กระเทียมกระเทียมกับผลดีต่อสุขภาพกระเทียม เป็นไม้ล้มลุกที่มีหัวลักษณะเป็นทรงกระเปาะอยู่ใต้ดินเหมือนกันกับหัวหอม ซึ่งแต่ละหัวจะมี 6-10 กลีบ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงทำครัว กระเทียมเป็นพืชที่ออกจะแตกต่างจากพืชทั่วไป เนื่องจากว่าอุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์ในปริมาณมาก นอกจากนั้นกระเทียมประกอบไปด้วยสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น อาร์จีนีน (Arginine) โอลิโกแซ็คคาไรด์ (Oligosaccharides) ฟลาโวนอยด์ (Flavoniods) และก็ซีลีเนียม (Selenium) ซึ่งล้วนเป็นสารอาหารที่มีสาระต่อสภาพทางด้านร่างกาย
กระเทียมหลายคนบางทีอาจจดจำกระเทียมได้จากกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีต้นเหตุจากสารอัลลิสิน (Allicin) นอกเหนือจากที่จะทำให้กระเทียมมีกลิ่นที่สะดุดตาแล้ว อัลลิสินยังเป็นสารออกฤทธิ์หลักที่มีสาระต่อสภาพร่างกาย และก็อาจมีส่วนช่วยรักษาโรคหรือทำให้อาการต่างๆ โดยที่ผู้คนจำนวนมากเชื่อว่าการรับประทานกระเทียมบางทีอาจช่วยทุเลาอาการที่เกี่ยวโยงกับหัวใจและก็เส้นโลหิต ความดันเลือด คอเลสเตอรอล ทุเลาหวัด รวมถึงใช้น้ำมันกระเทียมเป็นยาทาภายนอกเพื่อรักษาอาการติดเชื้อทางผิวหนัง เล็บ หรือช่วยรักษาอาการผมตกอีกด้วย
ดังนี้หลักฐานหรือหลักฐานทางด้านการแพทย์มีมากมายน้อยเท่าใดที่จะช่วยรับรองคุณประโยชน์ ประโยชน์ รวมทั้งความปลอดภัยของการกินกระเทียมที่มีบทบาทหรือส่วนช่วยสำหรับเพื่อการรักษาโรคกลุ่มนี้
ความดันโลหิตสูง อัลลิสินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่เจอได้ในกระเทียมสดหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาการที่มีส่วนประกอบของกระเทียม อาจมีส่วนช่วยผ่อนคลายของกล้ามเนื้อเรียบที่เรียงตัวในเส้นโลหิตและก็นำมาซึ่งการทำให้เส้นโลหิตขยายตัวและก็ทำให้ระดับความดันเลือดลดลดลง ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองชิ้นหนึ่งให้คนป่วยที่หรูหราความดันโลหิตสูงโดยที่มีค่าความดันซิสโตลิก (Systolic Blood Pressure: SBP) มากกว่าหรือพอๆกับ 140 ไม่ลลิตรปรอท กินกระเทียมบ่มสกัด (Aged Garlic Extract: AGE) ขนาด 960 มก. เป็นเวลา 12 สัปดาห์ พบว่าค่าความดันซิสโตลิกลดต่ำลงมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่กินยาหลอก จึงอาจพูดได้ว่าการรับประทานกระเทียมบ่มสกัดอาจมีคุณภาพสำหรับเพื่อการรักษาผู้เจ็บป่วยความดันเลือดสูงได้ดีมากยิ่งกว่ายาหลอก
แม้กระทั่งมีการทดสอบอีก 2 ชิ้นที่บ่งบอกถึงถึงความสามารถของกระเทียมสำหรับการลดระดับความดันโลหิตได้ดีกว่าการใช้ยาหลอก แต่เนื่องมาจากผลการทดลองบางทีอาจยังไม่ถูกต้องแม่นยำพอเพียงที่จะสรุปความสามารถของกระเทียมได้ว่าสามารถรักษาหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจแล้วก็หลอดเลือดในผู้เจ็บป่วยความดันเลือดสูง จึงยังจำเป็นที่จะต้องเล่าเรียนเสริมเติมเพื่อรับรองคุณภาพที่แน่ชัดยิ่งขึ้น
โรคมะเร็ง ความเกี่ยวเนื่องของการบริโภคกระเทียมและความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งยังกำกวมแล้วก็ยังคงเป็นที่แย้งกันอยู่ ซึ่งจะเห็นได้จากการค้นคว้าชิ้นหนึ่งที่ให้คนจีนทั้งปวงศชายและผู้หญิงที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารจำนวนกว่า 5,000 คน รับประทานสารอัลลิทริดินขนาด 200 มก.ต่อวัน ร่วมกับสารซีลีเนียมขนาด 100 ไมโครกรัมวันเว้นวัน ซึ่งล้วนเป็นสารสกัดที่ได้จากกระเทียม โดยทำการทดสอบเป็นเวลา 5 ปี แล้วก็เมื่อเปรียบเทียบกับกรุ๊ปที่กินยาหลอกแล้วพบว่ากลุ่มที่กินสารอัลลิทริดินร่วมกับสารซีลีเนียมมีความเสี่ยงต่อการเกิดเนื้องอกลดน้อยลง 33 เปอร์เซ็นต์ และก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะต่ำลงถึง 52 เปอร์เซ็นต์
