญชีเฉพาะที่ดีไซน์ฟังก์ชันการใช้พิเศษ คุณคงต้องลงทุนสูงกว่าแน่นอน และก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อโปรแกรมบัญชีควรทำตารางวิเคราะห์ความคุ้มค่าออกมาเป็นตัวเลข เพื่อจะได้ทราบว่าท่านไม่ได้จ่ายค่าโปรแกรมบัญชีแพงเกินความจำเป็น หรือไม่คุ้มค่ากับการใช้งาน
6.โปรแกรมบัญชีบริษัทตัวแทนให้ทดลงใช้ฟรีหรือไม่
จะดีมากถ้าคุณสามารถทดลองโปรแกรมบัญชีใช้งานฟรีก่อนที่จะซื้อจริง เพราะจะสามารถเห็นแง่มุมต่างๆ ทั้งเรื่องความง่ายดายในการใช้งาน ปัญหาที่พบ การใช้งานฟังก์ชันโมดูลต่าง ลงตัวหรือไม่ ดังนั้น ก่อน เลือกซื้อซื้อไถ่ถามกับตัวแทนว่ามีตัวทดลองใช้ฟรีหรือไม่ โดยปรกติจะให้ใช้ฟรี 1-2 ปี ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากทีเดียว
ในที่สุดแล้วควรสอบถามธุรกิจอื่นๆ ที่คุณรู้จักเกี่ยวกับโปรแกรมบัญชีที่ที่อยู่ในลิส อย่างน้อย 3 กิจการ ควรไถ่ถามข้อดีข้อเสีย ปัญหาที่พบจากการใช้งาน อะไรที่ควรให้ตัวแทนปรับปรุง หรือการดูแลและให้คำปรึกษาของตัวแทนจำหน่ายเป็นอย่างไร ยิ่งไปกว่านี้สิ่งสำคัญควรซื้อโปรแกรมบัญชีที่ติดตลาด มีผู้ใช้จำนวนมาก ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นโปรแกรมที่ดี ไม่มีปัญหามาก

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://peakaccountonline.blogspot.com/2015/07/online.html

Tags : โปรแกรมบัญชี