กรดไหลย้อนห้ามกินอะไร อาหารที่ควรงด ลดการเกิดกรดไหลย้อน1. เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สามารถทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้โดยการทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนปลายเกิดการคลายตัว ทำให้สารในกระเพาะอาหารไหลเข้าสู่หลอดอาหารและทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางหน้าอก2. คาเฟอีน เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟและชา สารคาเฟอีน’ ในชา และกาแฟ กระตุ้นให้หูรูดส่วนปลายของหลอดอาหาร (ที่ช่วยปิดไม่ให้อาหารและกรดไหลย้อนขึ้นมา) คลายตัว ทำให้กรดไหลย้อนขึ้นมาได้ง่ายขึ้น จะเร่งการเกิดกรดในกระเพาะอาหารร่วมด้วย3. เครื่องดื่มที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สามารรถเพิ่มกรดและความดันในกระเพาะอาหาร ทำให้กรดในกระเพาะอาหารสามารถผ่านกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนปลายขึ้นมาได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นเครื่องดื่มอัดลมหลายชนิดยังมีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบซึ่งมีผลต่อการหลั่งกรดในกระเพาะเช่นเดียวกัน4. อาหารที่มีไขมันสูง ไม่ว่าจะเป็นของทอด เนื้อสัตว์ติดมัน เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของเนย มาการีน ล้วนมีผลทำให้กระเพาะอาหารบีบตัวลดลง ส่งผลให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าปกติ กรดจากกระเพาะอาหารจึงมีโอกาสไหลย้อนขึ้นมายังหลอดอาหารมากขึ้น5. อาหารหมักดอง อย่างปลาร้า หน่อไม้ดอง ผักกาดดอง ผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม กิมจิ ซูชิบางชนิดที่มีผักดอง ก็มีส่วนเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหาร ก่อให้เกิดอาการจุดเสียดแน่นท้องได้6. ช็อกโกแลต มีส่วนผสมของโกโก้ ซึ่งไปกระตุ้นการหลั่งสารซีโรโทนิน ให้หลั่งมากขึ้น ซีโรโทนิน เป็นทั้งฮอร์โมน และสารสื่อประสาท โดยปกติซีโรโทนินในทางเดินอาหารจะหลั่งออกมาเมื่อมีสารที่ระคายเคืองทางเดินอาหารเข้าไป ทำให้หูรูดต่างๆคลายตัว และเกิดการอาเจียนออกมาดังนั้นหากหูรูดหลอดอาหารคลายตัวมากกว่าปกติก็จะทำให้กรดไหลย้อนขึ้นมาง่ายขึ้นนั่นเอง7. ผักที่มีกรดแก๊สมาก อย่างเช่น หอมหัวใหญ่ดิบ กระเทียม พริก พริกไทย หอมแดง เปปเปอร์มินต์ หรือสะระแหน่ รวมทั้งผักดิบทุกชนิดก็ควรเลี่ยง เพราะผักเหล่านี้จะไปเพิ่มกรดแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก8. ผลไม้ที่มีกรดมาก ผลไม้ที่ผู้ป่วย
กรดไหลย้อนห้ามกินหรือควรเลี่ยงไว้เป็นดี คือกลุ่มผลไม้ที่มีกรดมาก เช่น ส้ม องุ่น มะนาว มะเขือเทศ สับปะรด ส้มโอ หรือน้ำผลไม้รสเปรี้ยวจัด รวมไปถึงซอสมะเขือเทศก็ควรเลี่ยงด้วยเช่นกัน9. น้ำส้มสายชู น้ำส้มสายชูจัดเป็นเครื่องปรุงรสที่มีกรดมาก ดังนั้นผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนไม่ควรเติมน้ำส้มสายชูลงในอาหาร เพราะจะเป็นการเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารมากขึ้นไปอีก
https://www.poonrada.com/sickness/detail/56