แม้กระนั้น มีการศึกษาวิจัยอีก 19 ชิ้นทำให้เห็นว่า ยังไม่พบหลักฐานที่น่าไว้วางใจพอดีจะช่วยสนับสนุนความเกี่ยวพันของการบริโภคกระเทียมต่อการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะ มะเร็งหน้าอก มะเร็งปอด หรือโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก แล้วก็มีหลักฐานที่ค่อนข้างจำกัดที่สนับสนุนว่าการบริโภคกระเทียมบางทีอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งหลอดของกิน มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งในโพรงปาก หรือมะเร็งรังไข่
ทั้งนี้สถาบันโรคมะเร็งแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกา (NCI) ได้กล่าวว่ากระเทียมเป็นผักที่อาจมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง แต่ว่ายังมีเหตุอื่นๆดังเช่น ลักษณะของสินค้าที่ทำจากกระเทียม หรือปริมาณความเข้มข้นที่นานาประการ อาจจะก่อให้พิสูจน์ถึงคุณภาพของกระเทียมได้ยาก แล้วก็เมื่อเวลาผ่านไปหรือเก็บเอาไว้ภายในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะก่อให้ประสิทธิภาพของกระเทียมเสื่อมสลายไปได้ด้วยเหมือนกัน
แก้หวัด หลายคนเชื่อว่ากระเทียมมีฤทธิ์ต้านทานเชื้อจุลินทรีย์แล้วก็เชื้อไวรัส รวมทั้งมีการประยุกต์ใช้เพื่อคุ้มครองปกป้องและก็บรรเทาอาการหวัดมาอย่างช้านาน ซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้ชิ้นหนึ่งที่ให้อาสาสมัครปริมาณ 146 คน กินสารสกัดจากกระเทียมชนิดเม็ดซึ่งประกอบไปด้วยสารอัลลิซินขนาด 180 มก.วันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 12 อาทิตย์ แล้วให้อาสาสมัครจดบันทึกอาการเมื่อเป็นหวัด พบว่าในกรุ๊ปที่รับประทานสารสกัดจากกระเทียมมีรายงานการเป็นหวัดจำนวน 24 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอกที่มีรายงานการเป็นหวัดปริมาณ 65 ครั้ง ทั้งยังยังพบว่าระยะเวลาของการเป็นหวัดในกรุ๊ปที่กินสารสกัดจากกระเทียมมีปริมาณวันที่น้อยกว่า แต่ระยะเวลาการฟื้นฟูสภาพจากอาการหวัดของ 2 กลุ่มมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ถึงแม้ผลของการทดสอบข้างต้นจะบ่งบอกถึงถึงคุณภาพของกระเทียม แต่ว่าหลักฐานการทดสอบทางคลินิกยังน้อยเกินไปและก็จำเป็นจะต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกเพื่อรับรองความสามารถของกระเทียมให้แจ่มชัดยิ่งขึ้น
ลดน้ำหนักและก็มวลไขมัน ในคนป่วยภาวการณ์ไขมันพอกตับ ที่ไม่ได้มีเหตุที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ แต่มักเป็นผลมาจากโรคอ้วน โรคเบาหวานประเภทที่ 2 ความดันโลหิตสูง แล้วก็ไขมันในเลือดสูง ซึ่งการดูแลรักษาด้วยการรับประทานยา การผ่าตัด หรือลดหุ่นอาจไม่เพียงพอ ถ้าเกิดไม่ดูแลประเด็นการกินอาหารควบคู่ไปด้วย การรับประทานกระเทียมก็เลยอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะว่ากระเทียมเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกำมะถันหรือซัลเฟอร์รวมทั้งสารอาหารอื่นๆที่อาจมีคุณลักษณะคุ้มครองภาวะอ้วน ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาเรียนรู้วิจัยชิ้นหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยไขมันพอกตับที่มิได้เกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งสิ้นศชายรวมทั้งเพศหญิง อายุตั้งแต่ 20-70 ปี จำนวนทั้งมวล 110 คน รับประทานกระเทียมผงชนิดแคปซูลขนาด 400 มิลลิกรัม ซึ่งข้างในประกอบไปด้วยสารอัลสิลินขนาด 1.5 มก. วันละ 2 ครั้ง ตรงเวลา 15 สัปดาห์ โดยสามารถทานอาหารได้ตามปกติ แม้กระนั้นรับประทานกระเทียมได้ไม่เกินอาทิตย์ละ 2 กลีบ จากผลการทดลองทำให้เห็นว่า น้ำหนักและมวลร่างกายน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกรุ๊ปที่รับประทานยาหลอก จึงอาจจะบอกได้ว่าการรับประทานกระเทียมอาจช่วยลดปริมาณไขมันในตับแล้วก็คุ้มครองหรือชะลอการเกิดสภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีต้นเหตุที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตามการเรียนรู้ในอนาคตยังต้องวางแบบการทดลองให้ดีขึ้นรวมทั้งควรจะเพิ่มช่วงเวลาสำหรับในการทดลองเพื่อรับรองประสิทธิภาพของกระเทียมให้แจ่มแจ้งเพิ่มขึ้น
ลดระดับคอเลสเตอรอล หลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกระเทียมต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลยังคงไม่ตรงกัน ก็เลยทำให้ยังไม่สามารถสรุปได้อย่างแจ่มแจ้ง ซึ่งสอดคล้องกับการทดลองและการศึกษาโดยการทบทวนการค้นคว้าที่เกี่ยวเนื่องปริมาณ 29 ชิ้น ได้ชี้ให้เห็นว่า การรับประทานกระเทียมอาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวมได้บางส่วน แม้กระนั้นไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (High-Density Lipoprotein: HDL) เพิ่มสูงขึ้น หรือไม่ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลจำพวกที่ไม่ดี (Low-Density Lipoprotein: LDL) ซึ่งเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจน้อยลงอะไร ก็เลยยังจำเป็นต้องศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเพื่อหาบทสรุปและยืนยันคุณภาพของ
กระเทียมต่อระดับคอเลสเตอรอลที่กระจ่างเพิ่มขึ้น
ความปลอดภัยสำหรับในการรับประทานกระเทียมการกินกระเทียมค่อนข้างจะไม่มีอันตรายแม้กินในจำนวนที่เหมาะสม แต่ว่าอาจจะก่อให้เป็นผลใกล้กันได้ ดังเช่น ปากเหม็น มีกลิ่นเต่า รู้สึกแสบร้อนที่บริเวณปากหรือที่กระเพาะ แสบร้อนกลางอก ท้องขึ้น คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเดิน อาการเหล่านี้อาจทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อกินกระเทียมสด ทั้งยังการใช้กระเทียมสดทาหรือสัมผัสที่รอบๆผิวหนังอาจจะเป็นผลให้กำเนิดอาการแสบร้อนและก็ระคายเคืองได้
ข้อควรคำนึงสำหรับในการรับประทานกระเทียมโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลในกลุ่มต่อแต่นี้ไป
คนที่กำลังมีท้องหรือผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมลูก การกินกระเทียมในช่วงการมีครรภ์ค่อนข้างปลอดภัยถ้ากินเป็นของกินหรือในปริมาณที่เหมาะสม แต่ว่าบางทีอาจไม่ปลอดภัยแม้รับประทานกระเทียมเป็นยารักษาโรค อีกทั้งยังไม่มีช้อมูลที่น่าไว้ใจพอเพียงเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทา
กระเทียมที่รอบๆผิวหนังในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมลูก
เด็ก การรับประทานกระเทียมในจำนวนที่สมควรรวมทั้งในระยะสั้นๆบางทีอาจไม่เป็นอันตรายสำหรับเด็ก แม้กระนั้นการใช้กระเทียมทาบริเวณผิวหนังอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนและระคายเคือง
คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารหรือการย่อยอาหาร อาจจะก่อให้มีการระคายเคืองที่ทางเดินอาหารได้
ผู้ที่มีความดันเลือดต่ำ การกินกระเทียมอาจก่อให้ระดับความดันโลหิตลดต่ำลงมากยิ่งกว่าปกติ
ผู้ที่วางแผนเข้ารับการผ่าตัด ควรหยุดรับประทานกระเทียมก่อนจะมีการผ่าตัดอย่างต่ำ 2 สัปดาห์เนื่องจากว่าอาจส่งผลให้เลือดออกมากแล้วก็ส่งผลต่อความดันเลือดในระหว่างการผ่าตัด และผู้ที่มีภาวะเลือดออกเปลี่ยนไปจากปกติไม่ควรกินกระเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
กระเทียมสด เนื่องจากบางทีอาจเพิ่มการเสี่ยงให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น
คนที่อยู่ในระหว่างการรับประทานยารักษาโรค ตัวอย่างเช่น ไอโซไนอะสิด เพราะเหตุว่ากระเทียมบางทีอาจลดการดูดซึมของยาในร่างกายและมีผลต่อสมรรถนะการทำงานของยา รวมถึงไม่สมควรกิน
กระเทียมในระหว่างใช้ยาดังต่อไปนี้
ยารักษาการติดเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคภูมิคุ้มกับบกพร่องหรือโรคเอดส์
ยาคุม
ยาต่อต้านการแข็งตัวของเลือด
ยาต้านเกล็ดเลือด
http://www.disthai.com/
